อื่นๆ
โสดดี จริงหรือไม่
หากคุณ คือ คนที่โสด และยังไม่มีแฟน คงจะมีบางครั้งใช่ไหมครับ ที่คุณเองก็สงสัย และจะอยากรู้ว่า ระหว่างการเป็นโสด กับมีแฟน หรือมีคู่ แบบไหนดีกว่ากัน และหากคุณสงสัยว่า การเป็นโสดนั้น ดีหรือไม่ และดีกว่าการมีแฟน หรือมีคู่จริงไหม บทความนี้ สามารถช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณได้ครับ ลองมาอ่านดูกันเลยครับ
ก่อนอื่น มาทำความรู้จัก และทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า โสด ก่อนนะครับ
นิยามของคำว่า โสด ในความหมายของความเข้าใจ โดยรวมแล้ว คำว่าโสด ก็คือ ไม่มีคู่ หรือยังไม่มีสถานะที่เรียกว่า ความสัมพันธ์ร่วมกันกับเพศตรงข้าม (ความสัมพันธ์ในที่นี้หมายถึง ความสัมพันธ์แบบคู่รัก โดยไม่แบ่งแยกเพศ และมีอคติที่ไม่ดี) หรือคำว่า โสด แปลได้อีกความหมายหนึ่งว่า คนที่ยังไม่มีความรัก แบบฉบับหนุ่มสาว
โสด เป็นคำที่ไม่มีนิยาม และความหมายที่ตายตัว ดังนั้น ความหมายของคำว่า โสด สามารถจะเป็นความหมายแบบใดก็ได้ ในแบบฉบับความเข้าใจของคนๆหนึ่ง ที่มีความเข้าใจในแบบของตัวเอง
Advertisement
Advertisement
โสดดี จริงไหม
คำตอบ สามารถแบ่งตอบได้ด้วย มุมมอง 2 มุมมองหลักๆ คือ
1. ตอบในมุมมองของคนที่โสด แต่มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ดี 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มของคำตอบที่ออกมา คือ การเป็นโสดดีกว่า อย่างแน่นอน แต่ในเปอร์เซ็นต์ที่มีจำนวนมากนี้ ก็จะแบ่งออกเป็นอีก 30 - 50 เปอร์เซ็นต์ ที่จะไม่ตอบแบบการันตีเลยว่า ต้องดีกว่าอยู่แล้ว หรือดีกว่าแน่นอน แต่คำตอบจะออกมาในเชิงว่า ไม่ได้ดูแย่เสียมากกว่า ความหมาย ก็คือ การเป็นโสด ก็ไม่ได้แย่ แต่จะให้มีคู่ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะดี แต่ก็ไม่ได้จะบอกว่า การมีคู่นั้นแย่ และถ้าหากสามารถมีคู่ได้ ก็ไม่ได้จะปฏิเสธเสียทีเดียว กลุ่มคนโสดไม่ได้มองในรูปแบบของการเปรียบเทียบว่า อันไหนดีกว่า หรือไม่ดีกว่า แต่จะเป็นการมองในมุมมองว่า อยู่แบบไหนที่จะรู้สึกว่า โอเคและมีความสุขมากกว่า
Advertisement
Advertisement
(ทุกคำตอบไม่มีผิดหรือถูก เพราะเราทุกคนต่างก็มีความคิด และมีความเข้าใจที่แตกต่างกัน ในแบบของตัวเองเสมอ)
2. ตอบในมุมมองของคนที่มีแฟน หรือมีคู่ และมีชีวิตที่ดี และมีความสุข 60 – 80 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มของคำตอบส่วนมากที่ออกมา คือ การเป็นโสด ก็ไม่ได้ดีมากอะไร และจะให้คำตอบในเชิงว่า การมีแฟน หรือมีคู่ชีวิตเป็นอะไรที่ดีกว่า แต่ส่วนใหญ่ ก็จะไม่ได้ตอบแบบการันตีเลย เพราะชีวิตคู่เองก็ใช่ว่า จะไม่มีปัญหาเลย และกลุ่มคนมีแฟน หรือมีคู่ ที่สามารถตอบได้แบบการันตีว่า ดีกว่าแน่นอน ก็จะมีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ที่อาจจะโชคดี ได้พบเจอคู่ชีวิตที่ดี ความสัมพันธ์โอเค และเข้ากันได้ จึงทำให้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย ทำให้ชีวิตคู่ลงตัว และมีความสุข แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็จะมีเพียงแค่เปอร์เซ็นต์ส่วนน้อย ถึงน้อยมาก อาจจะไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ใน 60 – 80 เปอร์เซ็นต์นี้ แต่คำตอบในมุมมองของคนที่แฟน หรือมีคู่ แนวโน้มของคำตอบที่ออกมามากที่สุด ก็คือ การมีแฟน หรือมีคู่ ดีกว่า การเป็นโสด 
