อื่นๆ
เล่าสู่กันฟัง

นุเด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายจากต่างจังหวัดเพื่อมาเรียนหนังสืออยู่กับยาย บ้านยายของนุเป็นสวนมีพื้นที่หลายสิบไร่ เมื่อเขามาถึงเขาก็ตื่นเต้น กับบรรยากาศท้องไร่ท้องสวนมีต้นไม้ร่มรื่น เขาคิดว่าเขาต้องมีความสุขมากแน่ ๆ ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ วันนั้นนุปั่นจักรยานเล่นไปรอบ ๆ หมู่บ้าน เขาเห็นมีศาลาริมแม่น้ำติดอยู่กับวัด เขาจึงเข้าไปนั่งเล่น บรรยากาศที่ศาลามันทำให้เขารู้สึกสดชื่นเย็นสบาย เพราะมีลมพัดโบกอยู่ตลอดเวลา เขานั่งเล่นอยู่ที่นั่นสักพักก็มีตาแก่ ๆ เดินเข้ามานั่งในศาลา หน้าตายิ้มแย้ม ดูแล้วน่าจะเป็นคนอัธยาศัยดี
ภาพโดย Mike Cuvelier จาก Pixabay
นุเป็นเด็กนอบน้อมจึงยกมือไหว้และพูดว่า “สวัสดีครับคุณตา พอดีผมเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้ครับ คุณตาบ้านอยู่แถวนี้หรอครับ”
คุณตาก็ตอบว่า “ใช่แล้วเจ้าหนู บ้านลุงอยู่หลังกำแพงวัดใกล้ ๆ นี่แหล่ะ”
Advertisement
Advertisement
นุก็บอกไปว่า “คุณตาอยู่ที่นี่มานานแล้ว มีเรื่องเล่าอะไรสนุก ๆ เล่าให้ผมฟังบ้างไหมครับ”
คุณตาได้ยินที่นุพูดก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหนูเอ็งนี่ทะเล้นจริง ๆ ถ้าเป็นเรื่องเล่าโบร่ำโบราณก็ไม่พ้นเรื่องผีเอ็งจะฟังไหมล่ะ”
นุทำตาเป็นประกายแล้วตอบไปว่า “ฟังครับคุณตา ผมชอบฟังเรื่องผีตอนเด็ก ๆ แม่ผมเล่าให้ฟัง”
คุณตาเลยพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเอ็งตั้งใจฟังนะเจ้าหนู”
นุก็ตอบไปว่า “ครับ ตาเล่าเลยรับผมอยากฟังแล้ว”
ภาพโดย Mystic Art Design จาก Pixabay
คุณตาก็เล่าว่า “เรื่องมีอยู่ว่า แม่น้ำตรงนี้ไม่สมัยก่อนมันไม่ได้ใหญ่แบบนี้นะ มันเป็นแค่คลองเล็ก ๆ มีกุ้งหอย ปู ปลาให้ชาวบ้านได้จับกินกันอย่างเหลือเฟือ แต่มาตอนหลังมีการสร้างเขื่อนขยายคลองจนกลายเป็นแม่น้ำใหญ่ สมัยนั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ช่วงกลางคืนหากจะไปไหนมาไหนก็ต้องใช้คบไฟจุดให้แสงสว่างนำทาง ทิดจ่อยกับทิดชัยขอบออกมาหาปลากันตอนกลางคืน ซึ่งแต่ละคืนพวกเขาก็จับปลาได้เป็นจำนวนมาก แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งทิดชัยโชคร้ายโดนงูเห่ากัดตายในขณะเดินกลับมา ตรงที่ชายแม่น้ำใต้ต้นไม้ใหญ่ ตั้งแต่นั้นมาเวลามีใครมาหาปลาตอนกลางคืนก็จะมีคนเห็นทิดชัยเดินหาปลาอยู่ประจำ จนไม่ค่อยมีใครกล้าออกมาหาปลาในบริเวณนั้นตอนกลางคืนอีก”
Advertisement
Advertisement
นุได้ถามขึ้นมาว่า “แล้วผีเขาน่ากลัวไหมครับ หรือแค่มายืนเฉย ๆ”
