อื่นๆ
ผีตายโหงบ้านเช่าสยองขวัญ

เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริงกับตัวข้าพเจ้าและคนในครอบครัว ปัจจุบันข้าพเจ้า อายุ 42 ปี เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 35 ปี บ้านหลังนี้มีลักษณะเป็นบ้านไม้เก่าๆ ใต้ถุงสูง เมื่อเราเดินขึ้นบันไดบ้านมาจะเจอห้องครัวก่อนเลยส่วนด้านหลังห้องครัวจะเป็นห้องสุขา และจะมีพื้นยกระดับขึ้นมาหน่อยจะเป็นเหมือนห้องใหญ่เลยไม่มีผนังกั้นอะไรอีก ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นที่นอน ดูทีวี และที่ทานข้าว ซึ่งผนังห้องบางช่วงไม้จะผุมองทะลุไปห้องครัวได้ แล้วหน้าประตูห้องนอนจะมีผ้ายันต์เก่าๆติดเหนือประตูอยู่ ซึ่งมันมองดูไม่รู้เร่ื่องแล้วว่า ผ้ายันต์อะไร ตัวเลขอักขระมันจางไปหมด เหมือนผ่านกาลเวลามานาน
ข้าพเจ้าเกิดมาในครอบครัวที่จัดว่าอยู่ในฐานะยากจน มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน คุณพ่อมีอาชีพช่างตัดผมส่วนคุณแม่มีอาชีพค้าขาย ซึ่งในวัยเด็กเราต้องเช่าบ้านอยู่กันมาตลอด และบ้านหลังที่เกิดเหตุสยองขวัญนี้ อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชุนชนตลาดบ่อบัวซึ่งเป็นที่ของทางรถไฟ ข้าพเจ้าได้สอบถามคุณแม่ว่าสาเหตุที่ได้เข้ามาเช่าบ้านหลังนี้เพราะอะไร คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าสมัยที่อยู่กินกับคุณพ่อใหม่ๆ ได้อาศัยบ้านของคุณป้า คือพี่สาวคุณพ่ออยู่เพราะคุณป้าเขามีห้องแถวให้คนเช่า แต่มีเหตุที่ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกัน
Advertisement
Advertisement
คุณแม่มีอารมณ์งอนจึงได้ไปหาห้องเช่าอยู่เอง โดยที่คุณพ่อไม่ทราบประมาณว่าหนีไปเช่าอยู่ ซึ่งสมัยนั้นข้าพเจ้ายังไม่เกิดเลย ซึ่งคุณแม่ได้เดินหาบ้านเช่าโดยถามคนแถวๆนั้นว่า มีห้องเช่าที่ไหนบ้างจึงมีคนแนะนำให้มาดูบ้านเช่าหลังนี้ ซึ่งเมื่อคุณแม่ได้ไปติดต่อถามเจ้าของบ้านนั้นแล้ว คุณแม่ท่านพอใจกับราคาค่าเช่ารายเดือนที่แสนจะถูกมากๆ (แต่ข้าพเจ้าจำราคาค่าเช่าไม่ได้แล้วว่าสมัยนั้นราคาเท่าไร)จึงตัดสินใจทันที หลังจากขนของมาอยู่แล้ว และในวันนั้นคนที่มีบ้านเรือนแถวๆนั้นได้คุยกับคุณแม่ว่ากล้ามาอยุูได้ยังงัย ไม่ทราบรึว่าบ้านหลังนี้มีผู้หญิงคนหนึงมาเช่า แล้วอยู่มาวันหนึ่งได้ผูกคอตายสาเหตุมาจากผิดหวังเรื่องความรัก
หลังจากที่นางเสียชีวิตไปแล้วใครมาเช่าอยู่บ้านหลังนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน เคยมีหมอดูลายมือมาเช่าอยู่ คืนแรกถูกลากลงจากบ้านจนไม่มีใครกล้าเช่าบ้านหลังนี้ หลังจากที่คุณแม่ได้ยินเรื่องราวแล้วก็รู้สึกขวัญเสียนิดหน่อย แต่ในใจก็ไม่คิดอยากจะย้ายออกเพราะราคาค่าเช่าห้องรายเดือนถูกมาก อีกอย่างการเดินทางเข้าออกมันก็สะดวกดีไม่ไกลจากตลาดหรือในตัวเมืองมากนัก อีกอย่างทางคุณแม่ท่านชอบอยู่บรรยากาศที่มันดูชนบทๆหน่อย
Advertisement
Advertisement
โดยเหตุการณ์ในคืนแรกนั้นมันน่ากลัวมากๆคุณแม่เล่าให้ฟังว่า เวลาเย็นเกือนโพ้เพ้ท่านได้นำเอาพระเครื่องต่างๆมาไว้ใต้หมอนหนุน เพราะรู้สึกหวาดกลัวเนื่องจากต้องนอนคนเดียวในบ้านหลังนี้ แถมบรรยากาศรอบข้างเริ่มตกอยู่ในความเงียบและวังเวง พอถึงเวลากลางคืนท่านก็ได้เขานอนตามปกติ แต่ยังไม่ทันหลับท่านได้ยินเสียงคนคุยกันข้างมุ้งแต่เมื่อท่านตั้งใจฟัง ก็ไม่สามารถจับใจความได้ว่าการสนทนานั้นคุยอะไรกัน และได้ยินเสียงคนลากข้าวของ , รื้อของซึ่งในคืนนั้นท่านกลัวมาก ได้แต่สวดมนต์ในใจจนคืนนั้นผ่านไปด้วยดี