Advertisement
Advertisement
(ไม่มีคำตอบไหนที่ถูกหรือผิด แต่อย่างใด เพราะเราต่างก็มีความคิด และมีความเข้าใจในแบบของตัวเอง)
คนโสดมีมุมมองแบบไหน
มุมมองที่ 1 : มุมมองต่อตัวเอง
คนโสด จะมีมุมมองต่อตัวเองในความเข้าใจว่า ตัวเองสามารถเป็นที่พึ่งให้กับตัวเองได้ แม้จะไม่ใช่ในทุกด้านของชีวิต แต่ในด้านที่เป็นปัจจัยสำคัญ ในการดำเนินชีวิต เช่นปัจจัย 4 คนโสดมองว่า สามารถพึ่งพาตัวเองได้ทั้งหมด ส่วนในเรื่องต่างๆ ของชีวิต จะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงมา เช่น การมีแฟน หรือมีคู่ชีวิต ในมุมมองของคนโสด ไม่ได้มองว่า มีความสำคัญ หรือมีความจำเป็นมากถึงขั้นที่ว่า เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ หรือไม่มีไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มองว่า การมีแฟน หรือมีคู่ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่อย่างใด แต่ในมุมมองของคนโสด การพึ่งพาตัวเองในเรื่องต่างๆของการใช้ชีวิต เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเสริมเติมแต่งให้มากแต่อย่างใด
เรื่องความสุขในชีวิต คนโสดไม่ได้มองว่า การใช้ชีวิตด้วยตัวเพียงคนเดียว จะเป็นเรื่องที่จะทำให้ชีวิตไม่มีความสุข แต่คนโสดมั่นใจในตัวเองว่า ตัวเองสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขได้ แม้จะมีอยู่เพียงลำพังก็ตาม คนโสดไม่ได้มองว่า การขาดแฟน หรือขาดคู่ชีวิต จะทำให้การใช้ชีวิตไม่มีความสุข และในเรื่องอื่นๆ ของชีวิต คนโสดก็มั่นใจในตัวเองว่า ตัวเองก็สามารถทำได้ดี และก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ได้ด้วยตัวเอง คนโสด คือ คนที่รักตัวเองเป็น ฉะนั้นแล้ว จึงไม่ได้คิดมากว่า ตัวเองจะเป็น หรือไม่เป็นที่รักของใคร หรือจะมีใครมาเป็นที่รักของตัวเอง หรือไม่ เพราะความสุขของคนโสด ขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งหมด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร หรือปัจจัยต่างๆ ภายนอก
คนโสด คือ คนที่มีความเข้าใจต่อตัวเอง และต่อชีวิตของตัวเอง รู้ว่าอะไร คือ ความสุขของตัวเอง และความสุขก็เป็นเรื่องที่สามารถสร้างขึ้นมาให้กับตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร หรือปัจจัยต่างๆ ภายนอกเข้ามาเสริมเติมแต่งให้มากมาย ฉะนั้นแล้ว สรุปคือ คนโสดไม่ได้มีความคิด หรือมีอคติกับคนมีแฟน หรือคนมีคู่มี แต่อย่างใด แต่คนโสด แค่มองว่า ตัวเองสามารถเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการให้กับตัวเองได้ และคนโสดก็ไม่ได้ปฏิเสธการมีคู่ในแบบที่เป็นความเข้าใจผิดๆ คนโสดยินดีเสมอ และเปิดใจพร้อมรับเสมอ หากจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต
มุมมองที่ 2 : มุมมองต่อผู้อื่น
คนโสดเป็นคนที่มีมุมมองเปิดกว้าง ในเรื่องต่างๆ ของชีวิต และมีมุมมองที่เปิดกว้างต่อคนอื่นๆ คนโสดมักจะเจอปัญหาหนึ่งเสมอ นั่นคือ ปัญหาที่มีคนรอบข้างเป็นจำนวนมากทั้งคนที่รู้จักดี และสนิทสนมด้วย และคนที่ไม่ได้รู้จักดี และไม่ได้สนิทสนมด้วย หรือบางครั้งก็เป็นคนที่ไม่ได้รู้จักเลย แต่ก็ชอบเข้ามาถามไถ่อยู่เสมอว่า มีแฟนหรือยัง หรือมีคู่หรือยัง บางครั้งก็หนักถึงขึ้นที่ว่า มีลูกหรือยัง หรือมีลูกแล้วใช่ไหม และเมื่อคนโสด ตอบกลับไปว่า ยัง คนเหล่านั้น ก็มักจะถามต่ออีกทันทีว่า ทำไม หรือว่า เป็นเพราะอะไร และเมื่อคนโสดบอกเหตุผล หรืออธิบายเหตุผล คนเหล่านั้น ก็จะเป็นเปลี่ยนจากผู้ถาม มาเป็นผู้แนะนำว่า ให้ทำแบบนี้สิ หรือไม่ก็ทำแบบนั้นสิ จะคอยชี้ทาง และวิธีการแก้ปัญหาให้กับคนโสด 
