อื่นๆ
ผีหัวขาด

แดนกับสนเป็นหัวขโมยประจำหมู่บ้าน ชอบขโมยเล็กขโมยน้อย จนชาวบ้านเอือมละอา หากสองคนนี้เดินเข้าไปใกล้บ้านใครชาวบ้านก็จะคอยระวังกลัวว่าจะมาขโมยของ ถึงแม้จะโดนตำรวจจับไปหลายครั้งแล้วสองคนนี้ก็ยังไม่เลิกนิสัยลักขโมยเสียที อีกทั้งยังขี้เหล้าเมายาจนเป็นที่รำคาญของชาวบ้าน
วันหนึ่งที่วัดมีงานบุญกฐินใหญ่ มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก และที่สำคัญมีการติดพุ่มกฐินกองใหญ่ ทำให้เป็นที่ล่อตาล่อใจของสองเพื่อนซี้อย่างแดนและสนเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงงานแผนกันเพื่อที่จะขโมยเงินในพุ่มกฐิน แต่ทางวัดก็ได้จัดเวรยามเป็นอย่างดีมีพระในวัดและชาวบ้านผลัดกันเฝ้าเวรยามกันตลอดเวลา ทำให้แดนกับสนไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาขโมยเงิน
เมื่อถึงเวลาดึกแดนจึงออกอุบายในสนไปจุดไฟเผาศาลาการเปรียญ เพื่อให้ชาวบ้านกับพระที่เฝ้ากองกฐินวิ่งมาช่วยกันดับไฟ แล้วให้แดนแอบมาขโมยเงินในกองกฐิน ซึ่งพวกเขาทำสำเร็จ แดนอาศัยช่วงที่ทุกคนวิ่งไปดับไฟที่ศาลาการเปรียญกันหมด ขโมยเงินกฐินไปจนเกือบหมดกอง แล้วสนก็วิ่งมาพาแดนขึ้นมอเตอร์ไซต์หนีไป
Advertisement
Advertisement
ทั้งสองขับมอเตอร์ไซต์จนถึงโค้งน้ำท้ายวัด อยู่สนก็ขับมอเตอร์ไซต์เสียหลัก เพราะมองไม่เห็นขอนไม้ที่ถูกวางขวางถนนไว้ ทั้งสองคนล้มกลิ้งจนถุงใส่เงินกระเด็นเข้าไปข้างทาง แล้วยังไม่ทันที่ทั้งสองจะลุกขึ้น ก็มีชายปริศนาใช้ขวานเล่มใหญ่สับไปที่คอของแดนและสนอย่างแรงจนคอของเขาทั้งสองกระเด็นลงน้ำไป เหลือเพียงแต่ร่างที่ไร้หัวนอนจมกองเลือด อยู่กลางถนน
สักพักเมื่อมีชาวบ้านตามมาเจอพบศพก็รู้ทันที่ว่าเป็นศพของแดนกับสน แต่ไม่รู้ว่าฝีมือใครที่ลงมือฆ่าทั้งสองคน ส่วนเงินที่แดนกับสนขโมยมา ชาวบ้านพบตกอยู่ข้างทางและจำนวนเงินอยู่ครบ วันรุ่งขึ้นชาวบ้านได้นำศพทั้งสองไปไว้ในป่าช้า ชาวบ้านต่างตั้งข้อสงสัยกันไปต่างๆ นานา ว่าใครคือผู้ที่ลงมือฆ่าแดนและสนอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้ เนื่องจากแดนกับสนเป็นหัวขโมยที่มีแต่คนโกรธเคืองในตัวของพวกเขาทั้งสอง
Advertisement
Advertisement
หลังจากวันนั้นมาชาวบ้านไม่มีใครกล้าผ่านไปทางโค้งวัดท้ายน้ำอีกเลย เพราะมักจะมีคนเห็นชายสองคน ไม่มีหัวเดินวนไปวนมา อยู่ตรงโค้งนั้นอยู่เป็นประจำ หากใครผ่านที่โค้งนั้นตอนกลางคืน ก็จะต้องโดนผีหัวขาดหลอกจนหัวโกร๋นกลับมาทุกคน ซึ่งผีสองตัวนั้นก็คือผีของแดนกับสนนั่นเอง บ้างก็ว่าผีสองคนนั้นคงเดินหาหัว บ้างก็ว่าเดินหาเงินกฐิน แต่บ้างก็ว่าผีสองตัวนั้นกำลังเดินตามหาคนที่ฆ่าพวกเขานั่นเอง
ความคิดเห็น