ซึ่งในวันรุ่งขึ้นท่านได้ให้คนไม่ตามคุณพ่อให้มาอยู่ด้วยกันหลังจากที่คุณพ่อได้ย้ายเข้ามาอยู่กับคุณแม่ในบ้านเช่าหลังนี้แล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆคุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่าคืนนั้นท่านนอนหลับไปแล้ว แต่ในช่วงที่คุณพ่อเข้ามุ้งมาเพื่อจะหลับนอนพักผ่อน คุณแม่บอกว่าที่เห็นไม่ใช่ใบหน้าของคุณพ่อท่านตกใจเลยร้องกรี๊ด จนทำคุณพ่อรู้สึกตกใจจึงร้องบอกว่าแม่เป็นอะไร
Advertisement
Advertisement
ท่านเลยเล่าสิ่งที่เห็นเมื่อกี้ให้คุณพ่อได้ฟังแต่คุณพ่อท่านเป็นคนไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่แต่เดิมแล้วและไม่เคยกลัว ท่านเลยไม่ได้สนใจอะไรมากนักทั้งสองคนก็เลยนอนหลับไปตามปกติ จนเรื่องราวผ่านมาถึงสมัยตัวข้าพเจ้าเอง ที่ได้พบเจอเหตุการณ์ประหลาดๆ น่ากลัวซึ่งเกิดขึ้นหลายอย่างมากจะเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดเท่าที่จะจำได้เพื่อถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้ฟังหลังจากที่ข้าพเจ้าจำความได้แล้ว
ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ได้เลิกลากันไปแล้ว ตัวข้าพเจ้าและพี่น้องทั้งหมดได้อยู่ในความดูแลของคุณพ่อโดยกว่าที่คุณพ่อจะเลิกทำงาน แล้วเดินทางกลับมาบ้านก็ประมาณเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว ทำให้ตัวข้าพเจ้าและพี่น้องต้องอยู่กันตามลำพังในบ้านหลังนี้ โดยไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเลยแค่โชคดีหน่อยที่มีพี่สาวคนโต กับพี่ชายคนที่ 2 ซึ่งวัยขณะนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นป.4,5 แล้ว จึงสามารถดูแลน้องๆได้ครั้งแรกนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้โหยหวนกลางดึก
เนื่องจากช่วงนั้นคุณพ่อท่านจะเมาสุราแทบทุกวันก็ตั้งแต่เลิกกับคุณแม่ทำให้กลับบ้านไม่เป็นเวลา บ้างทีก็สว่างซึ่งตัวข้าพเจ้านั้นค่อนข้างจะเป็นลูกติดคุณพ่อ จึงต้องรอให้ท่านกลับมาบ้านก่อน จึงจะเข้านอนและในวันเกิดเหตุนั้นเอง ข้าพเจ้าจำได้ดีว่าตัวเองนั้นได้นอนเล่นอยู่ในมุ้งพร้อมๆกับพี่น้องคนอื่นๆแต่ยังไม่ทันหลับเพราะจะรอให้ทางคุณพ่อกลับมาก่อน โดยได้เปิดไฟห้องทิ้งไว้
แต่ด้วยความเป็นเด็กจึงได้เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที ก็มองไปนอกมุ้งเห็นคุณพ่อเมานอนหลับอยู่ พร้อมกับได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังมากอารมณ์ประมาณว่าเสียใจมาก ข้าพเจ้าเมื่อได้พบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เลยทำให้นอนตัวเกร็งเลยด้วยความที่ตกใจ และงง แล้วจึงเผลอนอนหลับไป แต่ก็ยังจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ดีจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยลืม
เหตุการณ์ต่อมาข้าพเจ้าได้เคยเห็นวิญญาณวิ่งผ่านหน้าไปทางในห้องครัว โดยตอนที่ข้าพเจ้าเห้็นนั้นเป็นเวลาเย็นแล้วเกือนมืดค่ำ ได้เห็นผ่านผนังห้องที่ผุ โดยวิ่งผ่านสายตาไปเร็วมาก แต่ยังสามารถมองเห็นว่าเป็นรูปร่างคน ข้าพเจ้าจำได้ว่าวันนั้นคุณพ่อท่านรู้สึกเจ็บคอ ต้องการให้ข้าพเจ้าไปซื้อมะนาวมาให้หน่อย
