อื่นๆ

เจ้าที่เจ้าทาง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจ้าที่เจ้าทาง

หนูนรกชวนหลอนวันนี้ ขอเสนอตอน : เจ้าที่เจ้าทาง

ปกติจะติดตามรายการ The Ghost Radio ฟังเรื่องหลอนๆเป็นประจำ วันนี้หนูนรกก็เลยอยากเล่าบ้าง

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เจอกับตัวเอง คิดว่าครั้งนั้นคือเรียกได้ว่า นี่แหละที่เรียกว่า เจอผี แบบจริงๆ

ย้อนกลับไปประมาณ 15-16 ปีที่แล้ว เรื่องเกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี  ตอนนั้นเป็นช่วงที่เฟี้ยวฟ้าวมีแก๊งเพื่อนที่แบบเที่ยวนั้นเที่ยวนี่

วันนั้นจำได้ว่า ได้เจอเพื่อนคนนึงที่ไม่ได้เจอกันนาน สมมุติชื่อเพื่อนคนนี้ว่า  หนึ่ง  แก๊งเพื่อนก็แบบ เฮ้ย หนึ่งไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะ

ก็คุยกันสัปเพเหระไปเรื่อย หนึ่งก็ชวนกลุ่มเพื่อนว่า ไปเที่ยวบ้านเรากัน  เดอะแก๊งก็ตอบตกลง Let's Go


กลุ่มเพื่อนที่มาบ้านหนึ่ง มีผู้ชาย 4 คน และผู้หญิง 3 คน รวมหนึ่งด้วย  ตอนเข้าไปเรานั่งรถกระบะเข้าไป พร้อมเสบียงเครื่องดื่มของเพื่อนผู้ชาย

Advertisement

Advertisement

บ้านของหนึ่งอยู่ห่างจากตัวเมื่อไปประมาณ 10 กม. ตัดจากถนนใหญ่ทางเข้าไปคือเป็นทุ่งนาทั้งสองข้างทาง มีต้นไม้ใหญ่เป็นระยะ ตลอดทาง

เป็นเวลาบ่ายสี่โมงแล้ว เราก็ไปถึงบ้านหนึ่ง เราเห็นบ้านหลังใหญ่ 1 หลัง ซึ่งอยู่อีกฝั่งของคลองน้ำ ด้านหลังเราเป็นบ้านไม้หลังเก่าๆ ยกใต้ถุนสูง

ซึ่งปลูกอยู่ในมุมของผืนนา เราเดินขึ้นบันไดไปสำรวจบ้าน บ้านมีหน้าต่าง 2 ฝั่งคือฝั่งซ้ายมือและหัวนอน

ดูจากลักษณะน่าจะไม่มีคนอยู่มานานมากแล้ว พื้นไม้กระดานฝุ่นเกาะหนา บนบ้านมีกล่องกระดาษเก่าๆมีของจุกจิกอยู่ข้างใน

ซึ่งมองดูแล้วคิดว่าเจ้าของน่าจะเก็บรวมๆรอทิ้ง

มุมสุดด้านในของตัวบ้านมีโต๊ะไม้ยกสูงทำเอง คล้ายกับเคยเป็นหิ้งพระเก่า ซึ่งตอนนี้ ไม่มีพระอยู่บนหิ้งแล้ว มีเพียงกระถางธูปที่ถูกทิ้งไว้


หลังจากสำรวจบ้านเสร็จเราก็ช่วยกันทำความสะอาด ปัดกวาดถู หนูเองได้พูดกับกลุ่มเพื่อนว่า อย่าลืมจุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางด้วยนะ

Advertisement

Advertisement

แล้วเราก็ลืมเรื่องนี้ไป ไม่ได้เอะใจว่า มีใครไปขอธูปมาจุดหรือยัง   จากนั้นเดอะแก๊งก็เริ่มตั้งวงดื่มกันอย่างเฮฮา พร้อมกับโดดน้ำในคลองเล่นกัน

เราเป็นคนไม่ดื่มเหล้า แต่ก็นั่งเฮฮาเมาส์มอยฝอยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนใกล้มืดแล้ว พี่ในกลุ่มเจ้าของรถกะบะ ก็ขอตัวกลับก่อน

เพื่อนในกลุ่มที่ยังตั้งวงกินติดลมกันอยู่ ก็ตกลงกันว่า โอเค งั้นคืนนี้ เรานอนที่นี่กันแล้วกันค่อยกลับพรุ่งนี้


เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่ม เสียงรอบข้างเงียบสงัด ความมืดปกคลุมไปทั่ว หนึ่งกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ไปแล้ว  ตัวเราเริ่มง่วงแล้ว

ก็ขอตัวเพื่อนๆไปนอนก่อนพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงอีกคน  ช่วงเวลาประมาณตีสองหรือตีสามไม่แน่ใจ เราได้ยินเสียงเหมือนคนพูดพึมพำๆ

เหมือนคนสวดหรือพูดอะไรซักอย่าง เสียงผู้ชายสลับเสียงผู้หญิง ดังมากจากด้านนอก เราก็งัวเงียๆแล้วมองหาต้นเสียงนั้น สิ่งที่เราเห็นคือ

Advertisement

Advertisement

ผู้ชายและผู้หญิงแก่ ใส่เสื้อสีขาวเหมือนเสื้อที่คนรักษาศีลใส่ คอกลมมมีกระดุม ทรงผมดอกกระทุ่ม ลอยอยู่นอกหน้าต่าง

แล้วก็ยังคงพึมพำอยู่อย่างนั้น เพราะเสียงเซ็งแซ่ตีกันไปหมด

ที่เราใช้คำว่า ลอยอยู่ข้างนอก เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่บ้านยกใต้ถุนสูงแบบนั้นจะมีคนยืนถึง


พวกเขาเหล่านั้นมองมาที่เรา  ใจตอนนั้นคือเต้นจนแทบจะระเบิดออกมา เริ่มร้องไห้ กลัวสุดขีด ลุกขึ้นมานั่งแล้วปลุกเพื่อนที่นอนข้างๆ

เราเขย่าขาเพื่อนเขย่าสุดแรงเกิด แต่สิ่งที่เราสัมผัสคือ ขาของเพื่อน มันเป็นตะปุ่มตะป่ำ มีน้ำเหลือง  คล้ายกับขาของคนที่ขึ้นอืดแล้ว

วินาทีนั้นเราไม่รออะไรแล้ว เปิดประตูได้ เราโดดจากบันไดขั้นแรกจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย จำได้ว่ายืนจับคอเสื้อตัวเองแน่นและท่องได้แค่

นะโม นะโม  บทสวดที่เคยสวดได้ ตอนนั้นในหัวนึกอะไรไม่ออกเลย อีกแค่ไม่กี่นาทีต่อมา เพื่อนก็เปิดประตูออกมา เพราะได้ยินเสียงของเรา

เราเล่าเรื่องให้ฟังว่า เราเจอผี เรื่องเป็นนี้นะ ไม่มีใครเชื่อเราเลย แล้วบอกให้เราไปนอนต่อเถอะ เราบอกว่าไม่แล้วใครจะอยู่ก็อยู่

เราจะเดินกลับคนเดียว กลุ่มเพื่อนที่บอกว่า ไม่เชื่อๆ แต่ก็พร้อมใจกันจะเดินกลับด้วย

ประสบการณ์หลอนนี้ หนูนรกเองก็ยังจำได้ติดตา ยังจำหน้าป้าผู้หญิงคนนั้นได้ คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางมาตักเตือนสั่งสอน

ที่มาส่งเสียงโหวกเหวกเฮฮาแบบไม่เคารพสถานที่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์