อื่นๆ

" ก ริ ช เ งิ น " โบราณ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
" ก ริ ช เ งิ น " โบราณ


"บอกไว้ก่อนนะครับว่านี่คือเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของผม " เรื่องมีอยู่ว่าตัวผมนั้นได้เริ่มเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านรังสิต ผมเลือกที่จะเรียนในคณะออกแบบภายใน ส่วนตัวแล้วชอบคณะนี้มากอยากจบมามีงานที่มันมั่นคงในชีวิต แถมงานที่อาจารย์มอบหมายให้ก็มีมากมายกายกองในแต่ละวัน ณ วันที่เกิดเหตุผมกับเพื่อนอีกคนที่ชื่อมอสไปนั่งทำงานที่หอไอ้เต้ด้วยกัน มันเป็นงานกลุ่มสามคนที่ต้องช่วยกันทำและต้องส่งให้ทันภายในวันพรุ่งของวันถัดไป ผมกับมอสขับมอเตอร์ไซค์ไปซื้อของกินเพื่อตุนเป็นเสบียงสำหรับการทำงานในค่ำคืนนี้ เมื่อมาถึงหอเต้..ก็ได้เดินขึ้นไปบนชั้นสี่ทันทีซึ่งห้องของไอ้เต้จะติดอยู่กับทางขึ้นบรรได มันเป็นทางสามแยก ในคำโบราณเขากล่าวเอาไว้ว่ามันเป็นทางผีผ่าน แถมหอนี้ก็ไม่มีแม้แต่ศาลพระภูมิเลยสักนิดเดียว ซึ่งหอจะอยู่ลึกเข้าไปหน่อยมันเปลี่ยวและน่ากลัวมาก

Advertisement

Advertisement

แปลนงาน

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องไอ้เต้ที่กำลังนั่งวาดแปลนห้องอยู่ก็กล่าวคำทักทายในทันทีที่เจอกับพวกผม " ไงเพื่อน! พวกมิงสองคนได้ซื้อกาแฟมาให้กูด้วยรึป่าว " ผมก็ตอบไปว่า..ซื้อมาดิ ยังไงวันนี้ไม่แน่อาจจะต้องอยู่กันหยั่นหว่าง5555+ จากนั้นทุกคนก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตากันช่วยทำงานกลุ่มที่ได้รับมอบหมายมา ทำงานไปได้สักพักไอ้เต้ก็หยิบของชิ้นหนึ่งมาให้ดู มันเป็นมีดกริชเงินโบราณที่ไอ้เต้สั่งซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ต " เป็นไงมีดเล่มนี้สวยไหม " โดยส่วนตัวแล้วเต้มันชอบสะสมของเก่าและด้วยความที่ทรวดทรงของมีดเล่มนี้มีความปราณีตสวยงาม ผมเลยขอมันดูพร้อมกับหยิบขึ้นมาอย่างเบามือ มันเป็นมีดกริชเงินอย่างแท้จริงตัวด้ามจับถูกแกะสลักเป็นลายสิงห์ จนเวลาผ่านไปถึงช่วงตอนตีสอง และงานตอนนี้เริ่มใกล้จะเสร็จจะแล้ว

