อื่นๆ

รีวิวประสบการณ์เมื่อ "แม่" มี "ID Card" 2 ID

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวประสบการณ์เมื่อ "แม่" มี "ID Card" 2 ID

มีใครเคยเป็นเหมือนกันบ้างหรือไม่คะ? อยู่มาจนอายุ 30 กว่าปี เพิ่งจะรู้ว่าแม่ของเรามีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2 หมายเลข ฮ่าๆ ต้องขอสารภาพตรงนี้เลยว่า ด้วยความที่เป็นคนเอื่อยเฉื่อยเป็นทุนเดิม เลยรู้ช้า ประกอบกับไม่รู้ว่าผิดพลาดในช่วงเวลาใด แม่ของผู้เขียนเลยมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 2 เลข!?! ใช่ค่ะ ฮ่าๆ วันนี้ผู้เขียนเลยจะมารีวิวประสบการณ์ "แม่" มี "ID Card" 2 ID!!!

ภาพระบบการยื่นแบบของสรรพากร

บางคนเริ่มสงสัย เอ๊ะ แล้วมี 2 เลขได้อย่างไร แล้วทำไมเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ ต้องขอเล่าอย่างละเอียดตรงนี้เลยว่า มีความผิดปกติมาหลายปีมากๆ ในทุกๆ ปีของช่วงยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภงด.90/91) ด้วยความที่แบบ ภงด.90/91 มีรายละเอียดของการกรอกค่าลดหย่อน ช่อง "เลี้ยงดูอุปการะบิดามารดา" โดยรายละเอียดยังไง ขอไม่ลงลึกเชื่อว่าทุกท่านคงทราบดี ซึ่งการจะกรอกช่องดังกล่าวในระบบฐานข้อมูลของกรมสรรพากรจะมีฐานข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาของผู้เสียภาษีเงินได้อยู่แล้ว โดยช่วง 5 - 6 ปีก่อน ผู้เขียน กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของมารดาเหมือนที่ทุกท่านกรอกๆ กัน แต่ระบบสรรพากรกลับขึ้นข้อความแจ้งเตือนดังรูปด้านล่างค่ะ ซึ่งเมื่อก่อนก็ไม่สนใจ อะไม่เป็นไร เพราะด้วยความที่รายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี หรือบางปีเสียแต่มีการเครดิตภาษีไว้ ก็สามารถขอคืนได้เต็มจำนวน ประกอบกับเข้าใจมาตลอดว่าเราเองอาจจะยังไม่ยื่นเพิ่มเติมฐานข้อมูลกับหน่วยงานต้นสังกัดที่จ่ายเงินเดือนก็เป็นได้ (แต่ภายหลังมาตรวจสอบก็ทราบว่าตัวเรามีการยื่นฐานข้อมูลบิดามารดาครบถ้วนแล้วตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน)

Advertisement

Advertisement

ภาพระบบการยื่น ภงด.90/91

ต่อมา ช่วงปีสองปีที่แล้ว (2562-2563) เป็นช่วงที่ผู้เขียนเริ่มมีเกณฑ์ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมมากขึ้น จึงได้เริ่มวางแผนภาษี เพื่อที่จะเตรียมทั้ง คชจ.ตามเกณฑ์ ค่าลดหย่อนบุตร มารดา เบี้ยประกันต่างๆ  รวมๆ กันแล้วนำมาลดหย่อนหักกับภาษีที่เครดิตภาษีไว้จะได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเติม โดยรอบปีภาษีประจำปี 2563 ผู้เขียนเองก็เฉื่อยมาก มากรอกแบบยื่นเอาตอนท้ายๆ ช่วงมิถุนายน (หรือกันยายนไม่แน่ใจ แต่แน่ใจว่าวันสุดท้ายของการยื่นภาษีเลยทีเดียว แฮ่ๆ) ระบบสรรพากรก็ขึ้นแจ้งเตือนแบบเดิม จึงต้องโทรเข้า Call Center ของสรรพากร ก็ได้ความว่า เป็นไปได้ว่าเลขบัตรประชาชนของแม่กับระบบทะเบียนราษฎร์ไม่ถูกต้องต้องให้แม่ไปติดต่อขอตรวจสอบที่อำเภอดู ทราบดังนั้นก็เลยโทรหาแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดให้เข้าไปตรวจสอบให้หน่อย แล้วแม่ก็ไปดำเนินการให้แล้วตอบกลับมาว่า เลขบัตรทะเบียนบ้านกับบัตรประชาชนแม่ตรงกัน แต่เปลี่ยนข้อมูลให้แล้ว "แม่เปลี่ยนชื่อจากชื่อนี้เป็นชื่อนี้ ในบัตรชื่อประชาชนกับทะเบียนบ้านไม่ตรงกัน แม่เปลี่ยนให้แล้วนะ" หลังจากนั้นผู้เขียนก็กลับมายื่นอีกครั้งในช่วงเย็นๆ แต่ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้เหมือนเดิม ซึ่งในปีนั้น ผู้เขียนก็ไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนในส่วนของบิดามารดาเหมือนเดิม (จริงๆ แล้วก็รวม 5 ปีที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์)

