อื่นๆ

ไวรัสมรณะ หนึ่งชะตาพลิกโลก (นิยายตอน 2/3)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ไวรัสมรณะ หนึ่งชะตาพลิกโลก (นิยายตอน 2/3)

นิยาย : ไวรัสมรณะ หนึ่งชะตาพลิกโลก (ตอนที่ 2/3)

หมายเหตุ : นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

ผมเห็นแสงไฟหน้ารถไฟฟ้ากำลังเคลื่อนขบวนมาไกลๆ พลางถอนหายใจดังเฮือก ก่อนกระชับเป้ที่สะพายหลังให้แน่น วินาทีนี้ ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด วันนี้มันเกิดบ้าอะไรกับผมวะเนี่ย

รถไฟฟ้าเคลื่อนตัวมาจอดบริเวณชานชาลา ประตูรถไฟฟ้าเปิดออก ผมก้าวเดินเข้าสู่ขบวนอย่างเร่งรีบ พลางหันซ้ายหันขวา ผู้โดยสารในขบวนถ้ามองจากโบกี้แรกถึงโบกี้สุดท้าย มีไม่ถึง 4 คน แต่ละคนนั่งกันอยู่ไกลออกไป ในขณะที่โบกี้ของผม ว่างเปล่า ไม่มีผู้โดยสารนั่งอยู่แม้แต่คนเดียว

ภายในรถไฟฟ้าที่ว่างเปล่า

ความรู้สึกในใจของผมปั่นป่วน ใจนึงก็อยากจะไปนั่งกับผู้โดยสารอีกโบกี้นึง จะได้อุ่นใจ แต่อีกใจนึง ก็อยากนั่งอยู่เงียบๆ วันนี้ผมเหนื่อยมามากพอแล้ว

Advertisement

Advertisement

ผมทรุดตัวลงนั่งที่โบกี้นี้ ก่อนปลดเป้ที่สะพายหลังออกมาวางบนตัก เอนหลังและศีรษะพิงพนักเก้าอี้ รถไฟฟ้าส่งสัญญาณปี๊ปๆ ปิดประตูลง ก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างช้าๆ

สวรรค์โปรด...

ผมหลับตาลง ก่อนสูดหายใจเข้าเต็มปอด เริ่มผ่อนคลายความรู้สึก จากสถานีที่ผมเข้ามาจนถึงปลายทาง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีโดยประมาณ

ขอเวลาให้ผมได้อยู่กับตัวเองบ้างเถอะ...แล้วไอ้ข้อความบ้าบอนี่ มันมาจากไหนกัน ทำไมถึงมาเล่นตลกกับผม

ผมเหนื่อยเกินกว่าจะคิด งานที่ทำทั้งวัน ทำให้ผมหมดพลังเกินกว่าที่จะทำอะไรได้อีกในค่ำคืนนี้

ผมลืมตา มองหน้าจอทีวีที่ติดตั้งบนรถไฟฟ้าที่กำลังเสนอข่าวสั้นของวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ในประเทศ ก่อนจะเสนอข่าวที่ดูช่างแปลกประหลาดนัก อยู่ดีๆ หญิงชราคนนึงในประเทศเล็กๆ อย่างสาธารณรัฐอาบักกา ชื่อประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นหูบนโลกใบนี้ ก็ได้รับวัคซีนที่สามารถกำจัดไวรัสกลายพันธุ์มฤตยูในร่างกายของเธอให้หายเป็นปลิดทิ้งได้อย่างน่าอัศจรรย์

Advertisement

Advertisement

ข่าวบอกว่า เธอได้รับวัคซีนจากชายแปลกหน้าชุดดำ ที่ไปโผล่หน้าบ้านของเธอ โดยไม่ทำอันตรายอะไรเธอเลย มีเพียงการพูดคุยไม่กี่ประโยคเท่านั้น และเธอก็ได้รับวัคซีนมา น่าเสียดายที่เธอใช้มันจนหมด เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มันทำมาจากอะไร โลกนี้จะได้หายจากไวรัสบ้านี่เสียที ข่าวในทีวี“ป้าเห็นแก่ตัวจริงนะ” ผมคิดในใจ

ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว หวังว่าแม่จะหลับไปแล้ว ช่วงหลังๆ สุขภาพของแม่ไม่ค่อยสู้ดีนัก จากการทำลายของไวรัส ผมทำได้เพียงจัดเตรียมยาไว้ให้แม่และกำชับให้ทานตรงเวลา ห้ามขาด เพราะยาที่มีก็เพียงแค่ช่วยไม่ให้อาการทรุดลงเท่านั้น ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนที่กำจัดไวรัสกลายพันธุ์ได้อย่างเด็ดขาด ตอนนี้ทำได้แค่เพียงประคองร่างกาย และหาเงินซื้อยาเพื่อประคับประคองไปวันๆ เท่านั้น

หรือโลกของเราจะถึงกาลดับสูญเข้าแล้วจริงๆ...

Advertisement

Advertisement

ไม่นึกเลยว่า ภาพที่เคยเห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดดังๆ หลายเรื่อง จะเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้

ผมนั่งครุ่นคิดระหว่างที่รถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่งจอดสถานีแรก ซึ่งไม่มีผู้โดยสารเข้าออกภายในขบวนรถอีกเลย อาจด้วยเวลาใกล้เที่ยงคืนแบบนี้ ใครจะบ้าเดินทาง นอกจากคนสู้ที่กำลังสู้ชีวิตเพื่อเงินและครอบครัวอย่างเช่นตัวผม

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่เหมือนจะผิดปกติ

ภาพในโทรทัศน์บนรถไฟฟ้าที่กำลังรายงานข่าวต่างประเทศอยู่นั้น อยู่ดีๆ ก็เริ่มกลายเป็นภาพล้ม สลับภาพตัดไปตัดมาแบบงงๆ และกลายเป็นจอดำไปเสียอย่างนั้น สงสัยจะจบรายการแต่เพียงเท่านี้...ผมคิดในใจ

ถ้าไม่เพราะมีประโยคข้อความนึง กระพริบเป็นตัวหนังสือสีแดง ปรากฏหน้าจอโทรทัศน์
ประโยคที่ทำให้ผมดีดตัวขึ้นมาจากพนักเก้าอี้รถไฟฟ้า ขึ้นมายืนจ้องหน้าจอ เสมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“คุณคือผู้ถูกเลือก...”

นี่มันเรื่องบ้าบออะไรวะเนี่ย…

ผมยืนเหมือนคนกำลังโดนผีหลอก พลางหันซ้ายหันขวา มองไปยังโบกี้อื่นที่อยู่ภายในขบวน เห็นผู้โดยสารที่น่าจะไม่เกิน 4 คน ซึ่งห่างออกไปที่หัวขบวนและท้ายขบวน แต่ทุกคนนั่งเรียบเฉย ไม่มีอะไรผิดปกติ หรือแปลกใจไปกับข้อความที่อยู่ในทีวีบนรถไฟฟ้าเลยหรือไง

วินาทีนั้น...ผมได้ยินเสียงประกาศบนขบวนรถที่กำลังจะเข้าสู่สถานีที่ 3

ท้องไส้ผมกำลังปั่นป่วน ใครกำลังเล่นตลกอะไรกับผม วินาทีที่กำลังตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อดีนั้น รถไฟฟ้าก็แล่นเข้าเทียบสถานี พร้อมกับประตูรถไฟฟ้าเปิดออก

และสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น...ก็เกิดขึ้นจริงๆ
ผู้โดยสารทุกคนบนขบวนรถลุกขึ้นพร้อมกัน และเดินออกจากสถานีนี้ เหลือเพียงตัวผมคนเดียวภายในขบวน

วินาทีนั้น ผมตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะเดินออกจากขบวนรถนี้...แล้วไปหารถ Taxi สักคันเอาดาบหน้า ทั้งๆ ที่รู้ว่า ดึกแบบนี้ จะมีใครออกมาขับรถกัน ในเมื่อคนส่วนใหญ่ก็เก็บตัวเข้าบ้านกันหมดแล้ว…

เอาก็เอาวะ...