และส่วนมากจะคอยกดดันในทางอ้อมเสมอ ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียง หรือท่าทางว่า การเป็นโสดมันไม่ดีนะ เข้าใจมั้ย แบบนั้น แบบนี้ ทั้งๆ ที่คนโสดรู้ดีอยู่แล้ว กับทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ตัวเองทำ แต่ก็อดทนฟังจนจบ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาที่คนโสดรู้สึกเกลียด แต่อย่างใด เพราะก็เข้าใจดีว่า คนที่ถามไถ่ และคอยชี้แนะ ก็เกิดมาจากความหวังดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน (บางคนก็อยากจะจุ้นจ้าน และวุ่นวายเสียมากกว่า) คนโสดมีความเข้าใจในส่วนตรงนี้ดี แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า คนโสดจะไม่มีความอดทนที่จำกัด คนโสดเองก็มีขอบเขตของความอดทนเหมือนกัน บางครั้งหากถูกจุ้นจ้านเรื่องชีวิตส่วนตัวอยู่บ่อยๆ ก็สามารถพลางไม่ชอบบุคคลคนนั้นๆ หรือกลุ่มคนนั้นๆ ได้ หรือบางครั้งก็หลีกเลี่ยงไปโดยไม่สนใจเลย
มุมมองที่ 3 : สิ่งที่ตัวเองมองว่าดี แต่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
คนโสด จะมีมุมมองว่า การดำเนินชีวิตนั้น พื้นฐานหลัก ก็คือ ต้องมีปัจจัย 4 ส่วนปัจจัยภายนอก ในเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญมาก ถึงขั้นจะขาดไปไม่ได้ คนโสดจะเข้าใจตัวเองดีว่า ตัวเองต้องการใช้ชีวิตแบบไหน และใช้ชีวิตยังไง ถึงจะมีความสุข คนโสดจะมีวิธีการใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของตัวเองเสมอ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชีวิตของคนโสด เป็นชีวิตที่อิสระ และเรียบง่าย จนบางครั้งคนอื่นๆ ก็มองว่า คนโสดมีความสุขกับชีวิตที่เป็นจริงๆ หรือเปล่า คนบางคนก็เข้าใจผิดหนัก เข้าขั้นคิดว่า คนโสดกำลังพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุข ภายใต้ความทุกข์ จากการที่ไม่มีคู่ชีวิต ความคิดเหล่านี้ คือ สิ่งที่คนภายนอกมองเห็น และเข้าใจ 
แต่ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับคนโสดเป็นอีกแบบหนึ่งเลย คือ คนโสดมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ดี ตรงกันข้ามกับคนที่มองเห็นแค่ภายนอก และก็เข้าใจผิดไปเองว่า คนโสดไม่ได้มีความสุขกับชีวิตจริงๆ เพราะยังขาด สิ่งนั้น และสิ่งนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และเป็นเรื่องธรรมดาที่คนภายนอกจะมองว่า การจะใช้ชีวิตมีความสุข ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดแต่อย่างใด 
เพราะก็เป็นความเข้าใจในแบบฉบับส่วนบุคคล และก็มีบ่อยครั้งที่คนอื่นๆ ภายนอก มักจะคอยย้ำ คอยเตือน คนโสดเสมอว่า ต้องมีอะไร เข้ามาประกอบกับชีวิตบ้าง ชีวิตถึงจะมีความสุข คนอื่นๆ ภายนอกจะมองว่า สิ่งเหล่านี้ หรือสิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตให้มีความสุข ซึ่งตรงกันข้ามกับคนโสดที่รับรู้ และเข้าใจดีว่า มันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ เพราะการไม่มีสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานั้น ชีวิตก็ยังสามารถมีความสุขได้
