อื่นๆ
เสื้อผ้าคนตาย

ป้าแก้วเปิดร้านซักรีดอยู่ใกล้ตลาดในเมือง แกมีหลายอยู่หนึ่งคนชื่อเบียร์ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เบียร์เป็นเด็กขยันเขาช่วยงานป้าแก้วทุกอย่างในบ้าน ทำให้ช่วยแบ่งเบาป้าแก้วลงได้บ้าง วันหนึ่งขณะที่ป้าแก้วไม่อยู่ไปทำธุระที่บ้านเพื่อน เบียร์อยู่เฝ้าร้านแทนป้าแก้ว ช่วงสาย ๆ มีลูกค้านำผ้ามาให้ซักโดยใส่ถุงผ้าใบใหญ่มัดมาอย่างดี เบียร์ก็รับไว้และรีบจัดการนำผ้าออกมาแยกเพื่อเราที่จะแช่น้ำ ก่อนที่จะซัก ลูกค้าได้บอกกับเบียร์ว่าจะมารับผ้าในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเบียร์ก็ตอบตกลงเพราะคิดว่าผ้าแห้งทันอยู่แล้ว ขณะที่เบียร์กำลังแยกผ้าอยู่นั้น เขาก็พบว่าในถุงผ้าใบนี้มีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ มีคราบเขรอะ แถมวันมีกลิ่นเหม็นสาบ ๆ น่าสะอิดสะเอียน เขารีบน้ำผ้ามาแช่น้ำเพื่อดับกลิ่น จากนั้นจึงนำไปใส่เครื่องซักผ้า เมื่อซักเสร็จแล้วก็นำไปตากซึ่งเบียร์ก็ทำได้อย่างชำนาญ
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Donna Kirby จาก Pixabay
เมื่อป้าแก้วกลับมาถึงบ้านเบียร์ก็ทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เบียร์ก็บอกป้าแก้วว่า ผีเสื้อผ้ากองหนึ่งที่แปลก ๆ คือซักยังไงก็ไม่หายเหม็น ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงนำไปแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ครึ่งวันแล้ว ป้าแก้วจึงเดินไปดูก็เห็นว่าเป็นเสื้อผ้าปกติ จึงลองซักดูอีกครั้ง แต่ก็ยังมีกลิ่นเหม็นเหมือนเดิม ป้าแก้วจึงให้เบียร์นำไปผึ่งแดดไว้ก่อนเผื่อว่าแสดงแดดจะช่วยได้ เบียร์ก็ทำตามป้าแก้วบอกอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งก็รู้สึกว่ากลิ่นเหม็นบนเสื้อผ้าจะเริ่มจากลง เบียร์จึงตังใจว่าจะเอาไปซักอีกรอบและแช่น้ำยาไว้ทั้งคืน ตอนเช้าจะนำไปผึ่งแดดอีกรอบ
ในคืนวันนั้นเมื่อป้าแก้วกับเบียร์ทำงานกันเสร็จแล้วกำลังจะขึ้นบ้านนอนเบียร์ก็เห็นเหมือนเงาคนยืนอยู่ตรงเครื่องซักผ้า เขาจึงบอกป้าแก้วและพากันลงมาดูและเห็นเหมือนเงานั้นวิ่งไปทางหลังบ้าน เบียร์รีบเปิดไฟให้สว่างทั่วบ้าน ป้าแก้วคิดว่าต้องมีขโมยแอบเข้ามาขโมยชองแต่ สองคนป้าหลานเดินหากันทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบใคร จนเดินมาถึงตรงที่เบียร์เอาเอาเสื้อผ้าที่เหม็นสาบมาแช่น้ำยาไว้ ปรากฏว่าน้ำในถึงที่แช่ผ้ามีแต่สีแดงราวกับเลือด ป้าแก้วรีบหยิบขึ้นมาดูว่ามันเกิดจากอะไร ป้าแก้วบอกกับเบียร์ว่า “มันเหมือนเลือดเลย หรือมีคนแอบเข้ามาแกล้งเราแอบเอาสีมาเทใส่”
