อื่นๆ

เจ้ากรรมนาย เวร

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจ้ากรรมนาย เวร

ครอบครัวของดิฉันมีอยู่ด้วยกันรวม 15 คนเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ แม่ของดิฉันมีลูก 2 คน คือ พี่สาวและดิฉันเป็นคนสุดท้องสามีของพี่สาวหรือพี่เขยของดิฉัน มีนิสัยไม่ดีเลย ขอบพูดชอบด่าเป็นกิจวัตร แถมชอบลักเล็กขโมยน้อย และติดยาเสพติดงอมแงม พี่เขยชอบด่าไปทั่ว แม้กระทั่งหมาหอนในยามดึก ดื่น พี่เขยยังตะโกนด่ากระทบไปถึงผีถึงวิญญาณเชียวล่ะ พี่เขยเชี่ยวชาญเรื่องพูดบ่นพูดด่า แกเคยปะทะฝีปากกับแม่ของดิฉันบ่อยครั้ง แต่ละครั้งแม่ก้อสาปแช่งให้พี่เขยไปตายซะไว ๆ แต่แม่ไม่ได้คิดจะให้ตายอย้าอย่างที่ปากพูด แค่เพียงโมโหชั่วครู่ประเดี๋ยวก็หาย

ความมึด

วันหนึ่งพี่เขยป่วยหนักถึงขั้นนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นแรมเดือนทีเดียว หมอระบุว่า พี่เขยเป็นหลายโรค อาทิเช่น เบาหวาน ความดัน ปอดเป็นแผล วัณโรคปอด ถึงขั้นต้องตัดปอดทิ้งกันเลย พี่เขยเป็นคนสูบบุหรี่จัดมาก จนทำให้ภูมิคุ้มในร่างกายเหลือน้อย นำพาให้โรคต่าง ๆตามมาเป็นขบวน

Advertisement

Advertisement

พี่เขยมีอาการซูบผอมมาก เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก มือเท้าบวม สภาพก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะน่าสงสารหรือจะสมน้ำหน้าดี เดินก็ไม่ได้เรียกได้ว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จะดีกว่า เป็นแบบนี้มาอยู่หลายเดือน ภาระทุกอย่างก็จะไปตกที่พี่สาวเรา จนไม่ได้ทำงานทำการ ต้องคอยไปดูแลปรนนิบัติตลอดเวลา ตั้งแต่เข้าไปรักษาตัวก็ไม่เห็นมีท่าทีว่าจะมีอาการดีขึ้นเลย สภาพที่ทุกข์ทรมานมาก ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทุกวัน กินได้น้อยลง เหมือนว่าร่างกายจะไม่ตอบสนองกับอะไรที่จะเข้าไปในร่าง กาย จนทุกคนคิดว่าไม่มีโอกาสรอดแน่นอน แม้กระทั้งคุณหมอเจ้าของไข้ที่รักษาจนสุดความสามารถแล้ว หมอยังบอกกับพวกญาติพี่น้องให้ทุกคนเตรียมทำใจไว้ เพราะคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เจ้าตัวคนไข้เองคงรับรู้และยอมรับสภาพตัวเองได้ เพราะได้เกริ่นพูดฝากผีฝากไข้กับญาติได้บ้างแล้ว ฝากให้ดูแลภรรยาและลูกด้วย กรรมกำลังทำหน้าที่และส่งผลให้แก่เขาทุกข์ทรมานนานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้

Advertisement

Advertisement

วันหนึ่งเราได้มีโอกาสเจอกับสามีของลูกพี่  ลูกน้องคนหนึ่ง พี่ผู้หญิงมีศักดิ์เป็นพี่สาวฉัน  แกเป็นลูกสาวของป้า ซึ่งป้าเป็นพี่สาวของแม่ แต่ป้าได้เสียชีวิตไปได้หลายปีแล้ว พี่สาวได้ไปทำงานต่างจังหวัด และได้กลับมาบ้าน เพราะคุณตาของเราได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา พี่สาวกลับมาพร้อมกับสามีของเขาด้วย