ผมตัดสินใจก้าวเท้าเพื่อจะเดินออกจากขบวนรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงสถานีที่เป็นปลายทางของบ้านตัวเองเลย

แต่วินาทีนั้น...

ระหว่างที่กำลังก้าวเท้าออกจากประตูรถไฟฟ้า
พลัน...ชายสองคนในชุดสูทโอเวอร์โค้ทสีดำ รองเท้าหนังสีดำ และยังใส่หมวกสีดำปกคลุมใบหน้า เดินสวนเข้ามา และเบียดตัวผมจนไม่สามารถเดินออกจากขบวนรถได้

บุรุษชุดดำ

ประตูรถไฟฟ้าก็ปิดลง...ก่อนรถกำลังจะเคลื่อนขบวนออกจากสถานี

ผมยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า วินาทีนั้น แว่บเข้ามา

หรือเรากำลังจะถูกปล้น

ถ้าวิ่งหนี ก็ไปไหนไม่ได้ เพราะรถกำลังแล่นขบวนด้วยความเร็วขึ้น หรือทำใจดีสู้เสื้อ นั่งลงแล้วดูท่าทีกับผู้ชายสองคนนี้สักตั้ง

ผมทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ภายในใจกลับเต้นรัวเหมือนกับว่าหน้าอกจะระเบิด ในขณะที่ชายสองคน นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามผมในระนาบเดียวกันพอดิบพอดี !!!

ผมเริ่มทำใจดีสู้เสือ ด้วยการนั่งนิ่งๆ และพยายามมองหน้าชายชุดดำทั้งสองคนที่กำลังส่งสายตาพุ่งตรงมายังตัวผม สังเกตจากใบหน้าได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากทั้งสองคนสวมหน้ากากผ้าสีดำ แต่ถ้าดูจากบริเวณที่ไม่ปกปิดใบหน้า พอจะประเมินได้ว่า เป็นคนรูปร่างสูงเกิน 180 ซม. ผิวขาว นัยน์ตานิ่งจนเดาความรู้สึกไม่ออก

แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองคนให้ความสนใจมาที่ตัวผม
เหงื่อผมเริ่มผุดขึ้นบริเวณหน้าผาก...พยายามประเมินสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าควรจะทำอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คืนนี้ ผมจะต้องรอดกลับไปถึงบ้านให้ได้

เดี๋ยวรถไฟฟ้าก็ถึงสถานีต่อไปแล้ว น่าจะมีผู้โดยสารบ้างแหละน่า

แต่ผมคิดผิด...

ขบวนรถไม่มีประกาศเสียงตามสายแจ้งสถานีที่กำลังมาถึงแต่อย่างใด ซ้ำร้าย ขบวนรถยังแล่นผ่านสถานีที่ 4 ไปเสียดื้อๆ

รถไฟฟ้าแล่นผ่านสถานีโดยไม่หยุดจอด

นี่กำลังเล่นตลกอะไรกับผมกันแน่...

ระหว่างที่ผมกำลังสับสนทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นบนขบวนรถ ทั้งๆ ที่หน้าจอทีวีก็ไม่มีภาพรายการใดๆ อีก นอกเสียจากประโยคตัวหนังสือสีแดงกระพริบไปมา

“รถไฟฟ้าขบวนนี้ จะไม่จอดที่สถานีใดอีกแล้ว”

ผมค่อนข้างแน่ใจว่านี่ไม่ใช่เสียงตามสายทั่วไปที่เคยได้ยินตอนประกาศบนขบวนรถไฟ เพราะน้ำเสียงฟังดูเย็นยะเยือก ไร้ชีวิตชีวา แต่มีความเด็ดขาด

ผมแน่ใจว่า เสียงนี้ต้องมาจากชายชุดดำสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้างผมอย่างแน่นอน นาทีนี้ ป่วยการที่จะหลบหนีหรือไม่สู้หน้ากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นใคร ต้องการอะไร ผมจะต้องเอาตัวรอดจากตรงนี้ไปให้ได้

