เคล็ดลับ ขี้เกียจอย่างไรให้บรรลุเป้าหมาย

เครดิตภาพ https://www.pexels.com/photo/design-desk-display-eyewear-313690/

ขี้เกียจ ดูเหมือนคำนี้จะไม่ใช่คำที่แปลกใหม่อะไร เอาจริงๆ คนส่วนมากก็ขี้เกียจกันทั้งนั้นแหละ แต่คนขยันก็มี แต่คิดว่าคนขี้เกียจอาจจะมากกว่า บางคนก็คือมีนิสัยขี้เกียจเลย บางคนก็ขี้เกียจเป็นครั้งเป็นคราว ผมเองก็เป็น1ในคนที่ขี้เกียจไปหมด บางครั้งลงจากหอไปซื้อข้าวผมยังไม่อยากทำเลย การเลิกขี้เกียจทำได้ครั้บแต่ต้องใช้เวลาและก็ค่อนข้างยาก แต่สถานะการณ์เหตุการณ์ในประจำวันมันก็ไม่เป็นใจจะรอให้ผมหายขี้เกียจ ผมเลยจำเป็นต้องพลิก "วิกฤต" ให้เป็น "โอกาส" เอาความขี้เกียจมาทำให้งานเสร็จ ประสบผลสำเร็จกัน

1.ต้องคิดพลิกแพลง การทำงานโดยใช้ระยะเวลานานๆ ไม่เหมาะกับผมเลยครับ มันยิ่งทำให้งานน่าเบื่อหรือเซ็งเข้าไปอีก เพราะงั้นสิ่งที่ผมคิดได้ คือ หาวิธี พลิกแพลง ทำไงก็ได้ให้มันเสร็จไว และ ไม่ใช่ทำแบบลวกๆ เพราะไม่งั้นผมก็จะต้องมานั่งทำใหม่ ทำซ้ำ แก้อีก  นั่นเป็นที่มาของคำว่า ไอเดียสร้างสรรค์นั่นเองครับ วิธีนี้ไม่เดือดร้อนใคร ทำให้งานเสร็จไว้แบบไม่ลวกและได้เทคนิคใหม่ดีๆด้วย แถมเมื่องานเสร็จไว จะได้มีเวลาขี้เกียจต่อ 55

4.ต้องกำหนดเป้าหมายของงาน เมื่อเจ้านายบอกว่า งานนี้เอาไว้ว่างๆค่อยทำ หรือ งานนี้ไม่รีบ เดี๋ยวค่อยทำ แบบนั้นงานผมจะไม่มีวันเสร็จครับ ทางที่ดีคือ กำหนดวัน เวลาที่ต้องส่ง พร้อมบอกผลกระทบมาเลยครับ ว่าถ้าส่งไม่ทันตามกำหนด อะไรจะมาเยือนผมบ้าง แบบนี้มันทำให้เราต้องรีบปั่นเหมือนไฟลนก้นครับ เสร็จเร็วเสร็จไวแล้วไปขี้เกียจต่อป้ายหน้า 555

เครดิตภาพ https://www.pexels.com/photo/man-in-white-shirt-using-macbook-pro-52608/

5.อย่าบั่นทอนตัวเองด้วยการเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่า คนเรามีศักยภาพ และ ความสามารถไม่เท่ากันกันทุกคนครับ บางคนเก่งแต่เกิด บางคนมาฝึกฝนตอนโตจนเก่ง  การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบว่า เราคงเก่งสู้คนนั้นไม่ได้ เลิกทำดีกว่า ไม่เห็นต้องพยายามเลย นี่คือความคิดที่ผิดมหันต์นะครับ นั่นยิ่งทำให้ความขี้เกียจเรามากขึ้นไปอีก คราวนี้แม้แต่ความพยายามคิดพลิกแพลงก็จะไม่มีเลย

ใครที่เห็นว่าวิธีนี้พอจะใช้กับสไตล์ตัวเองได้ ก็ลองนะครับ จะได้เป็นการใช้ความขี้เกียจให้เป็นประโยชน์ด้วย ไม่เสียงาน แถมเราก็ยังมีเวลาขี้เกียจต่อไปด้วยครับ อิอิ