หลังจากงานศพเสร็จสิ้น พี่สาวกับสามีตกลงกลับมาอยู่บ้านเลย เพราะเมื่อคุณตาไม่อยู่แล้ว ทำให้บ้านร้างไร้คนอยู่ ทั้งคู่จึงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนั้น บ้านของเราอยู่ตรงข้ามกับบ้านของคุณตา  หน้าบ้านหันชนกัน บ้านเราเป็นไม้สรงเก่าแบบสมัยโบราณอายุมากว่า 100 ปี แต่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ดีอยู่

คืนแรกของการนอนของทั้งคู่ ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเลยว่า สามีของลูกสาวป้าคนนี้ จะสามารถสื่อสารกับสิ่งลี้ลับได้ แม้แต่พี่สาวเองยังไม่เคยรู้อีกด้วย อาจเพราะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องแสดงความสามารถ และด้วยโลกที่พัฒนาไปไกล ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้บนโลกนี้อีก สามีมักจะสวดมนต์ก่อนนอนเป็นประจำทุกคืน ซึ่งพี่สาวคงเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร ส่วนตัวสามีก็ไม่เคยปริปากบอกกับใคร แเป็นคนสันโดษ ถือศีล กินเจ สวดมนต์ เข้าวัด และไม่ฝักไฝ่เรื่องอกุศลเลย

Advertisement

Advertisement

คืนนั้นหมาหอนหนัก สิ่งที่หน้าแปลกคือ หมายืนหอนอยู่ตรงหน้าบ้านของเรา

สิ่งที่เรามองไม่เห็นคนแถวนั้นชินกันแล้วกับเสียงหมาหอนทุกคืน เพราะบ้านอยูู่ในเขตรั้ววัด อาทิตย์ตกค่ำฝูงมาวัดก็เริ่มหอนทันที หมาหอนยาวเป็นระยะยาวไปตลอดคืน คนแถวนั้นนอนฟังเสียงมาหอนอยู่แบบนั้นทุกคืน เหนื่อยจากการทำงานมาหลับกันไปเอง ไม่ได้นึกถึงหรือกลัวอะไรกันเลย บางครั้งนึกกลัวขึ้นมาเองเฉยๆก็มี ขนลุุกขนพองกลัวจนนอนไม่หลับกันเลย

เช้าวันรุ่งขึ้น เรื่องขนลุกก็มาเยือนถึงเรือนชาน หลังการรับประทานอาหารเช้าร่วมกันครั้งแรก สามีของพี่สาวเอ่ยปากบอกถามกับแม่ของเราว่า บ้านนี้มีคนป่วยหรือไม่ แม่ก็ตอบกลับไปว่ามี นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอยู่นาน จนเกือบลืมไปแล้วด้วย เมื่อคืนได้ยินเสียงหมาหอน มันหอนแบบนี้ทุกคืนหรือเปล่า ถ้าหมาหอนทุกคืนแสดงว่าเขามาทุกคืน สามีของพี่สาวพูดต่อไปอีกว่า เมื่อคืนเห็นเขายืนอยู่หน้าบ้าน เดินไปเดินมา อยู่แถวนี้ทั้งคืน จึงได้จุดธูปและสื่อสารกับสิ่งนั้นไป ซึ่งสิ่งนั้นคือดวงวิญญาณดวงหนึ่งที่ต้องการมาเอาชีวิตคนในบ้านหลังนี้ ชื่อว่าปัญญา นาดี ทุกคนเงียบ กริบ หันมองเป็นตาเดียวกันไปที่สามีของพี่สาว ทุกคนรู้สึกกลัวขึ้นมา และต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกปัญญาให้รับรู้ หากปัญญากลับมาบ้านจะไม่มีลมหายใจอีกเลย

