อื่นๆ

อยู่แต่หอคนเดียว 4 เดือน ไม่ออกไปไหนเลย แล้วพบว่า...

775
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อยู่แต่หอคนเดียว 4 เดือน ไม่ออกไปไหนเลย แล้วพบว่า...

ในช่วงโควิดที่กรุงเทพปิดเมือง ไม่สามารถออกไปไหนได้ ร้านหลายร้านปิดให้บริการ และจำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้เราเกิดความหวาดกลัวไม่อยากออกไปไหน ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ มีใครเคยอยู่คนเดียวนานๆ โดยไม่ออกไปไหน ไม่เจอผู้คนเลย นานที่สุดเท่าไหร่คะ โดยพื้นฐานแล้วเราเป็นคนที่ค่อนข้าง Extrovert ชอบเข้าสังคม ชอบออกไปเจอผู้คน ชอบไปทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น แต่อาจจะนับว่าเป็นความโชคดีได้ไหมที่เราเป็นลูกคนเดียว โตมาใช้ชีวิตคนเดียว นอนห้องนอนแยกห้องตั้งแต่เด็ก เลยทำให้การอยู่คนเดียวนานๆไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายที่จะอยู่แบบไม่ออกไปไหนเลย เป็นระยะเวลา 4 เดือน

เราเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ เลยต้องอาศัยอยู่ในหอพักที่ใกล้มหาลัย แต่ช่วงโควิดแบบนี้หอพักมีแต่คนที่ย้ายออก ไปทำงาน เรียนออนไลน์ที่บ้าน หรือเปลี่ยนไปอยู่ที่ถูกใจกว่า แต่เราก็เลือกที่จะอยู่ที่หอ เพราะตอนนั้นก็แอบหวังว่าอาจจะไม่ปิดนานขนาดนั้น เราอาจมีโอกาสที่ได้เข้าไปทำแลบที่มหาลัยบ้าง เวลาล่วงเลยไป สถานการณ์มีแต่จะแย่ลง ถึงตอนนั้นเราก็กลับไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องอยู่ที่หอต่อไป และไม่ออกไปไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นห้าง ตลาด หรือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เราไม่ออกไปไหนเลย อยากซื้ออะไรก็กดสั่งจากแอป ไม่ว่าจะเป็นไม้จิ้มฟันยันเรือรบ เรามีความสามารถในการกดสั่งแอปได้หมดเลย มีเวลาใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองออกแบบได้เต็มที่ อยู่กับตัวเองนานขึ้น แล้วก็ได้พบข้อคิดจากตัวเอง 6 ข้อ พบว่า….

Advertisement

Advertisement

1. เราเติบโตขึ้นในทุกวัน

เราเติบโตขึ้นในทุกวัน

เวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวันนั้น เราใช้มันไปด้วยตัวเอง ของตัวเราคนเดียว แน่นอนอยู่แล้วว่าอยู่แต่ในห้องมันก็ต้องเบื่อ เราจึงหากิจกรรมอะไรทำ ในส่วนตัวเราเราจะทำอาหาร ทำขนม เหตุการณ์ที่เกิดระหว่างนั้นมันไม่ใช่แค่ทำขนม แต่อาจจะมีประสบการณ์อื่นๆที่ให้เรียนรู้ อย่างเช่น มีดบาดมือ น้ำร้อนลวกมือ มือเผลอจับกะทะร้อนๆ พอเราเคยเจอประสบการณ์แบบนี้เราก็จะระวังในครั้งต่อไปมากขึ้น เฉกเช่นเดียวกันกับการเรียนออนไลน์ ช่วงแรกเราค่อนข้างที่จะทรมาน เครียด กับการเรียนแบบนี้ แต่เวลาและกำลังใจจากตัวเองจะทำให้เราผ่านมันไปได้ และกลายเป็นคนที่เก่งในการใช้ชีวิตขึ้นในทุกๆวัน

2. การเอาแต่ใจตัวเองไม่ใช่เรื่องที่แย่

เอาแต่ใจตัวเอง

การออกแบบชีวิตว่าอยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำอะไรก็ไม่ทำ เป็นสิ่งที่ดีมากในเวลาที่อยู่คนเดียวเพราะเราไม่ต้องมากังวลว่า ถ้าเราเลือกทำสิ่งนี้ สิ่งที่เราเลือกจะไปทำให้อีกคนไม่พอใจหรือเปล่า ถ้าเราเลือกทำอีกแบบหนึ่งเราจะสบายใจหรือเปล่า สิ่งชั่งน้ำหนักแบบนี้ไม่เกิดขึ้นเลยในแต่ละวัน มีเพียงแต่จะชั่งว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่เราชอบ  และอยากจะทำมากที่สุด เช่น ถ้าวันไหนอยากตื่นสายก็ตื่นสายมากๆโดยที่ไม่ต้องมากังวลว่าจะมีคนมาปลุกเราหรือเปล่า เราสามารถเลือกสิ่งที่เราอยากทำได้เต็มที่

