อื่นๆ

เมื่อรูมเมทบอกว่าห้องของพวกเรามีผี

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อรูมเมทบอกว่าห้องของพวกเรามีผี

     เกริ่นก่อนเลยนะครับ ผมเป็นคนกรุงเทพ สมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังแถวรังสิต ผมอยู่กับเพื่อนอีก1คน เป็นรูมเมท ผมเป็นคนจิตค่อนข้างแข็ง (ไม่เคยเจอผีมาก่อน) ส่วนเพื่อนผมนั้นเป็นคนจิตอ่อน ผมรู้ได้ทันที! เพราะมีหลายเหตุการณ์ เช่น ร้องโวยวายกลางดึก ผมสะดุ้งตื่น เลยรีบเข้าไปถามเพื่อนว่าเป็นอะไร
เพื่อนผมไม่ตอบ พอรุ่งเช้ามาถึง เพื่อนจะบอกว่าโดนผีอำ ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ เลยพอจะรู้ว่ามันเป็นคนขวัญอ่อนแน่ๆ





     ผมดำเนินชีวิตในมหาวิทยาลัยตามปรกติ ใช้ชีวิตกับเพื่อนรูมเมท เฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงตามประสาวัยรุ่นทั่วไปครับแต่มันมีอยู่วันหนึ่ง ระหว่างที่ผมกับเพื่อนปั่นจักรยานกลับหอที่อยู่ท้ายมหาวิทยาลัย (หลังจากนี้ขอให้คำว่า มอ นะครับ) หอที่อยู่หลังมอ จะมีเส้นทางถนนที่แคบ
มีตึกร้างเก่าๆอยู่ตึกนึง ตรงวงเวียน ก่อนที่จะถึงหอของพวกผม ในทุกๆวันก็ปั่นกลับหอกันปรกติแหละครับ แต่วันนี้มันไม่ใช่ ผมยังจำได้ดี
มันเป็นช่วงเวลาค่ำๆ ท้องฟ้าเป็นสีออกแดงๆ เหลืองๆ บรรยากาศมีลมเบาๆ โชยๆครับ เพื่อนผมเป็นคนปั่นส่วนผมเป็นคนซ้อน พอเพื่อนผมปั่นจักรยานผ่านตึกร้าง อยู่ๆเพื่อนผมก็ทิ้งจักรยานทันที! อ่านไม่ผิดครับ ทิ้งจักรยานในขณะที่ปั่น แล้วกระโดดตัวล้มลงข้างทาง ผมในฐานะผู้ซ้อนก็หกล้มลงริมทางด้วยครับ รถที่ตามหลังมาเกือบชน แต่โชคดีที่เขาเบรคทันครับ เพื่อนผมทำท่าชี้ไปที่ตึกร้างนั่น ใบหน้าซีดจาง ผมหันมองตามปลายนิ้วของเพื่อน ก็ไม่พบอะไร ผมตบบ่าเพื่อนแล้วบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอกมึง" เพื่อนผมเริ่มเหงื่อออก ผมสังเกตเห็นใบหน้าที่ซีดมากๆ ตั้งแต่ที่ผมเคยพบเจอมาเลย มันพูดกับผมทันทีว่า "มีผู้หญิงผมยาวอยู่บนนั้นกำลังจ้องมองมา" ผมผงะ หันหน้ามองไปตรงจุดที่มันชี้อีกที แต่ก็ไม่ได้พบอะไร ในใจผมคิดแต่ว่า มันคงขวัญอ่อนและจินตนาการไปเองอีกแล้วแหละมั้ง ผมหยิบจักรยานขึ้นมา พลันมองเห็นแผลที่ขาตัวเอง ก็เริ่มรู้สึกว่าเจ็บ ด่าเพื่อนไปติดตลกว่า "ไอ้เชี่ย ทำกุมีแผลเลยนะสาด" ผมเรียกมันมาซ้อนท้ายผมพลางพูดว่า "เดี๋ยวกูปั่นเอง ให้มึงปั่น เดี๋ยวกุได้แผลอีกแน่"

Advertisement

Advertisement






     ทุกอย่างดำเนินไปตามปรกติของชีวิต จนกระทั่งคืนนั้น หลังจากที่ผมอาบน้ำสระผมเรียบร้อย ผมเหลือบมองหาเพื่อน เพื่อนผมชี้มาที่เตียงผม ด้วยใบหน้าสั่นเทา "มีผู้หญิงผมยาวนั่งอยู่ที่เตียงมึง" เพื่อนผมพูดด้วยใบหน้าซีดเซียว ผมหันหน้าไปทันทีด้วยความอยากรู้ว่ามีจริงไหม แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรนอกจากเตียงที่ว่างเปล่า เห้อ! ผมคิดแล้วแหละ ว่าคงไม่มีอะไรหรอก เพื่อนผมยังคงหน้าซีด แต่สังเกตได้ว่ามันอาจกำลังคิดอยู่ว่ามันคิดไปเองหรือเปล่า หรือเห็นจริงๆ จนกระทั่งคืนนั้นใกล้จะผ่านไป เพื่อนผมไม่ได้พูดอะไรต่อกับเรื่องนี้ มันดูพยามทำตัวไม่ให้ฟุ้งซ่าน นั่งทำงานของมันต่อไป ผมหลับลงพร้อมกับคิดว่า ไม่ใช่เรื่องจริงอะไรหรอก พรุ่งนี้เราต้องตื่นไปเรียน เราควรนอนได้แล้ว







     จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เราตื่นเช้าไปเรียนกันตามปรกติ อาบน้ำแต่งตัว แต่ก่อนจะออกจากห้อง ผมสังเกตไปเห็นเส้นผมของผู้หญิงที่ดูแห้งๆ อยู่ตรงแถวๆที่วางรองเท้า ผมไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่เพื่อนผมก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ผมคิดว่ามันเห็นแน่นอน.... เย็นวันนั้นเราจึงไปแผ่เมตตา สวดอุทิศส่วนกุศลกันที่วัดละแวกนั้น ผมตบบ่าเพื่อนทึนึง เพื่อนผมพยักหน้าตอบ แล้วก็ปั่นจักรยานกลับหอทันที





     หลังจากนั้นเพื่อนผมก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงผมยาวอีก และผมก็หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดอีกเช่นกัน

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์