ปิดตา ขอบคุณภาพจาก https://health.kapook.com/view6718.html

Advertisement

Advertisement

จากนั้นมอสก็บอกกับทุกคนว่า " เหลืออีกนิดเดียวเองไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาทำต่อ กูไม่ไหวแล้ววะ " เต้ก็ตอบทันที...เออๆ มิงตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วยเจ็ดโมงเช้าเดี๋ยวค่อยตื่นมาทำกัน หลังจากนั้นเต้ก็เดินไปปิดไฟในห้องพร้อมกับเปิดประตูตรงระเบียงไว้ให้อากาศถ่ายเทสดวก ผมกับมอสนอนบนเตียง ส่วนเจ้าของห้องหรอ...อ้อ!นอนข้างล่างสิครับ555+ แต่ไอ้เต้มันนอนอยู่ข้างๆเตียง คืนนั้นทุกคนหลับสนิทด้วยความอ่อนล้าจากการทำงาน และช่วงประมาณตีสองกว่าๆมันเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น จู่ๆผมก็เกิดมีอาการตัวแข็งแต่เมื่อลืมตาขึ้นมาผมกลับเห็นเงาแขนดำๆมาจับขาทั้งสองของผมไว้ ผมพยายามเรียกมอสที่นอนอยู่ข้างๆแต่มันกลับพูดออกมาไม่ได้ เสียงที่เปล่งออกไปก็เพียงคำว่าอือ อือเท่านั้นเอง จากนั้นก็มีเสียงของผู้ชายแก่ๆสักประมาณช่วงวัยสี่สิบปีมาหัวเราะใส่ที่ข้างๆหู ตอนนั้นผมบอกเลยว่ากลัวมากเพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ผมก็เรียกมอสอีกทีแต่มันก็ยังเหมือนเดิมพูดได้แค่อือๆเบาๆทั้งที่อยากจะตะโกนสุดเสียงแท้ๆ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดี ไอ้มอสเพื่อนผมคนนี้มันเป็นคนที่รู้สึกตัวง่ายมาก พอมอสลืมตาขึ้นแล้วถามว่ามีอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคายออกและขยับตัวได้เป็นปกติ

Advertisement

Advertisement

กริชเงิน ขอบคุณภาพจาก http://legend-knife.blogspot.com/2010/08/blog-post_4880.html

ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นเปิดไฟทั่วทั้งห้องในทันที ผมเล่าเหตุการณ์ให้มอสกับเต้ฟัง เต้ก็ยิ้มและบอกว่า " อาจจะเป็นเพราะกริชเงินเล่มนี้ก็ได้เพราะเจ้าของเดิมเสียชีวิตไปตั้งนานแล้วโดยถามประวัติจากคนขาย กูลืมบอกให้มิงขอขมาก่อนจะหยิบจับมีดเล่มนี้ " ผมเลยร้องออกมาว่า ไอ้....!ไม่บอกกูพรุ่งนี้เลยละ หลังจากวันนี้เมื่อผมไปห้องเต้อีกครั้งตอนเอางานไปให้ เต้ให้รอในห้องคนเดียวเพราะมันลงไปเอางานกับเพื่อนอีกคนให้ข้างล่าง ในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงสิบนาทีผมจะได้ยินเสียงแปลกๆอยู่เสมอตอนอยู่ในห้องคนเดียว มีเสียงเหมือนมีคนอยู่ในห้องน้ำบ้างละ ตู้เย็นขยับเองบ้างละ (นี่ขนาดผมใส่พระด้วยนะเนี่ย..ผมคิดในใจเมื่อไหร่มันจะขึ้นมาหว่า พอเห็นแบบนี้เลยลงไปข้างล่างด้วยเลย เห็นมันกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่ครับ ไอ้เราก็นึกว่าเอาของเสร็จก็ขึ้นมาเลย) วันถัดมาเต้เลยหายันต์มาแปะไว้ในห้องตรงหน้าประตูทางเข้า อยู่มาวันหนึ่งมอสผมและเต้มีงานกลุ่มและได้ไปทำงานที่ห้องด้วยกันอีกครั้ง แต่วันนี้ทุกคนต่างมองเป็นสายตาเดียวกัน...เห็นยันต์ที่แปะไว้หลุดออกต่อหน้าต่อตาพร้อมกับเสียงบิดประตูตามมา โอ้พระเจ้า! วันนั้นบอกเลยว่าไม่ได้นอนรอเช้าค่อยกลับ555และหลังจากผมก็ไม่ไปเหยียบที่หอเต้อีกเลย ผมคิดในใจไอ้เต้มันไม่กลัวเลยหรอ แต่ผมรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ไม่เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น....


มีอีกหลายเรื่องครับ เดี๋ยวจะทยอยเขียนให้อ่านกันนะทุกคน....

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์