ข้อดีของคนโสด คือ อิสรภาพของชีวิตที่กำหนดเองได้
การเป็นคนโสด ทำให้มีข้อดีที่ดีที่สุด คือ การมีอิสรภาพของชีวิต ที่สามารถเลือก และกำหนดเองได้ว่า อยากจะใช้ชีวิตแบบไหน ต้องการอะไรในชีวิต หรืออยากจะทำอะไร ก็สามารถทำได้ดั่งใจต้องการ โดยไร้เงื่อนไขในการปฏิบัติ ตรงกันข้ามกับคนมีแฟน หรือคนมีคู่ ถึงแม้จะมีอิสระ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข หรือขอบเขตที่ยอมรับได้ซึ่งกันและกัน หรือข้อตกลงบางอย่าง นั่นจึงทำให้อิสระในบางเรื่องของคนมีแฟน หรือคนมีคู่ ถูกจำกัดลงด้วยขอบเขตของการใช้ชีวิตคู่ 
ข้อเสียของคนโสด คือ ไม่สามารถจัดการช่องว่างในบางสถานการณ์ของชีวิต หรือช่องว่างในบางช่วงเวลาของชีวิตได้
ความหมายของ ช่องว่างในที่นี้ ก็คือ ช่องว่างที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ บางอย่างที่ยากลำบากในชีวิต หรือต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ต่างๆ ในชีวิต เพียงลำพัง โดยไร้ซึ่งกำลังใจ และพลังใจ หรือแรงสนับสนุน และแรงผลักดัน จากคนข้างหลัง คนโสดไม่สามารถหาสิ่งใด มาทดแทนช่องว่างตรงนี้ได้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตราบใดที่เราทุกคนยังเป็นมนุษย์ที่มีความคิด และมีความรู้สึก ย่อมเป็นธรรมดา ที่บางครั้งเราจะรู้สึกต้องการใครสักคน ในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า และรู้สึกอ่อนแอ และต้องการได้รับกำลังใจจากใครสักคน ซึ่งในส่วนตรงนี้ คนโสดไม่สามารถรับมือได้ 
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นอะไรที่ยากเกินไป ที่คนโสดจะไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ เพียงแต่ช่องว่างตรงส่วนนี้ของคนโสด มักจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างใช้เวลานานในการก้าวผ่าน และกว่าจะก้าวผ่านมาได้ ก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ และความเจ็บปวดเพียงลำพังอยู่นานมากพอสมควร แต่ในข้อเสีย ก็มียังข้อดี คือ คนโสดจะเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นทุกครั้ง เมื่อก้าวผ่านความยากลำบากมาได้ด้วยตัวเอง
บทสรุป คือ การเป็นโสด เป็นเรื่องที่ดี แต่การมีแฟน หรือมีคู่ ไม่ได้แปลว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดี เพียงแต่มันขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะเลือกข้อดีในแบบไหนเท่านั้นเอง และการเลือกก็ไม่มีผิด หรือถูกแต่อย่างใด และทั้งสองแบบต่างก็มีข้อเสียในแบบที่เป็นอยู่ แต่ก็เป็นข้อเสียที่เราสามารถยอมรับได้ เพราะทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ
เครดิตภาพ : ขอบคุณภาพปกทั้งหมดจาก canva ภาพที่1 โดย SHOTPRIME ภาพที่2 โดย SHOTPRIME ภาพที่3 โดย Canva Layouts
เครดิตภาพ : ขอบคุณรูปภาพประกอบทั้งหมดจาก unsplash ภาพที่1 โดย Hà Nguyễn ภาพที่2 โดย Yue Iris ภาพที่3 โดย Raychan ภาพที่4 โดย Gift Habeshaw ภาพที่5 โดย Raychan ภาพที่6 โดย Raychan ภาพที่7 โดย Raychan ภาพที่8 โดย Henri Pham ภาพที่9 โดย zhang Mickey ภาพที่10 โดย li shanting ภาพที่11 โดย zhang kaiyv
ความคิดเห็น