Advertisement

Advertisement

3. เรามีสิ่งที่เราอยากทำในอนาคต

มีสิ่งที่อยากทำในอนาคต

การอยู่แต่ในห้อง มันก็คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่แต่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ในเวลานานๆ มันจะเกิดความเบื่อหน่าย ความเครียด ความอุดอู้ ที่อยากเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในชีวิตบ้าง เราจะมีความคิดที่อยากทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ ในอนาคต หรืออาจจะมีการนัดชวนเพื่อนมาเจอกันโดยมีเครื่องหมายคำพูดที่ว่า “ถ้าสถานการณ์มันดีขึ้น” เราจะมาเจอกัน เราจะไปเที่ยวกัน เราจะไปทำกิจกรรมนั้นด้วยกัน ถึงแม้มันอาจจะทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่มันก็เป็น 1 ในเหตุผลที่ทำให้เรามีความหวังในการใช้ชีวิตต่อไป

4. การนอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้แปลว่าเราขี้เกียจ แต่เรารู้จักวิธีการพักผ่อน

อยากนอน

การที่ยกการเรียนการทำงานมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด เราก็มีโอกาสที่จะใช้เวลากับเวลางานมากกว่าปกติ ทำให้บางทีเรารู้สึกเหนื่อยล้า หมดไฟ กับการทำงาน สิ่งที่เคยชอบในอดีต แต่ตอนนี้ไม่อยากทำมันแล้ว ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้โดยการพักผ่อน ในสถานการณ์ที่ออกไปไหนไม่ได้ แน่นอนว่าเราจะเลือก “นอน” เราจะเลือกนอนอยู่กับที่ โดยฝึกให้จิตใจไม่รู้สึกผิดกับการพักผ่อน พอได้พักผ่อนก็เหมือนได้ชาร์จแบตแล้วพอถึงเวลาที่พร้อมทำงาน เราจะทำมันได้แบบไม่ทรมานและทำได้ไหลลื่นมากขึ้น

Advertisement

Advertisement

5.  การเปล่งเสียงคุยกับตัวเอง สามารถชำระสิ่งกังวล ความเครียด ที่ตกค้างในจิตใจได้

คุยกับตัวเอง

การอยู่ตัวคนเดียวในเวลานาน ถึงแม้ในห้องจะเปิดเพลงดังแค่ไหน หรือเพลงนั้นเราจะเคยชอบฟังมากแค่ไหน มาเปิดทั้งวัน ในใจเราลึกๆแล้วเราก็คงยังเงียบเหงามากๆอยู่ การ Work from home หรือการเรียนออนไลน์ ในแต่ละวัน ในแต่ละวันจะสร้างความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว เราจะมารู้ตัวว่าเครียดก็ในตอนที่เราจะทนมันไม่ไหวแล้ว การที่เราเปล่งเสียงคุยกับตัวเอง โดยพูดความคิดที่ตัวเองคิดอยู่ตอนนั้นออกมา จะช่วยให้เราเข้าใจถึงปัญหาของเราในแต่ละวันมากขึ้น แล้วยังรู้สึกเบาตัวมากขึ้นเพราะการพูดเหมือนการทิ้งสิ่งที่มารบกวนจิตใจเราตอนนั้นออกไป

6. สังคมออนไลน์ทำให้เราเหงามากขึ้น

สังคมออนไลน์

โลกในออนไลน์กับโลกในความเป็นจริงนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน เพราะโลกออนไลน์เราจะเลือกแชร์สิ่งที่เราอยากให้ผู้คนเห็นเฉพาะโมเมนต์หนึ่งๆ เท่านั้น ดังนั้นเราก็จะเห็นแต่มุมมองของผู้คนที่สนุก มีความสุขเป็นส่วนใหญ่ การที่อยู่คนเดียวนานๆ ก็อาจจะมีความอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเราก็ควรใช้เวลากับ Social Media อย่างเหมาะสม หากใช้เวลากับสิ่งนี้มากไปอาจเกิดความนอย ความเครียดสะสมได้

โดยสรุป ทั้งหมดนี้เป็นข้อคิดจากการที่เราตกตะกอนจากประสบการณ์ ความคิดเห็นของตัวเอง อาจจะไม่สามารถอ้างอิงได้กับทุกคนทั้งหมด แต่ก็แอบหวังว่าจะเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะคะ อย่างไรก็ตาม ก็ยังคิดว่าการใช้ชีวิตแบบปกติ ที่ให้สมดุลระหว่างโลกภายนอก และโลกส่วนตัวของตัวเองอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากจะอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองแล้ว เราควรออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ไปพบปะสังคมใหม่ และไปเปิดหูเปิดตาดูสิ่งแวดล้อมใหม่ๆบ้าง สุดท้ายนี้ก็หวังว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย เราทุกคนสามารถรับมือได้อย่างปลอดภัย และสามารถได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่ตัวเองอยากทำได้ไวๆนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
eyeamhungry
eyeamhungry
อ่านบทความอื่นจาก eyeamhungry

สถานะนิสิต online ที่รอไปเรียน on-site

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์