Advertisement

Advertisement

จากนั้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ปีนี้ตั้งใจบอกตัวเองว่าจะเลิกเอื่อยเฉื่อยแล้วนะ ก็มะ! สะสางไปทีละเรื่อง เริ่มจากการยื่นแบบ ขอเงินภาษีที่เครดิตไว้ก่อนแล้วกันจะได้มีเงินใช้จ่ายซื้อของตรุษจีนบ้างเนอะ (จริงๆ แล้วยอดที่คำนวณไว้ไม่เยอะนะคะ แต่ถึงจะน้อยก็เงินค่ะ ^^) ก็เริ่มยื่นๆ ด้วยใจหวังว่า ปีที่แล้วแม่ไปแก้ไขข้อมูลในระบบทะเบียนราษฎร์แล้ว ปีนี้ต้องใช้สิทธิ์ได้แล้วแหละ กรอกๆ ไป พอถึงหน้ากรอกค่าลดหย่อน ตึ๊ง!!!! กล่องข้อความสีแดง ตัวอักษรสีขาวที่คุ้นเคย เด้งแจ้งเตือนเหมือนเดิม แบบโอ้ย!!! ครั้งนี้ไม่ไหวแล้วนะ โทรเข้า 1161 สรรพากร รอสายนานมากกกกกก แต่เจ้าหน้าที่น่ารักมากเช่นกัน เริ่มต้นจากการตรวจสอบเลขบัตรประชาชนของแม่ก่อน ก็อะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า "มีนะคะ" แถมยังช่วยเข้าระบบกรอกข้อมูลให้ แต่พอมาหน้าลดหย่อนก็เหมือนเดิมค่ะ เจ้าหน้าที่ปลายสายแจ้งว่า "ไม่ได้จริงๆ ค่ะ" ฮ่าๆๆๆ เราไม่โกหกหรอกนะ เจ้าหน้าที่เลยตรวจสอบข้อมูลแล้วให้ดูหมายเลขบัตรประชาชนแม่กับบัตรประชาชนว่าตรงกันหรือไม่ เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ตรงกัน (มีความคิดว่า บางทีเราไม่ใช่เคสแรกแน่นอน) พอเปิดดู

Advertisement

Advertisement

แท่นแท๊นนนนน!!!!! ไม่ตรงจริงๆ ไม่ตรงแบบผิดหมดทุกตัว มีแค่เลข 3 ตัวหน้าตัวเดียวละม้างที่ตรงนอกนั้น ไม่เหมือนกันสักตัว แบบ อ้าวเห้ย เป็นไปได้ยังไงกันเนี่ยยยยย

รูปเปรียบเทียบทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนเมื่อรู้จุดที่ผิดพลาดแล้วก็ขับรถมุ่งหน้าที่ทำการอำเภอที่อยู่ปัจจุบันเลยจ้า ด้วยความที่เป็นคนไม่คิดอะไรเยอะ คิดแค่ว่ามีบัตรประชาชนใบเดียวก็คงทำธุรกรรมอะไรได้หมดแล้วและเนอะ ยุคนี้สมัยนี้กันแล้ว แต่พอไปถึงเล่ารายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าฟัง เจ้าหน้าที่เข้าใจและให้ไปถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของแม่มา อะอันนี้เข้าใจได้ เพราะแม่ไม่ได้มาด้วย ก็ไปถ่าย แล้วกลับมารับบัตรคิวเพื่อเข้ารอด้านใน พอถึงคิว ก็อธิบายๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น เจ้าหน้าที่ด้านใดก็เริ่มตรวจสอบ คำถามแรกที่ได้คือ "มีสูติบัตร มีใบเกิดมาด้วยมั้ยคะ" เราก็ หือ งงๆ อยู่ พร้อมตอบกลับแบบงงๆ ตัวเองว่า อ่อ ตอนนี้ไม่มีค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็กลับไปตรวจสอบต่อ และถามคำถามโน่นนี่อีกมากมาย ถามถึงมีพี่น้องร่วมสายมารดาหรือไม่ ถ้าเสียแล้วมีใบมรณะบัตรหรือไม่ ในส่วนนี้ก็เข้าใจเจ้าหน้าที่มากๆ ที่ต้องหาข้อมูลมายืนยันด้านการเปลี่ยนแปลงข้อมูลของระบบทะเบียนราษฎร์ แต่เราไม่ได้ถามกลับสักคำว่า จริงๆ แล้วมันผิดพลาดได้ยังไง และส่วนไหน อ่อๆ ขอย้อนกลับไปเรื่องทะเบียน เมื่อ 10 กว่าปีก่อนผู้เขียนซื้อบ้านและได้เล่มสำเนาทะเบียนใหม่ นั่นทำให้เราต้องแยกเล่มทะเบียนออกจากแม่และเราก็ไม่ได้สนใจเล่มทะเบียนเล่มเก่าอีกเลย ประกอบกับแม่ของผู้เขียนมีการเปลี่ยนชื่อ มีการย้ายภูมิลำเนาจากจังหวัดหนึ่งมาจังหวัดหนึ่ง ก็เลยไม่รู้ว่าผิดพลาดตั้งแต่ช่วงไหน ยังไง อะไม่เป็นไร ไม่ถามถึงสาเหตุใดๆ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ดูงงๆ กันว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไงกัน ก็พยายามที่จะสืบหาต้นสายปลายเหตุเพื่อที่จะหาทางแก้ไขให้ถูกต้อง ก็มาสรุปจบที่ว่า เจ้าหน้าที่ให้เขียนแบบฟอร์มคำร้องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยให้เหตุผลว่า "ไม่อาจดำเนินการได้เนื่องจากหลักฐานประกอบไม่เพียงพอ"