สามีของพี่สาวและได้ขอไปเยี่ยมดูอาการของปัญญาที่โรงพยาบาล สามีได้พบกับปัญญารับรู้ได้ทันทีว่ามีกรรมหนักมาก จึงอาสาจะช่วยเจรจากับวิญญาณนั้น แกจึงบอกวิธีขอให้อโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร และต้องปฏิบัติตามอย่างจริงจัง มิฉะนั้นเจ้ากรรมนายเวรจะไม่ยอมปล่อยตัวไปเด็ดขาดด

คืนนั้นสามีของพี่สาวเริ่มสวดมนต์ เพื่อเรียกดวงวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรมาสอบถามและสรุปข้อตกลง คืนนั้นเสียงหมาหอนกันระงมตลอดพิธี เจ้ากรรมนายเวรนั้นมีจิตใจอาฆาตอย่างแรงกล้า ต้องการมาเอาชีวิต เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต มันเป็นกรรมที่ติดตัวมาจากชาติปรางค์ก่อนและกรรมในชาติปัจจุบันด้วย เจ้าตัวไม่เคยสร้างกรรมดี จึงได้มีโอกาสพบกันกับเจ้ากรรมนายเวร  ซึ่งต้องการชีวิตเพื่อชดใช้กรรมในสิ่งที่เคยได้กระทำแต่ครั้งหนหลัง สามีของพี่สาวร้องขอชีวิตของปัญญากับดวงวิญญาณดวงนั้น ขอให้เลิกจองเวรต่อกัน เพราะจะเป็นบาปติดไปอีก ทำให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเลย หากเลิกแล้วต่อกันไป ไม่อาฆาตพยาบาทกันอีก จะทำให้พ้นบ่วงกรรม และจะได้ไปเกิดใหม่เสียที หากว่าปัญญามีโอกาสรอดชีวิต จะให้ปัญญาบวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ โอกาสให้ปัญญาได้หายป่วย และกลับมาทำความดี เพื่อชดใช้สิ่งเลวร้ายที่เคยที่ก่อไว้ ไม่ว่าชาติใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม้ตั้งใจก็ดี ได้โปรดปล่อยวาง สามีของพี่สาวต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรขอปัญญาจนสำเร็จ โดยดวงวิญญาณต้องการให้ปัญญาบวชเป็นระยะเวลา 9 วัน และหากไม่ปฏิบัติตามคำพูดที่ให้กันไว้ จะต้องรีบมาเอาชีวิตไปชดใช้กรรมที่ได้ทำไว้ และจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ

อย่า ลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็น

สิ้นเสียงสัญญาจบ พลันมีลมพัดมาอย่างแรง ลมฟ้าลมฝนท้องฟ้ามืดครึ้ม และเสียงหมาหอน ไม่นานทุกอย่างก็สงบลง

เช้าวันรุ่งขึ้น สามีของพี่สาวรีบรุดหน้าไปที่โรพยาบาลอีกครั้ง เพื่อบอกจุดประสงค์ของเจ้ากรรมนายเวรที่คอยติดตาม ซึ่งปัญญาก็ตบปากรับคำแต่โดยดี ปัญญาจุดธูปบอกกล่าวคำมั่นสัญญากับเจ้ากรรมนายเวรทันทีที่สามีของพี่สาวพูดจบ

หลังจากวันนั้น ปัญญามีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าแปลกและอัศจรรย์ยิ่งนัก หมออนุญาตให้ปัญญากลับบ้านได้ แต่ปัญญายังต้องไปพบหมอตามนัดเพื่อตรวจดูความคืบหน้า และน่าแปลกอีกครั้ง เมื่อผลตรวจไม่พบโรคร้ายใดๆ เลย ทุกโรคแย่ๆ ที่เกิดกับปัญญามันหายไปได้ยังไง

ปัญญาได้ทำการบวชให้แก่เจ้ากรรมนายเวรตามสัญญาแล้ว ปัจจุบันปัญญายังคงบวชเรียนอยู่ต่อไป โดยยังไม่มีวี่แววว่าจะสึกเมื่ไร

  • ภาพถ่ายโดยผู้เขียนเอง
  • และ  ขอบคุณภาพจาก
  • truthseeker08 จาก Pixabay
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์