และอีกเหตุการณ์ต่อมาซึ่งเหตุการณ์นี้เจอกับพี่สาวและตัวข้าพเจ้า ซึ่งพี่สาวได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำซึ่งในนั้นจะมีโอ่งลายมังกรตั้งอยู่ 1 ใบ ซึ่งช่วงเวลาที่พี่สาวก้มลงไปในโอ่งเพื่อหยิบขันนั้นมีมือปริศนามาจับแขนพี่สาว พี่สาวจึงร้องกรี๊ดจนคนในบ้านตกใจ แล้วพี่สาวก้วิ่งมาด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเลย รู้สึกว่าพี่สาวกลัวมากคืนนั้นจึงเป็นอีกเหตุการณ์หนึงที่ไม่่มีวันลืม
และอีกเหตุการณ์หนึงที่เกิดขึ้นกับัวข้าพเจ้่านั้น ก็คล้ายๆกับพี่สาวเช่นกัน โดยปกติแล้วบ้านหลังนี้จะสามารถเปิดหน้าต่างจากชั้นบน และทะลุไปห้องครัวได้ เพราะห้องมันเชื่อมต่อกัน ซึ่งก็เปิดแบบนี้เป็นปกติทุกวันอยู่แล้ว จะปิดหน้าต่างหน้าบานนี้ก็ในช่วงเวลาตอนกลางคืน และในวันนั้นข้าพเจ้าก็เจอเหตุการณ์น่ากลัวมากเช่นกัน
ระหว่างที่เอื้อมมือไปปิดหน้าต่าง ข้าพเจ้าได้ไปจับมือปริศนาของใครเข้าอย่างจังๆ และจับแบบเต็มไม้เต็มด้วยนะซิ แล้วมือปริศนานั้นก็รีบชักมือถอยออกจากมือของข้าพเจ้าทันที ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร แต่ในใจรับรู้ได้ทันทีว่าเจอดีเข้าแล้ว และหลังจากนั้นมาก็เจอแต่เหตุการณ์สยองขวัญมาตลอด เวลาปิดไฟนอนปู้บจะได้ยินเสียงคนหักนิ้วบ้าง หรือ ได้ยินเสียงใครสักคนกำลังใช้มือแหว่กหาของในถุงพลาสติก และเป็นแบบนี้แทบจะทุกวัน
และมีอยู่วันหนึ่งตัวข้าพเจ้าและพี่น้องทั้งหมดได้เจอเหตุการณ์พร้อมกันเลยคือว่า ทุกคนกำลังนอนเล่นกันอยู่ในมุ้ง สักพักได้ยินเสียงหวีดๆร้องเข้ามาในมุ้ง และเสียงปริศนานั้นมันเริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ จนทุกคนตกใจกลัวแต่พี่สาวของข้าพเจ้ายังมีสติมาก เขาบอกให้พวกน้องช่วยกันแผ่เมตตา สักพักเสียงนั้นก็หายไปเอง
บนบ้านหลังนี้เหมือนมีใครคอยจ้องมองที่ช่องลมด้านบนอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองถึงแม้จะใจกล้ามากที่อยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะรีบวิ่งออกมาจากบ้านเลย ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น เป็นช่วงปิดเทอม พวกพี่ๆและน้องๆได้เดินทางไปเที่ยวบ้านปู่ย่าที่ จ.ปราจีนบุรี ส่วนตัวข้าพเจ้าไม่ได้ไป จะอยู่กับคุณพ่อ และอีกอย่างบ้านปู่ย่าหาขนมทานยากมากๆ แต่ช่วงปิดเทอมนั้นข้าพเจ้าได้ไปช่วยป้าขายข้าวแกงที่ตลาดบ่อบัว กว่าจะกลับมาบ้านก็ประมาณ 1 ทุ่มกว่าเป็นแบบนี้แทบทุกวัน
และในวันแรกที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้ ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับตัวข้าพเจ้าซึ่งยังจดจำบรรยากาศนั้นได้เป็นอย่างดี มันวังเวงมากและบรรยากาศรอบข้างมันช่างไม่ดีเลย แล้วเหมือนมีใครจ้องมองเราอยู่ ไม่ว่าจะทำไรจนไม่กล้ามองตัวเองในกระจก สักพักข้าพเจ้าก็ตั้งสติที่จะไม่กลัว จึงยินสวดมนต์หน้าหิ้งพระ แต่กลับได้ยินเสียงใครตวาดเข้ามา ซึ่งดังมากจนตัวเองตกใจ และรีบวิ่งลงจากบ้าน เพื่อไปหาคุณพ่อที่ร้านตัดผม เพื่อรอกลับเข้าบ้านพร้อมท่าน
