อื่นๆ
โค้งศาลพระภูมิร้าง จังหวัดเพชรบุรี สุดหลอน

โค้งศาลพระภูมิร้าง จังหวัดเพชรบุรี
บันทึกสถานที่หลอน วันนี้ขอพาไปที่จังหวัดเพชรบุรี กับเรื่องราวความน่ากลัวของโค้ง บนทางหลวงชนบท พท.4002 บ้านโปร่งเกตุ สายเขากระปุก-โปร่งเกตุ อ.ท่ายาง ซึ่งบริเวณรอบๆเป็นป่าไร่การเกษตร มีบ้านพักอาศัยอยู่เพียงไม่กี่หลัง ขณะที่โค้งริมถนนมีศาลพระภูมิ ถูกนำมาตั้งเรียงราย 2 ฝั่ง ยาวกว่า 1 กม. จนบรรยากาศกลายเป็นโค้งสุดหลอนสยองขวัญ น่าสะพรึงกลัว ของผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮา โด่งดัง จนสำนักข่าวต่างๆและ สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ให้ความสนใจนำเสนอข้อมูล เมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่แล้ว
ซึ่งถ้าดูจากประวัติ ที่มีอยู่ในสื่อออนไลน์เจ้าหนึ่ง ที่เคยสัมภาษณ์เอาไว้ ก็คือ เป็นเรื่องของนายตำรวจชั้นนายพันท่านหนึ่ง ที่เคยเป็น อดีต ผบ.ร้อย 2 กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศ ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร หัวหิน เป็นผู้นำศาลพระภูมิที่ถูกทิ้งตามริมถนนสายต่าง ๆ มาตั้งวางไว้เอง บางหลังมีสภาพดีสวยงามใช้งานได้ ประกอบกับชอบเรื่องไสยศาสตร์ ทำให้มีแนวคิดนำพระภูมิเก่ามาใช้ประโยชน์ดีกว่าถูกทิ้งเป็นขยะ จากนั้นขับรถยนต์ออกตระเวนหาเก็บศาลพระภูมิเก่าที่ถูกทิ้ง นำมาซ่อมแซมปรับปรุงทาสีใหม่ และนำมาตั้งเรียงริมถนนโค้งบ้านโปร่งเกตุ เพื่อเตือนสติผู้ที่ชอบขับรถเร็ว เริ่มทำมาตั้งแต่ ปี 2550
Advertisement
Advertisement
ส่วนเรื่องราวความหลอนของโค้งนี้ ก็เคยมีผู้บอกเล่าเอาไว้เหมือนกัน ลุงผิว ซึ่งมีบ้านอยู่แถว ๆ เขากระปุก ได้เล่าเรื่องราวความหลอนของเขาเอาไว้ว่า
มีอยู่คืนวันหนึ่ง ลุงขับมอเตอร์ไซค์ผ่านที่โค้งนี้ วันนั้นระหว่างทางอยู่ ๆ ฝนก็ตกมา ซึ่งลุงก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปปกติ พอใกล้จะถึงโค้ง อยู่ ๆ เห็นเป็นเงาคนนั่งอยู่บนศาลพระภูมิ นั่งจ้องมาที่ลุงด้วยดวงตาสีแดงโต ซึ่งตอนนั้นลุงบอกว่าตกใจสติหลุดเลยทีเดียว เกือบจะแหกโค้ง ลงข้างทาง แต่ดีที่ไม่ล้มลง พอรถจอดสนิท แกดับเครื่อง สองมือของลุงกำพระสมเด็จที่ห้อยไว้ที่คอจนแน่น แกนั่งนิ่ง และได้แต่ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่นานสองนาน พอแกได้สติ จึงไปมองอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่มีสิ่งใดเลย นอกจากความมืดและสายฝน ลุงจึงรีบขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน และหลังจากวันนั้น ถ้าไม่จำเป็น ในช่วงกลางคืนแกจะไม่ออกมาอีก
Advertisement
Advertisement
อีกคำบอกเล่าจาก พี่โด โชเฟอร์สิบล้อ วัย 40 ปีเศษ ผู้เคยประสบอุบัติเหตุบนโค้งแห่งนี้ ซึ่งชนกับรถกระบะที่สวนเลนมา จนคู่กรณีเสียชีวิต เรื่องตอนนั้นเกิดเมื่อประมาณ ปี 2558 โดยปกติแล้ว พี่โดจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ผ่านสัญจรมานานนับปีก่อนที่จะมีการนำศาลมาวางเรียงรายไว้สองข้างทางอีก แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ทำเอาแกจำมาจนวันนี้
