อื่นๆ

อาถรรพ์โค้งมรณะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อาถรรพ์โค้งมรณะ

หนิงใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวกับครอบครัว หนิงเริ่มเดินทางกันในตอนเช้า ครอบครัวเธอมีกันอยู่ 5 คน คือ พ่อ แม่ พี่โหน่ง  พี่นิว และหนิงเป็นน้องคนสุดท้อง พวกพี่ ๆ ของหนิงยังไม่มีใครมีครอบครัวกันเลยสักคน ทุก ๆ คนอยู่ร่วมกันในบ้าน เวลาไปเที่ยวไหนก็มักจะไปกันแบบนี้เสมอ วันนี้ตอนเริ่มออกเดินทางพ่อเป็นคนขับก่อนจนไปได้สักพักพ่อก็เปลี่ยนมาให้พี่โหน่งขับ ทิวทัศสองข้างดูสบายตา มีทุ่งหญ้าสีเขียวยาวสุดลูกหูลูกตา หนิงเปิดหน้าต่างออกไปรับอากาศ ลมเย็น ๆ พัดผ่านหน้า หนิงสูดอากาศเข้าปอดอย่างเต็มที่ อากาศนั้นชั่งสดชื่นเหลือเกิน นาน ๆ ทีจะได้รับอากาศที่บริสุทธิแบบนี้เพราะในกรุงเทพมีแต่มลพิษและกลิ่นควันรถ

หลอน                                              ภาพโดย Henryk Niestrój จาก Pixabay

          เมื่อถึงที่พักทุกคนก็ต่างเอาของและสัมภาระไปเก็บยังห้องพัก ด้วยความที่เราขับรถกันมาเรื่อย ๆ แวะกินแวะเที่ยวตลอดทางจึงทำให้มาถึงที่พักช้า ทำให้ไม่ได้ขึ้นไปเที่ยวน้ำตกกันในวันนี้ พ่อกับแม่จึงไปเดินเล่นกันตามประสาสองตายาย  หนิงและพี่ ๆ ก็นั่งเล่นกันในบริเวณนั้น  หลังจากที่กินข้าวเย็นกันเสร็จแล้วทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน  หนิงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็เตรียมของกินของใช้ที่จำเป็นแล้วก็ออกไปหาพ่อกับแม่ ทุกคนเดินขึ้นไปที่น้ำตกไปนั่งปูเสื่ออยู่บนโขดหินขนาดใหญ่ ใต้ต้นไม้ พ่อกับแม่ก็นั่งดูวิวบ้างเดินเล่นบ้างอยู่ในบริเวณนั้น  หนิงและพี่ ๆ ก็ลงไปเล่นน้ำกัน เหมือนเด็ก ๆ พอหิวก็ขึ้นมาหาอะไรกินกัน นอนเล่นบ้างไรบ้างกันจนบ่ายแก่ ๆ ทั้งหมดก็เดินกลับมาที่บ้านพักเก็บข้าวของเพื่อเดินทางกลับ ในขากลับพี่โหน่งเป็นคนขับรถเองเพราะเห็นว่ามันเริ่มเย็นพ่อสายตาไม่ค่อยดีกลัวจะเกิดอันตราย พอหนิงออกมาท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อย ๆ ออกรถมาได้สักพักทุกคนก็เริ่มหลับเพราะความเพลียจากการเล่นน้ำ

Advertisement

Advertisement

หลอน                                             ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

หนิงมารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เพราะรถโยกไปโยกมา มีเพียงแค่พี่นิวที่ไม่หลับเพราะอยู่เป็นเพื่อนคุยกับพี่โหน่ง สองข้างมืดไปหมดไม่มีไฟตามทางเลย มองไปก็มีแต่ป่า รถโยกไปโยกมาตามโค้ง เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีโค้งเยอะมาก ในตอนกลางวันก็ดูไม่เท่าไหร่ แต่พอตกกลางคืนก็เป็นอุปสรรคในการเดินทางมาก สักพักใหญ่ ๆ พ่อกับแม่ก็ตื่นขึ้นมา เส้นทางก็เริ่มหน้ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีแต่ป่ากับทางโค้งที่ดูจะเริ่มเยอะขึ้น ในตอนนั้นท่าทางของพี่โหน่งดูแปลกไป เริ่มไม่ค่อยพูดแต่ขับเร็วขึ้น เอาแต่มองกระจกเอาแต่มองกระจกหลังเป็นระยะ ๆ ตอนแรกฉันไม่ได้คิดอะไร แต่พอหันไปมองพี่นิวก็เห็นพี่นิวก็เริ่มมีอาการแปลก ๆ อีกคนเช่นกัน ในตอนนั้นฉันคิดว่ามันเริ่มมีอะไรแปลก ๆ จึงชะโงกไปดูที่หน้ารถก็ตกใจ เพราะที่ข้างทางเห็นเป็นเงาคนเดินแล้วก็ผ่านไป สักพักก็เห็นคนคนเดิมเดินผ่านไปอีก ในตอนนั้นหนิงเริ่มมีอาการกลัวจนเห็นได้ชัด ตัวสั่น และจ้องมองไปข้างหน้า พ่อกับกับแม่พอเห็นอาการของทั้งสามคนจึงมองข้างหน้าก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะเห็นในสิ่งที่ทั้งสามเห็นเหมือนกันบรรยากาศในรถตอนนั้นรู้อึดอัดมากเพราะไม่มีกล้าอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

Advertisement

Advertisement

หลอน                                                                  ภาพโดย Pete Linforth จาก Pixabay

พี่โหน่งขับเร็วขึ้นแล้วเราทุกคนก็หันมามองที่หน้ารถก็ต้องตกใจมีเงาดำ ๆ บางอย่างพุงเข้ามาที่หน้ารถ พี่นิวร้องกรี๊ดดังลั่นออกมา แล้วเงานั้นก็หายไป ตอนนี้ทุกคนในต่างตระหนกตกใจกันหมด หนิงเริ่มมีอาการกลัวจนตัวสั่น และร้องไห้ออกมา พี่โหน่งขับรถเร็วขึ้นหนิงมองไปทางกระจกหลังก็เห็นบางอย่างกำลังวิ่งตามรถมา พี่นิวร้องดังลั่นเพราะข้างหน้าเป็นโค้งหักแต่ด้วยความเร็วจึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ในขณะที่ตั้งสติขึ้นมาได้ก็ได้ยินเสียงดังโครมแล้วรถของหนิงก็หมุนคว้างอีกครั้ง พี่โหน่งพยายามมาช่วยพ่อกับแม่ออกไปจากรถ ทุกคน ๆไม่เป็นอะไรมากแค่หัวแตก แล้วก็พี่หนิงน่าจะหนักหน่อยเพราะแขนหัก แต่รถอีกคนที่มาชนพวกหนิงหนักเลยคนขับตายคาที่ คนอื่น ๆ ก็สาหัส ในขณะที่รอรถพยาบาลอยู่นั้นหนิงก็หันไปเห็นผีที่วิ่งตามมาเมื่อกี้ยืนอยู่ที่ข้างรถที่มีคนตาย หนิงพยายามที่จะไม่มองแต่ผีตนนั้นก็ยังไม่หายไปไหนจนรถพยาบาลมาครอบครัวของหนิงจึงไปที่โรงพยาบาล ระหว่างทางพยาบาลก็เล่าว่าโค้งนี้เป็นโค้งอาถรรพ์ที่มักจะมีคนตายบ่อย ๆ หนิงจึงหันหลังกลับไปมองที่รถนั่นอีกครั้งก็ปรากฏว่าผีนั้นได้หายไปแล้ว หลังจากเหตุการณ์ครอบครัวของหนิงก็ไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผีที่เห็นในคืนนั้นกัน

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์