หลังจากนั้นช่วงปิดเทอมข้าพเจ้าไม่เคยขออยู่บ้านคนเดียวอีกเลยเข็ดจนตาย จะต้องตามพวกพี่น้องไปอยู่ที่บ้านปู่ย่าตลอดทุกครั้ง และอีกเหตุการณ์ที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง โดยคุณพ่อท่านจะมีรถจักรยานอยู่คันหนึ่ง ซึ่งเป็นคันที่ 2 ที่ซื้อมาใหม่ เพราะคันแรกนั้นท่านเคยจอดไว้ใต้ถุนบ้านแล้วขโมยมาลักไป ท่านจึงแก้ปัญหาโดยได้ยกขึ้นมาจอดไว้บนบ้านแทน ซึ่งเวลาที่ท่านกลับบ้านมานั้น ท่านจะเอี้อมมือมาถอดกลอนประตูด้านในเอง และยกรถจักรยานขึ้นมาจอด เสียงประตูเสียงยกรถ ตัวเราจะได้ยินจนคุ้นหู ซึ่งวันที่เกิดเหตุนั้นตัวข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงนั้น จึงคิดว่าคุณพ่อท่านกลับมาบ้านแล้ว จึงได้เปิดประตูออกไปดู แต่กลับว่าเจอความว่างปล่าว จึงรู้ได้ทันทีว่าเจอผีหลอกเข้าให้แล้ว ซึ่งทำเสียงเลียนแบบได้เหมือนมากๆ
และเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ เช่น เสียงหม้อหล่นในเวลากลางดึก แต่ตื่นเช้ามาไม่มีหม้อหล่นสักใบ และ สียงเปิดกระติกน้ำแข็ง ซึ่งข้าพเจ้าได้ยินกับหูตัวเองว่ามีใครเปิดกระติกน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหน้าประตู หรือเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้า รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึกพบว่าตัวเองนอนอยู่กลางบ้าน ซึ่งไม่ได้นอนอยู่ในมุ้งเหมือนทุกวันเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกตัวจึงรีบคลานเข้ามุ้งทันที
สำหรับทางตัวคุณพ่อเองนั้นท่านเคยเจอเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง ท่านเล่าว่าวันนั้นเป็นวันพระ ท่านตื่นขึ้นมากลางดึกมองไปนอกมุ้งท่านเห็นผีมาเต็มบ้าน แล้วผีบ้างตัวก็เดินมาข้างๆมุ้งตรงที่ตัวข้าพเจ้านอนอยู่ แล้วทำทางจะกัดผม ทางคุณพ่อเห็นแบบนั้นเลยใช้เท้าถีบ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึงว่า ถ้าวันไหนฝนตก บ้านหลังนี้จะไม่มีเหตุการณ์ประหลาดอะไรเกิดขึ้นเลย ซึ่งผมยังงงมาก ว่ามันเพราะอะไร
แต่หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครอบครัวข้าพเจ้าจึงได้ย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้น ซึ่งตัวข้าพเจ้าดีใจมากๆที่ได้ไปจากบ้านหลังนี้ซะที เพราะหลายปีมานี้ต้องทนอยู่กับเหตุการณ์แปลกๆทุกคืน แต่ในที่สุดข้าพเจ้าคิดว่าดวงวิญญาณเหล่านั้น อาจไม่มีเจตนาจะมาหลอกให้คนในบ้านกลัว เขาคงต้องการมาขอส่วนบุญกุศล แต่ด้วยความเป้นเด็กจึงรู้สึกกลัวกันไปเอง
ข้าพเจ้าคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงผูกคอตายในห้องครัว เพราะหลายเหตุการณ์นั้นจะเกิด ณ บริเวณนั้นบ่อยๆ ขอให้บุญกุศลที่เกิดจากการถ่ายทอดเรื่องราวนี้ จงถึงวิญญาณที่ล่วงลับตนนั้นด้วยเทอญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้นมันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเมื่อคนเราตายจากโลกนี้ไปแล้วมันตายไปแค่กายสังขาร แต่ยังมีดวงวิญญาณที่ยังต้องไปชดใช้กรรมตามแรงบุญแรงบาปที่ตัวเองได้ก่อขึ้นไว้ในขณะที่ยังมีชิวิตอยู่ ฉะนั้นเราทุกคนอย่าประมาณในชีวิต อย่าคิดว่าสิ่งที่เรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็นจะไม่มีอยู่จริง ถ้าคิดแบบนั้นเราจะตกอยู่ในความประมาณ มาเสียใจทีหลังมันก็สายเกินไปแล้วครับ..(ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบจากจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87_(%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C))
ความคิดเห็น
