อื่นๆ

อสรพิษ...เพื่อนรัก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อสรพิษ...เพื่อนรัก

อย่าเพิ่งตกใจชื่อเรื่องนะคะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนจะมาขอเสนอสัตว์เลี้ยงแปลก ๆ น่ารัก ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้กันค่ะ โดยวันนี้สัตว์เลี้ยงที่หยิบยกมานำเสนอก็คือน้องงูสุดน่ารัก ถิ่นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา งูบอล ไพธ่อน นั่นเองค่ะ จัดเป็นงูหลามที่มีขนาดเล็กมากที่สุดในโลก ลักษณะนิสัยของงูชนิดนี้จะเป็นงูที่ไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ มักจะขดตัวเป็นลูกบอลตามสัญชาตญาณการป้องกันตัวเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำให้เป็นที่มาของชื่อ ball python นั่นเอง เจ้างูชนิดนี้มักจะออกหากินในเวลาช่วงกลางคืน อาหารหลักเนี่ยก็จะเป็นสัตว์ฟันเเทะ เช่น หนูหรือกระต่าย ขดเป็นลูกบอล

งูบอล ไพธ่อน จะมีความยาวประมาณ 1.50 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม มีสีสันหลากหลายสวยงาม เลี้ยงง่าย ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ใช้พื้นที่น้อย จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่คนชอบเลี้ยงสัตว์ exotic pet หรือผู้ที่อยากเลี้ยงแต่มีพื้นที่จำกัด ผู้ที่อยู่อาศัยตามห้องพัก คอนโด เมื่อทำความรู้จักน้องเเล้ว เรามาดูวิธีการเลี้ยงงูบอล ไพธ่อน เบื้องต้นกันดีกว่าค่ะ

Advertisement

Advertisement

อยากเลี้ยงต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง!!

เรามักจะนิยมเลี้ยงกันในกล่องอะคริลิค ซึ่งจะมีให้เลือกมากมายตามความชอบ มีทั้งราคาถูกหลักร้อยจนถึงหลักพันเลย หากใครที่งบประมาณน้อยหรืออยากประหยัดในส่วนของอุปกรณ์ตรงนี้ เราสามารถนำกล่องใส่รองเท้า ที่มีระบบฝาล็อคเพื่อป้องกันงูหลุดออกจากกล่อง มาเจาะรูใช้เเทนก็ได้ค่ะ โดยกล่องที่ใช้นั้นควรจะมีความกว้างและความยาว 4 ด้านรวมกันเป็น 2-3 เท่าของความยาวงู ไม่ควรมีขนาดกว้างไปหรือเเคบไป เพราะ อาจจะทำให้งูเครียด รู้สึกไม่ปลอดภัย และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพงูได้ วัสดุรองพื้น ก็สามารถหาได้ง่ายๆใกล้ตัว เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์เก่า หรือเศษกระดาษที่สามารถซึมซับน้ำได้ดี หรือถ้าใครอยากให้กล่องเลี้ยงของเราน่าดูและสวยงามก็สามารถใช้วัสดุที่หาได้จากตามธรรมชาติ เช่น ขุยมะพร้าว เปลือกไม้เเห้ง ขี้เรื่อยรองพื้นซึ่งมีขายตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลื้อยคลาน จะมีให้เลือกหลากหลายชนิดอหลายแบบ หลายเกรด ตามความชอบของผู้เลี้ยงและความสวยงามของน้องงูเลย นอกจากจะมีวัสดุรองพื้นไว้ซับของเสียของน้องเเล้ว ควรจะมีถ้วยน้ำ โดยถ้วยน้ำจะเอาไว้ให้งูกินน้ำและสร้างความชื้นภายในกล่องเลี้ยงซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการดำรงชีวิตของงู(โดยเฉพาะช่วงเวลาลอกคราบ หากความชื้นไม่เพียงพออาจทำให้คราบฉีกขาดได้) ควรเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยทุก ๆ 2-3 วัน หรือพบสิ่งสกปรก ควรใช้น้ำดื่มในการเลี้ยงภาชนะที่ใช้ควรมีน้ำหนักเพื่อกันงูเลื้อยเเล้วทำถ้วยน้ำคว่ำ ควรมีขนาดใหญ่เพื่อให้งูสามารถแช่น้ำได้ ไม่ควรใส่น้ำเยอะเกินไปให้ใส่ประมาณ 1ใน 3 ของถ้วยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นออกมา อย่างสุดท้ายเลย คือ hide box หรือ ถ้ำ โดยหากเป็นงูที่ย้ายสถานที่เลี้ยงใหม่ควรมีไวัในกล่อง เพราะจะทำให้งูนั้นรู้สึกปลอดภัย มีที่ให้หลบซ่อนตัวเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัยและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพเเวดล้อมได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเราสามารถประยุกต์ใช้เป็นของใกล้ตัว เช่น กระถางต้นไม้เล็กๆที่แตกแล้ว หรือกล่องที่เราไม่ได้ใช้ตัดรูให้งูสามารถเลื้อยเข้าไปได้ หรือจะเลือกซื้อตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงก็ได้กล่องเลี้ยงเบื้องต้น

