อื่นๆ

เรื่องเล่าพิธีกร ( มือใหม่ )

442
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่าพิธีกร ( มือใหม่ )

สวัสดีผู้อ่านที่เคารพทุก ๆ ท่านที่คลิกเข้ามาอ่าน เรื่องเล่าพิธีกรมือใหม่นะครับ เรื่องที่ผมจะเล่าให้ท่านผู้อ่านนั้น ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์เลยครับ ซึ่งนั่นก็เพราะผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเลย ด้านความสามารถอยู่ในระดับปานกลางในแทบทุก ๆ ด้านแต่ผมไม่เห็นจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของผมเลย แต่แล้ววันหนึ่งด้วยความกล้าพูดกล้าแสดงออกของผม คุณครูจึงให้ผมเป็นเด็กกิจกรรม เมื่อมีการแข่งขันอะไรต่าง ๆ คุณครูก็มักจะให้ผมไปแทบทุกงาน เท่าที่ผมจำความได้ การแข่งขันครั้งแรกที่ผมได้ถือไมโครโฟนต่อหน้าสาธารณชน คือ การแข่งขันร้องทำนองเสนาะ ซึ่งผมไม่ได้มีความรู้หรือทักษะเกี่ยวกับการร้องทำนองเสนาะเลย ยิ่งไปกว่านั้นผมยังไม่รู้เลยว่าการร้องทำนองเสนาะคืออะไร กว่าจะรู้ก็ตอนที่ครูสอนร้องนี่เอง ซึ่งตอนนั้นผมยู่เพียงแค่ระดับชั้นประธมศึกษาปีที่ 3 ( ป.3 ) อยู่เลยแต่การแข่งขั้นคือตั้งแต่ ชั้น ป.1 จนถึง ม.3 ซึ่งผลที่ออกมาคือผมได้ รองชนะเลิศอันดับ 2 ( ได้ที่ 3 ) จากจุดที่ไม่รู้จักการร้องทำนองเสนาะเลย ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไล่ตามแข่งขันกิจกรรมเกี่ยวกับงานวิชาการ แทบทุกรายการ ซึ่งเหมือเดิมครับ ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับการหัวข้อหรือเนื้อหาประเด็นในการแข่งขัน แต่ผมลงชื่อสมัครไปก่อนทุกครั้งแล้วค่อยมาฝึกเองบ้างให้ครูสอนให้บ้างในภายหลัง แต่ผมก็ติดหนึ่งใน 4 ของผู้ชนะแทบทุกรายการในทุกครั้งที่แข่งเช่นเดิม ( อาจเป็นเพราะนักเรียนในโรงเรียนที่ผมเรียน คือโรงเรียนอิสลามศึกษา ที่มีนักเรียนทั้งโรงเรียนประมาณ 600 กว่าคนเอง จึงทำให้ผมมีคู่แข่งน้อย ) ผมใช้ชีวิตแบบนี้ไปทุกวัน โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเป็นพิเศษ และ เป็นสิ่งที่ตัวเองชอบเลย จนกระทั้งผมขึ้นชั้น ม.3 (โรงเรียนอิสลามศึกษามีระดับชั้นที่สูงที่สุดคือ ม. 3 ) ผมได้เป็นสภานักเรียน แต่ไม่มีตำแหน่งของตัวเอง ผมจึงไปขอตำแหน่งงานจากครู ครูก็บอกนี่ไงตำแหน่งฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่างอยู่พอดีเลยเอาตำแหน่งนี้ไปก็แล้วกัน แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้มาพูดหน้าเสาธงด้วยนะ แล้วดำเนินกิจกรรมหน้าเสาธงด้วย ผมตื่นเต้นมากเพราะทุกๆรุ่นก่อนที่จบไปจากโรงเรียนอิสลามศึกษานี้ ที่เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ แค่มาพูดหน้าเสาธงเล็กน้อย แต่การดำเนินกิจกรรมหน้าเสาธงยังไม่เคยมีนักเรียนรุ่นไหนทำมาก่อนเลย

