อื่นๆ

เมื่อชาติที่แล้ว...ฉันไปขโมยเครื่องมือแพทย์

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อชาติที่แล้ว...ฉันไปขโมยเครื่องมือแพทย์

เรื่องมีอยู่ว่าในปีที่แล้วจากความฝันของฉัน ฝันว่าฉันได้เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ จากนั้นฉันก็ไปพบหีบใบใหญ่ก็เลยเปิดดูและขโมยเครื่องมือแพทย์บางส่วน ในฝันฉันเห็นตัวเองกำลังขโมยเครื่องมือแพทย์ในหีบใบนั้น และก็มีนายแพทย์คนหนึ่งเดินมาพบพอดี จากนั้นเค้าก็พูดว่ากับฉันว่า “ฉันจะไม่ขออโหสิกรรมให้เธอกับสิ่งที่เธอทำ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน” ในความฝันฉันก็เลยถามนายแพทย์คนนั้นว่า คุณชื่ออะไร นายแพทย์ก็ไม่ตอบอะไรกลับมา แต่ฉันรับรู้ได้ว่า เค้าโกรธฉันมาก ฉันพยายามพูดคุยกับเค้า ฉันอยากขอโทษกับสิ่งที่ฉันทำในชาติที่แล้วหรือในความฝัน ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่า ฉันทำไปทำไม แต่ตอนนี้ฉันระลึกได้แล้วว่า ฉันอยากขอโทษ ฉันถามนายแพทย์คนนั้นอีกครั้งขอทราบชื่อได้มั้ยคะ ฉันคิดว่าพอฉันตื่นมา ฉันไปทำบุญให้เค้า และเค้าก็ยอมบอกชื่อแต่โดยดีทั้งชื่อและนามสกุล ฉันสะดุ้งตื่นกลางดึกพร้อมกับรีบเขียนชื่อนายแพทย์คนนั้นไว้ที่ข้างหัวเตียง และล้มตัวลงนอนต่อเพื่อรอให้ถึงเช้า พอเช้าวันรุ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือ กระดาษที่ฉันเขียนหายไป หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฉันต้องมานั่งทบทวนความฝันอีกครั้งเพื่อนึกชื่อของนายแพทย์คนนั้น

Advertisement

Advertisement

 Cr.Photo by Piron Guillaume on Unsplash

Cr. Photo by Piron Guillaume on Unsplash

แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นใจ ฉันไปทำบุญใส่บาตรในขณะนั้นที่กำลังถึงบทอุทิศส่วนบุญกุศล ฉันนึกชื่อเค้าไม่ออกเลย พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ได้แต่ภาวนาแล้วเสียงนั้นก็เข้ามาก้องในหัวขอฉันอีกครั้ง “ฉันจะไม่ขออโหสิกรรมให้เธอกับสิ่งที่เธอทำ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน” ฉันได้แต่คิดว่าฉันต้องทำอย่างไรดี ตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าฉันจะไปทำบุญกับที่บ้าน ไปปฏิบัติธรรม ฉันก็พยายามนึกถึงเค้าตลอด บางครั้งฉันทำทุกอย่างเพื่อที่จะจำชื่อเค้าให้ได้ ฉันบันทึกชื่อเค้าไว้ในโทรศัพท์ พอถึงเวลาที่จะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ฉันหาชื่อเค้าในโทรศัพท์ไม่เจอ แต่ฉันจำได้ว่าฉันบันทึกและไม่ได้ลบออกไปแน่ ๆ ทุกอย่างก็ดูเหมือนไม่เป็นใจ จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งปี

Cr.Photo by Piron Guillaume on UnsplashCr. Photo by Piron Guillaume on Unsplash

Advertisement

Advertisement

ฉันประสบอุบัติเหตุ...ปอดแตก พอถึงโรงพยาบาลเข้าห้องฉุกเฉิน ทุกอย่างเหมือนในหนังมาก ๆ รถเข็นวิ่งมารับตัวฉันเข้าห้อง ICU ด้วยความเร็วในห้องรายล้อมไปด้วยหมอและพยาบาลที่พร้อมเอาสายทั้งหลายมาติดตัวเราเต็มไปหมด วินาทีนั้นเหมือนฉากในหนังที่กำลังจะช็อตเรามาก ๆ นาทีนั้นเป็นนาทีชีวิตจริง ๆ ภาพในหัวตัดสลับกันไปมาแบบเร็วมาก ๆ ภาพอดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือสิ่งที่เรากังวลอยู่ในใจ ภาพจะปรากฏขึ้นแบบวินาทีต่อวินาที ทันใดนั้นเองหนึ่งในภาพที่ปรากฏในหัวเราตอนนั้นคือ ความฝันของปีที่แล้ว ที่ฉันไปขโมยเครื่องมือแพทย์ และฉันก็เห็นนายแพทย์คนนั้นที่ฉันเคยฝันถึง สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนั้นคือ การมีสติ กำหนดจิตของตัวเองมันเป็นช่วงที่ทรมานที่สุดร่างกายเราเจ็บปวดมาก โดยสายเครื่องมือหมอ ทิ่มแทงเข้ามาร่างกายเรา ฉันได้แต่ภาวนาในใจว่า “ฉันได้รับรู้กับความเจ็บปวดครั้งนี้แล้ว ฉันขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ฉันทำในชาติที่แล้ว” มันเป็นความรู้สึกเหมือนจิตเรากำลังออกจากร่าง ทันใดนั้นดึงสติแล้วนึกถึงหน้าแม่ แล้วพูดกับตัวเองว่า “เราจะตายไม่ได้ ถ้าพ่อแม่เรายังไม่สบาย” ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกได้แต่สวดมนต์บทที่นึกขึ้นได้คือ สัพเพ สัพตา จังหวะนั้นร่างกายเราเกร็งจนตัวลอยขึ้นไปตกลงมากระทบเตียงแบบ ตุ๊บ ! จังหวะนั้นถอนหายใจแรงสุด สภาพร่างกายคือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย แค่ขยับก็ร้องโอ้ย ต้องขับถ่ายบนเตียง ใช้เครื่องช่วยหายใจ เจาะสายน้ำเกลือ พูดไม่ได้ ร่างกายอ่อนแรง เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจงคิดดี ทำดี มีสติทุกช่วงจังหวะของชีวิต และรู้จักการให้อภัย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์