ปลูกเมล่อนกินเอง ใครๆก็ทำได้...

พอนึกถึงเมล่อน ใครๆหลายๆคนก็ต้องคิดว่าเป็นผลไม้ที่ปลูกยากแน่ๆ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่จะค่อนข้างมีราคาที่สูง และไม่ค่อยเห็นมีปลูกกันตามทั่วไป ในวันนี้คนสวนเอ็ดเวิร์ดจึงอยากจะชวนเพื่อนๆมาลองปลูกเมล่อนทานเองซะเลย มาดูกันว่ามันจะปลูกยากสักแค่ไหน

ก่อนอื่นเราต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับปลูกมาก่อน

1. เมล็ดเมล่อน หาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไป
2. ขุยมะพร้าว
3. ถุง หรือกระถางสำหรับปลูกเมล่อน
4. ปุ๋ย AB
5. อุปกรณ์สำหรับวัดค่า EC,pH น้ำ
6. เชือก และค้างสำหรับแขวนต้นและผลเมล่อน
7. สถานที่ปลูกกลางแจ้ง (ปลูกในโรงเรือน ถ้ามี)

เรามาเริ่มปลูกกันเลย...

ขั้นตอนการปลูก

1. นำเมล็ดเมล่อนห่อผ้าชื้นไว้ประมาณหนึ่งคืน หรือจนรากงอก แล้วนำไปใส่ในกระถางเล็กๆ หรือถาดเพาะชำ รดน้ำทุกวันจนกว่าเมล่อนจะมีใบจริง
2. นำขุยมะพร้าวใส่ในถุงหรือกระถางสำหรับปลูก และนำต้นเมล่อนลงปลูกได้เลย
3. การรดน้ำเราจะต้องใช้น้ำที่มีค่า pH อยู่ที่ 5.8-6.5 หลังจากนั้นเราจะนำปุ๋ย AB ผสมน้ำ ให้ได้ค่า EC อยู่ที่ 1.1 และค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความเหมาะสมกับขนาดต้น แต่ค่า pH ต้องไม่เกิน 1.8 ตลอดระยะเวลาที่ปลูก โดยการรดน้ำเราจะใช้ระบบน้ำหยดหรือใส่บัวรดน้ำก็ได้ รดน้ำวันละ 1-1.5 ลิตรต่อ 1 ต้น
4. เมื่อต้นเมล่อนโตขึ้นจนเริ่มมีแขนงตรงขั้วใบ ให้เราเด็ดออก ซึ่งเราจะไว้แขนงในข้อใบที่ 9-12 จะเป็นแขนงที่เหมาะสมสำหรับไว้ลูก
5. การแขวนลำต้นกับค้าง หรือราวด้านบน ให้ผูกเชือกเป็นบ่วงแล้วนำมาคล้องลำต้นไว้ โดยปลายเชือกอีกด้านจะผูกติดอยู่กับค้างด้านบน
6. เมื่อเมล่อนของเรามีแขนงออกมาแล้วมีดอกตัวเมีย(ดอกที่มีผลเล็กๆอยู่ด้วย) เราจะต้องผสมเกสร โดยใช้ดอกตัวผู้ที่อยู่ตรงขั้วใบ นำมาแกะกรีบดอกออก แล้วนำไปเขี่ยวนๆที่เกสรดอกตัวเมีย
7. เมื่อติดผลเราก็จะต้องทำการแขวนลูก เพื่อไม่ให้ลำต้นรับน้ำหนักเกินไป โดยการแขวนลูก เราจะผูกเชือกเป็นบ่วงและคล้องไปที่ขั้วของลูกเมล่อน โดยแขวนให้ขั้วเป็นรูปตัว T เพื่อความสวยงาม
8. ระยะเวลาในการเก็บผล ในแต่ละสายพันธุ์นั้นจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน(แต่ละสายพันธุ์จะมีบอกอยู่ที่ข้างซอง หรือถามคนขายเมล็ดได้) แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 40-53 วัน หลังผสมเกสร
9. เราสามารถใส่ปุ๋ยสำหรับบำรุงผลเพิ่มได้ โดยผสมปุ๋ยเพิ่มลงไปในน้ำ(ค่า EC ของน้ำต้องไม่เกิน 1.8 เหมือนเดิม) ถ้าไม่มีก็ใช้แค่ปุ๋ย AB เหมือนเดิมที่วันก็ได้