อื่นๆ

หลอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
หลอน

เมื่อคนตายมาเยี่ยม

​​​​​​ย้อนไปเมื่อ​ 4 ปีที่แล้ว​ ในตอนนั้น​ฉันทำงานอยู่ฝ่ายการตลาด​ให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์​  ซึ่งบริษัททำธุรกิจแบบซื้อมาขายไป​ หรือ​ Trading นั้นแหละ​ ด้วยการแข่งขันที่สูงเพราะมีกันมากมายหลายเจ้า​

"พนักงานขาย"

จึงถือเป็นส่วนที่จำเป็นและสำคัญมากอันดับต้นๆ​ ในธุรกิจประเภทนี้​

"เจ"  คือชื่อของพนักงาน​ใหม่​ ที่เพิ่งมาเริ่มงานวันนี้​เป็นแรก​ น้องมาแบบใสๆ​ ตามประสาเด็กจบใหม่​ที่ยังไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน​ ​เป็นเด็กผู้ชายที่ค่อนข้างจะขี้อาย​ ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง​

ดังนั้นฉันจึงมีหน้าที่เป็น​ "พี่เลี้ยง​" ให้กับเจ​  เทรนงานให้เจ​ 2 วัน​ ในเรื่องทั่วๆไป​ และเจเทรนเชิงลึกอีก​ 1 สัปดาห์​ จึงเริ่มออกตลาดหาลูกค้า​

เจเป็นคนที่มีความตั้งใจทำงาน​ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง​ ไม่กล้าตัดสินใจ​​ เกิดปัญหาในการทำงานหลายเรื่อง​ จึงทำให้เจไม่ผ่านโปร​ ในเดือนที่่​ 3 ของการทำงาน​ แต่เจขอโอกาส​อีกครั้ง​ ​ ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสต่อโปรออกไป​ คงมองความตั้งใจและเห็นใจ​ เพราะเจเป็นเสาหลักให้ที่บ้าน​ แถม​ยังมีน้องสาวที่กำลังเรียน​และต้องใช้เงิน​

Advertisement

Advertisement

กลับมารอบนี้​ ​เจจึงลุยงานหนักขึ้น​ พยายามมากขึ้น​ ในที่สุดเจก็ผ่านโปร​ บรรจุเป็นพนักงานประจำ  แต่ดูเหมือนว่าเจเครียดๆ​ ไม่ค่อยคุยเล่นกับใคร​หรือเล่าเรื่องส่วนตัวเท่าไร​ ทุกคนจึงรู้เรื่องของเจแต่เพียงผิวเผิน

ย่างเข้าเดือนที่​ 8 ในเช้าวันศุกร์ที่แสนวุ่นวาย​เพราะเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน​ ก่อนจะหยุด​ ​2 วัน​ ​ในวันนี้มีลูกค้าหลายราย โทรเข้ามาที่ออฟฟิศว่าไม่สามารถติดต่อ​เจได้​  ฉันรับเรื่อง​ไว้​ และพยายามติดต่อเจ สัญญาณ​โทรศัพท์​ติดแต่ไม่มีคนรับ​ ฉันโทรอีก​ ​2-3​ สาย​ ก็เหมือนเดิม​ไม่มีคนรับ​ เลยได้แต่ส่งเมล​แจ้งเรื่องงานที่ฉันรับเรื่องและประสานต่อไว้​ ​เพราะฉันจะลางาน ​คงไม่ได้เจอในวันจันทร์

จนวันอังคารฉันกลับมาทำงานตามปกติ​ แต่ยังไม่สามารถติดต่อเจได้​ ซึ่งมันผิดปกติเกินไป​แล้ว​ จึงไล่โทรหาบรรดาเพื่อนเซลที่ดูสนิท​ ให้เข้าไปดูเจหน่อย​ อาจไม่สบายหรือเป็นอะไรหรือเปล่า​ กว่าจะว่างเข้าไปดูเจกันได้ก็เป็นช่วงเย็น แต่เข้าไปไม่ได้​เพราะไม่มีคีย์การ์ด​ และทางห้องพักไม่อนุญาติให้คนนอกเข้าไปได้​ น้องที่ไปเลยฝากเรื่องให้ช่วยไปดูเจให้หน่อย​ ​เพราะติดต่อไม่ได้มาหลายวันแ​ล้ว ทางนิติฯ  ก็รับเรื่องไว้​