ในค่ำคืนวันนั้น ในขณะที่ขับมาปกติ พอก่อนจะถึงโค้ง เป็นธรรมดาของรถใหญ่ที่จะต้องส่งสัญญาณให้รถที่สวนมารู้ หรือเป็นการเช็กดูว่ารถที่ขับมานั้น อยู่ในภาวะปกติดีหรือไม่ พี่โด สต๊อปไฟสูง สองครั้ง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอก ด้านหน้าที่แกเห็นคือแสงไฟของรถยนต์ซึ่งในตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นรถอะไร รถกระบะหรือรถเก๋ง แต่พอขับมาอยู่ในระยะที่ใกล้จะสวนกัน อยู่ ๆ เห็นเป็นเงาของคนกลุ่มหนึ่งประมาณสิบกว่าคน วิ่งกรูเข้ามาจากข้างทางทั้งซ้ายและขวา แล้วกระโดดมาเกาะที่รถที่กำลังจะสวนมา บ้างเกาะที่รถคันที่สวนมาแล้วก็ชูมือโยกตัว บ้างก็นอนเกาะบนหลังคา เมื่อเห็นภาพดังกล่าวก็ได้แต่ตกตะลึง ไม่ทันไร.....แค่ไม่ถึงเสี้ยววินาที อยู่ๆรถคันที่จะขับสวนมา ขับข้ามเลนมาชนรถของแกอย่างจัง เสียงดังสนั่น
Advertisement
Advertisement
วูบเดียวทุกอย่างนิ่งหมด พี่โดรีบเช็กอาการของตัวเองก่อนว่าตนเองเป็นอะไรหรือไม่ โชคดีที่แกไม่เป็นอะไรมาก แค่ฟกช้ำบ้าง ตามแรงกระแทก เมื่อดูอาการของตัวเองแล้ว แกจึงรีบเปิดประตูแล้วลงมาที่รถคู่กรณี ภาพที่แกเห็นคือรถกระบะยี่ห้อหนึ่ง ด้านขวาของคนขับยุบไปจนถึงห้องโดยสาร กระจกด้านหน้าแตกละเอียดทั้งบาน แทนที่จะมีผู้บาดเจ็บหรือใครคนใดคนหนึ่งที่แกเห็นว่ามีคนวิ่งกระโดดมาเกาะจากสองข้างทาง นอนเจ็บหรืออยู่บริเวณนั้นจำนวนมาก กลับมีเพียงแค่ชายอายุประมาณ 40-50 ปีคนเดียว นอนติดอยู่ที่ซากรถ คอพับคาเข็มขัดนิรภัย แกรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทันที
หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว แกก็พยายามที่จะช่วยเหลือชายคนนั้นออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากร่างของเขาถูกอัดก๊อปปี้คาห้องโดยสาร พี่โดจึงได้แต่ เรียกให้ชายคนนี้ให้ได้สติ ซึ่งตอนนั้นแกยังตอบรับกลับอยู่บ้าง ด้วยการพยักหน้าและหายใจรวยริน
หลังจากนั้นเกือบชั่วโมง กว่าที่รถกู้ภัยจะมาถึงก็เนื่องจากความห่างไกล และทางที่ค่อนข้างมืดมิด ก็ช้าเกินไปที่จะช่วยชายขับรถกระบะไว้ได้ แกทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
วันเวลาผ่านไป...วันนี้นอกจากความช็อคและความเสียใจ ที่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนที่มีส่วนร่วมทำให้คนอื่นเสียชีวิต แต่ที่แกยังคงตั้งคำถามเสมอก็คือ กลุ่มคนวิ่งกระโดดมาเกาะจากสองข้างทาง มาจากไหน มาได้อย่างไร เป็นสิ่งที่แกเองยังไม่ทราบจนทุกวันนี้
ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
ข้อตกลงและเงื่อนไข|Copyright © True Digital & Media Platform Company Limited. All rights reserved