“พวกคุณต้องการอะไรจากผม”

“คุณเองรู้ดี ว่าตัวเองต้องการอะไร” เสียงชายชุดดำคนนึง ดังกึกก้องในขบวนรถไฟฟ้า แต่น่าแปลกตรงที่ ผมแทบไม่เห็นการขยับของริมฝีปากภายใต้หน้ากากผ้าสีดำนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับการส่งกระแสจิตออกมาเป็นเสียงเสียมากกว่า

“ผมไม่รู้ว่าพวกคุณต้องการอะไร แต่ทำไม ถึงต้องเป็นผม ???? แล้วประโยคที่ขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์ของผมที่ทำงานกับบนทีวีในรถไฟฟ้าตอนนี้ ฝีมือพวกคุณใช่ไหม”

“ใช่”

“แล้วพวกคุณเป็นใคร ??? ผมไม่เคยรู้จักพวกคุณมาก่อน”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญ สำคัญแค่...ที่นี่ เวลานี้”

“คุณต้องการอะไร???”

“พิสูจน์...ว่าคุณเป็นคนที่คู่ควรหรือไม่”

“คู่ควรกับอะไร ???” ผมชักเริ่มโมโหกับคำใบ้ปริศนาของพวกมันขึ้นมาแล้ว

“แล้วคุณจะได้รู้...แต่ถึงรู้ คุณก็ต้องเลือกว่าจะเสียสละหรือไม่…”

เสียสละอะไร ทำไมผมต้องเสียสละ

บนโลกใบนี้ ถ้าผมต้องเสียสละได้แม้กระทั่งชีวิตตัวเองเพื่อแลกกับบางสิ่งบางอย่าง สิ่งเดียวก็คือ...แม่

ตั้งแต่พ่อตายไป แม่คือลมหายใจเดียวที่เหลืออยู่ ทำให้ผมมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป

ถ้าการเสียสละที่พวกมันหมายถึงคือแม่แล้วล่ะก็ ผมก็อยากจะรู้ว่า ผมจะต้องแลกกับอะไร...

“ผมต้องเสียสละอะไร ???”

“เสียสละตัวเองเพื่อโลกใบนี้ไง”

เสียสละให้โลกที่น่าหดหู่ใบนี้น่ะเหรอ ????

โลกที่มีแต่ความหดหู่สิ้นหวัง ผู้คนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง โลกที่ไม่เห็นอนาคต และไม่รู้ว่าจะถึงกาลดับสูญในเร็วๆ นี้หรือเปล่า…

สายตาผมจ้องเขม็งไปที่พวกมัน ซึ่งยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง สายตาของผมพยายามเหลือบไปมองนอกหน้าต่างขบวนรถไฟฟ้า เพื่อประเมินว่า ตอนนี้ ขบวนรถวิ่งไปถึงสถานีใดแล้ว เพื่อประเมินทางออกที่มีอยู่ แม้เพียงจะน้อยนิดก็ตามที

“แล้วผมจะต้องเสียสละเพื่อโลกใบนี้ยังไง”

ไม่มีคำตอบจากชายชุดดำทั้งสองคน วินาทีแห่งความเป็นความตายที่กำลังจะเกิดขึ้น พลัน รถไฟฟ้าก็แล่นเข้าเทียบสถานี ทั้งๆ ที่มันไม่จอดมาหลายสถานีแล้ว แต่ทำไมถึงจะจอดที่สถานีนี้…

(โปรดติดตามตอนจบในสัปดาห์หน้าครับ)

ขอขอบคุณ

เครดิตภาพหน้าปก : Free-Photos / Pixabay

เครดิตภาพจาก: igorovsyannykov / pixabay

เครดิตภาพจาก : Free-Photos / Pixabay

เครดิตภาพจาก : TheDigitalArtist / Pixabay

เครดิตภาพจาก : igorovsyannykov / pixabay

🌟อ่านจบแล้วเข้าไปพูดคุยในคอมมูนิตี้ที่นำเทรนด์ที่สุดในปีนี้ที่ TrueID Community 🪄✨

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์