Advertisement

Advertisement

จนช่วงสายวันต่อมา​ มีตำรวจต่อสายมาที่บริษัท​  เพราะพบบัตรพนักงาน​   และแจ้งว่า​

เจเสียชีวิตแล้ว​ ​พบศพอยู่ในห้องพัก!!!!

คือนิติฯ ห้องพักโทรไปแจ้งความ​เมื่อวานตอนเย็น หลังจากน้องๆ​ กลับ​ทางนิติ​ก็ลองไปเคาะเรียก​เพราะห้องเปิดแอร์ไว้​ และล็อคจากด้านใน​ คิดว่าต้องมีคนอยู่ เคาะเรียกอยู่นานแต่ไม่มีใครมาเปิดประตู​ ประกอบกับได้กลิ่นเหม็นเน่า​ เลยคิดว่าอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น​ จึงพังประตูเข้าไป​ ก็พบเป็นศพไปแล้ว

ข่าวแพร่สะพัดในออฟฟิศอย่างรวดเร็ว​  ทุกคนตกใจ​ รวมทั้งฉันด้วย​ เพราะที่บริษัทไม่เคยมีเหตุการณ์​แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน​ ทั้งตัวผู้จัดการเองที่ต้องไปสถานที่เกิดเหตุ​​ และ​​ฝ่ายบุคคล ต้องแจ้งไปยังครอบครัวของเจ

พนักงานต่างจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องนี้​ ผู้จัดการไปถึงแล้ว​ และส่งรูปเจมาทางไลน์กลุ่ม​

สภาพที่เห็นจากรูปคือ​ เจนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเตียง​ สภาพศพเริ่มขึ้นอืด​ บางส่วนเริ่มเน่า​ ตาถลนออกมาจากเบ้ามีน้ำเลือดน้ำหนองไหลนองเป็นทางเต็มที่นอน

Advertisement

Advertisement

สาบานได้เลยว่ามันติดตาฉันจนนอนไม่หลับ​ มันหลอน....

ผลชันสูตร​ออกมาว่า​ เจเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำว่า​ 3 วัน​ ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว

"จะเป็นไปได้ไง"

พี่แก้ว​ที่เป็นพนักงานขายแผนกเดียวกันพูดขึ้น

"เมื่อวันจันทร์ช่วงสายๆ​ ยังเจอและคุยกันอยู่เลย"

ฉันถามย้ำๆ​ ว่าจำวันผิดเปล่า?

พี่แก้วยืนยันว่าไม่ผิดแน่นอน

"เจยังถามพี่ว่า​ ผมมีงานอะไรที่ค้างกับพี่อีกไหม​ พี่ยังบอกว่า​ ไม่มีอะไรค้าง"

โอ้ย.. ขนลุกกก😱😱

ไม่แค่นั้น​  ยังมีแผนกสโตร์​และ​โอเปอร์เรเตอร์​ ที่เห็นเจเดินเข้ามาทำงานในเช้าวันจันทร์อีกด้วย

Omg?!?  ทั้งกลัวทั้งสงสารน้องที่คงห่วงงานมากและคงยังไม่รู้ตัวว่าตายไปแล้ว​

ไม่มีใครกล้าทำงานล่วงเวลา​ พอถึงเวลาเลิกงาน​ ทุกคนรีบกลับบ้าน​ เลิกงานตรงเวลาเป๊ะ​ เป็นแบบนี้อยู่เป็นเดือนๆ​

คิดแล้วยังหลอนไม่หาย​?!!!!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์