คุณตาก็ตอบไปว่า “เขาก็ไม่เคยหลอกใครจนกลัวนะ แค่ปรากฏตัวให้เห็นเฉย ๆ อาจะเป็นเพราะว่าวิญญาณของเขายังวนเวียนอยู่ เพราะรออะไรบางอย่างถึงไปสู่สุคติไม่ได้ เขาไม่ได้ตั้งใจมาหลอกให้ใครกลัวหรอก”
นุก็ถามต่อว่า “แล้วเป็นยังไงต่อหรอครับ”
คุณตาก็เล่าต่อว่า “อยู่ ๆ มันมีคนอยากลองดีกับผีทิดชัยนะ”
นุก็ถามต่อว่า “ยังไงหรอครับ”
คุณตาก็เล่าต่อว่า “คืนนั้นเป็นแรม 15 ค่ำ ชายสองคนชื่อแหลมกับด้วง เดินไปฉี่ใส่ต้นใหม่ใหญ่ตรงที่ทิดชัยตาย แล้วพูดจาท้าทาย จนผีทิดชัยโกรธมาก จึงอาละวาดจับเจ้าแหลมกับเจ้าด้วงกดน้ำเกือบตาย โชคดีว่าผู้ใหญ่บ้านมาเห็นเหตุการณ์เข้า จึงมาช่วยไว้ทันแล้วก็พากันมาจุดธูปขมาผีทิดชัย จากนั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไปลองดีกับผีของทิดชัยอีกเลย แต่ต่อมาภายหลังมีการสร้างเขื่อน ต้นไม้ใหญ่นั้นก็ต้องถูกโค่นไป แล้วภายหลังก็มาสร้างเป็นศาลาแห่งนี้”
Advertisement
Advertisement
นุก็พูดอย่างตกใจ “ตรงนี้เลยหรอครับคุณตา แบบนี้ที่นี่ก็มีผีสิครับ”
คุณตาก็ยิ้ม ๆ แล้วพูดมาว่า “แล้วเอ็งคิดว่าที่ตาเล่ามาผีทิดชัยเขาน่ากลัวหรือป่าวล่ะเจ้าหนู”
นุก็ตอบว่า “ก็ไม่น่ากลัวนะครับถ้าเราไม่ไปรบกวนเขา”
คุณตาก็พูดว่า “เอ็งนี่ฉลาดแต่เด็กเลยนะ เอ็งฉลาดขนาดนี้เดี๋ยวเอ็งก็จะรู้ว่าตาเป็นใคร”
นุก็พูดไปอย่างใส่ซื่อว่า “คุณตาก็คือคุณตาใจดีไงครับไม่เห็นยากเลย”
คุณตาก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “นี่ก็เย็นแล้วเอ็งกลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวยายเอ็งจะเป็นห่วง”
นุก็ถามไปว่า “คุณตารู้ได้อย่างไรครับว่าผมอยู่กับคุณยาย”
คุณตาก็ตอบว่า “ก็ตาเคยเป็นเพื่อนกับยายของเอ็งเมื่อสมัยก่อน”
นุก็ถามต่อไปว่า “คุณตาชื่ออะไรหรอครับ ผมจะไปถามยาย แล้วคุณตาไม่กลับบ้านหรอครับ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วงนะ”
คุณตาก็ตอบว่า “ชื่อชัย ที่นี่แหล่ะบ้านของตา เอ็งกลับบ้านไปได้แล้วเดี๋ยวจะค่ำจนมองไม่เห็นทาง”
เมื่อคุณตาพูดจบนุก็ยกมือไหว้สวัสดีแล้วคุณตาก็หายไปต่อหน้าต่อตา ทำให้นุตกใจแล้วมาย้อนคิดว่า คุณตาชื่อชัยและบอกว่าบ้านเขาอยู่ตรงนี้ ต้องเป็นทิดชัยแน่ ๆ นุจึงรีบ่ขี่จักรยานกลับไปที่บ้านยายทันที และถามยายถึงเรื่องคนชื่อทิดชัย ซึ่งยายก็ตกใจที่นุไปรู้เรื่องทิดชัยมาได้อย่างไร ยายจึงเล่าให้ฟังซึ่งก็เหมือนกับที่ตาเล่าไม่มีผิด และนุก็แน่ใจว่าที่เขาเจอที่ศาลาก็คือผีทิดชัย ซึ่งหลังจากวันนั้นนุก็ไม่เคยไปนั่งเล่นที่ศาลานั้นอีกเลย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลัวแต่เขาก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะเป็นเพื่อนกับผีนั่นเอง
ภาพโดย Mystic Art Design จาก Pixabay
ความคิดเห็น
