ใช้เวลาเป็น...ก็เป็นนายเวลา

เครดิตภาพปก: freepik.com/pikisuperstar

ในหนึ่งวันคนเรามีเวลาเท่ากันนั่นคือ 24 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีกิจกรรมมากมายให้ต้องทำในแต่ละวันก็ตาม ซึ่งจะทำได้ปริมาณมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเวลาของเจ้าตัวเอง เราอาจจะเคยได้ยินมาบ่อยมาก ๆ จากผู้ที่ประสบความสำเร็จว่าต้องรู้จักจัดการเวลา บริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ แต่ก็เกิดคำถามตามมาคือ จะทำอย่างไรเพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์

ทุกคนอาจจะเริ่มต้นเหมือนกันแต่เมื่อเวลาผ่านไป คนใดคนหนึ่งอาจจะประสบความสำเร็จ แต่อีกคนอาจล้มเหลว ปกติเรามักจะเข้าใจว่าการที่มีตารางหรือแผนการทำงาน แล้วปฏิบัติตามตามแผนที่วางไว้นั้นจะช่วยให้บริหารจัดการเวลาได้ดี แต่ว่ามันยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ซึ่งนั่นก็คือเราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราทำตารางแผนการทำงานเพื่ออะไร พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเราต้องรู้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ก่อนนั่นเอง เมื่อรู้แล้วค่อยกำหนดสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ต้องเลิกทำเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ และนี่คือเคล็ดลับการบริหารจัดการเวลาในแบบฉบับของผู้เขียนที่นำเอาเทคนิคต่าง ๆ ที่ได้อ่านเจอ มาปรับเปลี่ยนและประยุกต์ให้เข้ากับตัวเอง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “DTN Process” มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อดังต่อไปนี้

3. Now: ข้อสุดท้ายนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะหลาย ๆ คนมีนิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง คิดว่ายังไม่ถึงเวลาส่งก็เอาไว้ก่อนแล้วกัน มันเลยทำให้เราทำงานไม่เสร็จสักที แถมยังทำให้ชีวิตวุ่นวายโกลาหลมากกว่าเดิมอีก การลงมือทำงานทันทีตามแผนที่วางไว้เป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก ถ้าเกิดวันดีคืนดีมีงานด่วนเข้ามาแต่งานเก่าเรายังไม่เสร็จมันก็จะพะว้าพะวังเหมือนมีบ่วงงานคล้องคอไว้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัวไปอีก

อ้างอิง: https://www.freepik.com/free-vector/multitasking-concept-illustration-character_6504174.htm#page=1&query=work&position=3

นอกจากเทคนิค 3 ข้อที่ผู้เขียนได้นำเสนอแล้ว ถ้าเราอยากบริหารจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก การใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เช่น เวลาที่เราเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว หรือช่วงเวลาระหว่างที่เดินทาง ดูเผิน ๆ เหมือนใช้เวลาไม่นานในการทำกิจกรรมพวกนี้แต่เชื่อเถอะว่ามันช่วยให้เราสามารถคิดไอเดียใหม่ ๆ ไว้ใช้ในการทำงานได้  เอาล่ะทุกคนคงพอจะมองเห็นภาพแล้วนะว่าจะบริหารจัดการเวลาของตัวเองอย่างไร และผู้เขียนเองก็หวังว่าคุณจะไม่ยอมปล่อยเวลาให้สูญเปล่าไปอย่างไร้ประโยชน์ ดังคำกล่าวของเบนจามิน แฟรงคลิน ที่ว่า “หากคุณรักชีวิต ก็จงอย่าใช้เวลาให้สูญเปล่า เพราะเวลาคือปัจจัยก่อร่างสร้างชีวิต”