Advertisement

Advertisement

อ่านข่าว

วันแรกผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรสักอย่าง ผมรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกมาว่า  ขณะนี้เสียงระฆังดังขึ้นแล้วขอให้เพื่อน ๆ และน้อง ๆ มาเข้าแถวหน้าเสาธงด้วยครับ แต่เมื่อผมพูดไปได้สักพักก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะผมไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการพูดหน้าเสาธงเลย นอกจากนี้ผมไม่ได้ซ้อมพูดมาเลย ทำให้ผมหยุดชะงัก แล้วไปต่อไม่ถูก แต่วันนั้นโชคดีที่มีครูท่านหนึ่งเดินเข้ามาช่วยดำเนินกิจกรรมต่อให้จนเสร็จ ตั้งแต่วันนั้นมาผมก็กลับบ้านไปซ้อมพูดทุกวันแล้วมาพูดหน้าเสาธง แต่ผมก็ยังมีการผิดพลาดเรื่อยๆ เพราะต้องดำเนินกิจกรรมทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่ การเรียกนักเรียนมาเข้าแถว จัดแถว ขอพรยามเช้า อ่านบทความให้ฟัง นำอ่านพระคัมภีร์ อัลกุรอาน อ่านข่าวยามเช้า และนำร้องเพลงชาติ แล้วส่งนักเรียนเข้าห้องเรียนในคาบแรก เนื่องจากขั้นตอนมันเยอะ ผมจึงผิดพลาดบ่อย ๆ จนผมเริ่มคล่องขึ้นเรื่อย ๆ และผมก็เริ่มชอบการพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนผมได้กลายเป็นพิธีกรนักเรียนประจำโรงเรียนเลย แต่ก็ไม่ค่อยได้ออกงานมากเพราะโรงเรียนที่ผมเรียนเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ

Advertisement

Advertisement

สอนรุ่นน้องพูดหน้าเสาธง

ดังนั้นเมื่อผมจบ ม.3 ผมก็สมัครเข้าโรงเรียนสรรพวิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอที่ผมอาศัยอยู่ ผมก็ขอครูพูหน้าเสาธง และเมื่อมาถึงวันแรกของการพูดหน้าเสาธง ผมรู้สึกตกใจมากเพราะทุกสายตาของคนทั้งโรงเรียนจับจ้องมาที่ผม ซึ่งเป็นสายตาเกือบ ๆ 4000 คู่ ผมลืมบทพูดทั้งหมดเลย จึงตัดสินใจหยิบ กระดาษที่ผมจดไว้ขึ้นมาอ่านเลย ผมรู้สึกอับอายมาก ทั้ง ๆ ที่ผมฝึกพูดเกี่ยวกับเรื่องที่จะพูดมาแล้ว แต่ก็ยังจะมาตัวแข็งหน้าผู้คน ทั้ง ๆ ที่ผมมีประสบการณ์พูดหน้าเสาธงมาตั้ง 1ปี แล้วแต่ก็ยังมาพลาดจนได้ ผมจึงตัดสินใจไปฝึกพูดที่บ้านเพิ่มขึ้นอีก เรื่อย ๆ และวันต่อมาผมก็มาขอครูพูดหน้าเสาธง แต่วันนี้ผมทำผลงานออกมาได้ดี ทุก ๆ ต่างชมว่าเป็น คนละคน กับเมื่อวานเลยนะ ผมรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น จึงขอพูดหน้าเสาธงทุก ๆ 2 – 3 วันครั้ง ผมทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

Advertisement

Advertisement

พูดหน้าเสาธงโรงเรียนสรรพวิทยาคม

จนมีครูท่านหนึ่งให้ผมไปเป็นวิทยากร พูดเกี่ยวกับประวัติของโรงเรียน และส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยการออม ผมรีบรับปากและฝึกซ้อม แล้วมาพูด หลังจากวันนั้นก็มีครูหลาย ๆ ท่านให้มาช่วยพูดต่าง ๆ นานา ผมรับปากทุกงานและทำได้ดีทุกงาน จนกระทั่งวันหนึ่งผมก็ได้เป็นพิธีกรงานใหญ่มาก ที่มีทั้ง ผู้อำนวยการจากโรงเรียนต่าง ๆ และมีผู้ใหญ่อีกมากมาย ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่ครั้งนี้ผมจะไม่พลาดเหมือนทุกๆครั้งแล้ว ผมตั้งใจพูดตลอดงานจนจบ หลังจากวันนั้นมาครูก็ให้ผมเป็นพิธีกรหลักในการจัดกิจกรรมในทุก ๆ ครั้งเลย ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจเป็นอย่างมากที่ผมได้มีโอกาสก้าวมาถึงวันนี้ ผมขอขอบพระคุณคุณครูทุก ๆ ท่านที่คอยสอนและแนะนำ ให้โอกาสผมมาตลอด ผมสัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ ครับ

ตัวอย่างรูป เป็นวิทยากร
พิธีกรมือใหม่เต็มตัว

“ติดต่อผมได้ที่ Facebook : Arafat janthon

รับจ็อบเป็นพิธีกรงานต่างๆ ไม่ซีเรียสเรื่องเงินครับ”

รูปปกและรูปภาพในบทความจาก เจ้าของบทความ Alone Fat

ผู้แต่ง เจ้าของบทความ Alone Fat

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์