Advertisement

Advertisement

จากในภาพผู้เขียนเองนำเอาชามอาหารสุนัขมาใส่น้ำเเทนเพื่อเป็นการลดต้นทุนในส่วนนี้

งูกินอะไร!!!

อาหารที่เรานำมาให้นั่นก็คือ  หนู! นั่นเอง เราไม่ควรนำหนูท่อหรือหนูที่อยู่ตามบ้านเรามาให้กินนะคะ เพราะหนูเหล่านั้นจะมาพร้อมกับเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้งูของเราได้รับเชื้อโรคและก่อให้เกิดอาการป่วยหรือโรคตามมาทีหลังได้ แต่เมื่องูได้รับความนิยมมากขึ้น จึงฟาร์มที่ขายหนูเพื่อเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงนักล่าเหล่านี้โดยเฉพาะ ผู้เลี้ยงสามารถหาซื้อได้ง่าย และหนูเหล่านี้ถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นอาหารโดยเฉพาะ ทำให้สะอาด สะดวก และถูกสุขอนามัยที่ดีด้วย สำหรับหนูที่ขายกันนั้น จะมีอยู่ 2 แบบ คือ หนูที่ยังมีชีวิตกับหนูที่ตายแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงว่าจะสะดวกให้แบบไหน หากผู้เลี้ยงสะดวกให้หนูที่ตายเเล้ว ก็ต้องทำให้หนูละลายและเพิ่มอุณหภูมิของตัวหนูเสียก่อน โดยเราจะใช้วิธีการอุ่นในน้ำอุ่นก็ได้ (ไม่ควรให้หนูสัมผัสน้ำโดยตรง ซึ่งจะทำให้ตัวหนูเละได้)หรือใช้ไดร์เป่าผมเป่าก็ได้ เพราะตามธรรมชาติเเล้ว งูจะกินเหยื่อโดยการจับความร้อน หากตัวหนูมีความร้อนไม่พอจะทำให้งูไม่ฉกเหยื่อ เเละก่อนให้อาหารนั้น ควรจะใช้ที่คีบทุกครั้ง เลี่ยงการให้จากมือโดยตรง เพราะจะทำให้งูนั้นคิดว่ามือเราคือหนูและฉกมือเราได้  หากมือเราจับหนูเราควรจะล้างมือก่อนการสัมผัสงูเพราะหากมือเรามีกลิ่นหนูติดอยู่ อาจจะทำให้งูเข้าใจผิดและฉกมือเราได้เช่นกัน แล้วเราให้กินเนื้อไก่เเทนได้ไหม?? คำตอบคือได้ค่ะ แต่เน้นให้เฉพาะช่วงที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น หนูที่ให้ควรจะเป็นหนูไมค์ เพราะจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนกว่านั่นเอง

Advertisement

Advertisement

น้องหนู

การดูแลส่วนอื่นๆ

เนื่องจากงูไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป เราสามารถปล่อยงูไว้ในกล่องได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ควรเอางูออกมาตากแดดบ้าง หากเราไม่จับงูเลยจะทำให้งูเนี่ยตื่นคนเวลาจับอาจจะทำให้ขู่หรือฉกได้ ดังนั้นเราก็ควรเอางูออกมาเล่นให้ชินมือบ้าง ส่วนการอาบน้ำก็ใช้แค่นั้นธรรมดาพอให้ไม่มีกลิ่นสาบ อาหารก็ควรให้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ก็ควรพิจารณาด้วยว่าขนาดงูกับหนูสมดุลกันไหม หากหนูมีขนาดเล็กแต่งูมีขนาดใหญ่ ก็อาจจะให้ทุกๆ5-6วัน ต่อมื้อ

รูปภาพโดย   BeverBeam

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์