ภาพข้อมูลจากระบบทะเบียนราษฎร์

เกือบจะจบแต่ไม่จบ ตอนแรกก็ว่าจะไม่รีวิว แต่ก็มาสะดุดตรงคำว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ตอนนั้นผู้เขียนเองเข้าใจว่า หลักฐานทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ในระบบข้อมูล? ข้อมูลของระบบราชการไทยตั้งแต่คลอด เกิดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย ทั้งหมดทั้งมวล มันอยู่ในระบบ แล้วทำไมถึงยังตรวจสอบไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องสอบปากคำแม่ของผู้เขียนซึ่งอยู่ที่ต่างจังหวัด โดยจะทำเรื่องส่งหนังสือไปยังอำเภอที่แม่อาศัยอยู่ให้เข้าไปชี้แจงเพื่อประกอบคำร้องขอเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

จากทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามา ด้วยความที่ผู้เขียนอยู่ในระบบราชการมาหลายปี รู้ซึ้งและเข้าใจในระบบฐานข้อมูลในยุคเก่าแก่สมัยโบราณกาลว่าอาจจะมีการแจ้งเกิดแจ้งตายตกหล่น ล่าช้า สูญหาย หรือระบบการทำงานในแบบสมัยก่อนที่ทำให้ราชการถูกมองในแบบที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม" ซึ่งนั่นมันเมื่อก่อน! แต่ในสมัยนี้ ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำมากขึ้น ซึ่งจะว่าไปการเข้าไปติดต่องานในวันนี้แทบไม่เห็นภาพแบบนั้นแล้ว แต่ในทางกลับกันเจ้าหน้าที่ดูแลต้อนรับบริการประชาชนดี ให้การบริการแบบเต็มที่ ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ภายใต้กรอบ ระเบียบ กฎเกณฑ์ที่อาจจะกำหนดว่า ถ้าประชาชนมาติดต่อเรื่องนี้ ต้องดำเนินการตามขั้นตอน 1 2 3 4  ตามลำดับ หากไม่มีลำดับที่ 1 หรือ 2  หรือ 3 จะไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ รวมถึงถึงแม้ระบบฐานข้อมูลที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้งาน ระบบฐานข้อมูลที่มีความผิดพลาด ไม่ว่าจะด้วยเจ้าหน้าที่จากสมัยไหนที่ทำผิดไว้ก็ตามแต่ จึงทำให้ผู้เขียนอยากจะแนะนำในส่วนของระบบราชการด้านการค้นหาเอกสารหลักฐานประกอบ ในเมื่อข้อมูลใบเกิดเราก็มีฐานข้อมูลอยู่ในระบบทะเบียนราษฎร์ เราทำงานอยู่ในหน่วยงานภาครัฐ ข้อมูลแม่เราเบิกจ่ายตรงรพ.รัฐ นั้นคือแม่มีฐานข้อมูลอยู่ในระบบกรมบัญชีกลาง และในระบบสรรพากรด้วยแล้ว ด้วยเลขบัตรประชาชนตามหน้าบัตรประชาชน ซึ่งนั่นคือเลขที่ถูกต้อง เท่านี้ก็อาจจะเพียงพอต่อการสืบสวนต้นสายปลายเหตุเพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ท้ายที่สุดการยอมรับกฎ กติกา เพื่อการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องแท้จริงแล้วก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างถึงที่สุด

ปล. รูปภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียนเองนะคะ

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ChatnapaB
ChatnapaB
อ่านบทความอื่นจาก ChatnapaB

นักสร้างคอนเทนต์ที่อยากติดเทรนด์

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์