Advertisement
Advertisement
เบียร์ก็ถามกลับไปว่า “เขาจะมาแกล้งเราทำไมครับป้า”
ป้าแก้วก็ตอบว่า “ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นพวกวัยรุ่นคึกคะนอง”
เบียร์ก็พูดไปต่อว่า “มันเหม็นคาวเหมือนเลือดจริง ๆ เลยนะครับป้า”
ภาพโดย Donna Kirby จาก Pixabay
ป้าแก้วก็ยืนนิ่งและเทน้ำทั้งทิ้ง เพื่อจะเอาน้ำยาใส่แล้วนำผ้าลงไปแช่ใหม่ จากนั้นทั้งคู่ก็พากันขึ้นบ้านนอน กลางดึกเบียร์ตื่นมาเพราะได้ยินเสียงเหมือมีใครมาเปิดน้ำทิ้งไว้ที่ห้องซักผ้า เขาปลุกป้าแก้วแล้วพากันลงมาดู เมื่อเดินมาจนถึงห้องซักผ้า ก็เห็นร่างของชายคนหนึ่งกำลังนั่งใช้มือขยี้เสื้อผ้าเหม็นเน่าที่ป้าแก้วแช่ใช้ในถึง และร่างนั้นก็หันมาทางป้าแก้วกับเบียร์ มันมองพวกเขาอย่างน่าหวาดกลัว ป้าแกล้วยืนจนตัวสั่น ส่วนเบียร์ยืนกลัวจนน้ำตาไหล เพราะน่าตามันบูดบวม ปากฉีกยาวจนถึงใบหู ตาแดงกร่ำ ป้าแก้วลากมือเบียร์วิ่งขึ้นไปนอนกอดกันคลุมโปงอยู่บนบ้านจนตัวสั่น และได้ยินเสียงเจ้าร่างผีนั้นเปิดน้ำซักผ้าทั้งคืน
Advertisement
Advertisement
พอรุ่งเข้าเสียงผีซักผ้าได้หายไปแล้ว สองป้าหลานเดินลงมาจากบ้านก็เห็นเสื้อผ้าเหม็นเน่านั้นแช่อยู่ปกติ ป้าแก้วรีบปั่นแล้วนำไปตากเพื่อให้มันแห้ง โดยป้าแก้วไม่สนใจแล้วว่ามันจะหายเหม็นหรือไม่ เพราะป้าแก้วทั้งใจว่าถ้าเจ้าของผ้ามารับก็จะไม่คิดเงิน และให้เขารีบเอาเสื้อผ้ากองนี้ออกไปจากร้าน เพราะป้าแก้วมั่นใจว่าผีที่เห็นเมื่อคืนต้องมาจากเสื้อผ้า
พวกนี้แน่นอน พอช่วยบ่ายเช้าของผ้ามารับผ้า ป้าแก้วก็เล่าเหตุการณ์ที่เจอให้ฟัง จึงทำให้เจ้าของพ่อยอมรับและบอกว่า “ผมไปถอดมาจากพวกศพที่เพิ่งตายในป่าช้าเพื่อจะเอามาขายน่ะครับ คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กว่าอยู่กับศพ”
ป้าแก้วจึงตอบว่า “ถ้าอย่างนั้น ป้าแนะนำว่าให้เอาไปเผาซะเพราะผีมันเฮี้ยน”
เจ้าของผ้าก็ตอบว่า “ได้ครับป้า ผมจะรีบนำมันไปเผา”
จากนั้นชายคนนั้นก็จากไป ซึ่งก็ทำให้ป้าแก้วกับเบียร์โลงใจมากที่ผีจะไม่มาหลอกอีกแล้ว และหลังจากนั้นมาสองป้าหลานก็ไม่เคยเจอผีอีกเลย
ภาพโดย Donna Kirby จาก Pixabay
ความคิดเห็น
