ไลฟ์แฮ็ก

เคล็ดลับ การวิ่ง 5 กิโลเมตร ง่ายนิดเดียวใครก็ทำได้

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เคล็ดลับ การวิ่ง 5 กิโลเมตร ง่ายนิดเดียวใครก็ทำได้

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ “ สายฟ้า พาวิ่ง ” ผู้เขียนมาแนะนำเทคนิคเคล็ดลับการวิ่ง 5 กิโลเมตร ในยุคนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสการดูแลรักษาสุขภาพมาแรงมาก ทุกคนหันกลับมาดูแลสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น ผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่หันกับมาดูแลสุขภาพเช่นกัน ตอนนี้กีฬาชนิดที่มาแรงมากคงนี้ไม่พ้นกีฬา วิ่ง. มาราธอน ซึ่งการวิ่งช่วยให้สุขภาพดีด้วยแล้วยังช่วยให้ผอมลงด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก ลดไม่ต้องพึ่งยาหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ยิ่งตอนนี้มีการแข่งขันจัดการวิ่งการกุศลมากมาย ระยะทาง 5 กิโลเมตร บ้าง 10 กิโลเมตรบ้างแล้วแต่ผู้จัด วันนี้ผู้เขียนมาแนะนำมือใหม่หัดวิ่ง หรือคนที่กำลังจะเริ่มวิ่ง ว่าทำยังไงถึงจะวิ่ง ให้ได้  5  กิโลเมตร

งภาพถ่ายโดยผู้เขียน

สิ่งแรกที่นักวิ่งหน้าใหม่เลยต้องมี คือ รองเท้าวิ่งดี ๆ สักหนึ่งคู่ ทำไมต้องรองเท้าวิ่งด้วยรองเท้าผ้าใบได้หรือเปล่าครับ ตอบเลยว่าไม่ได้ครับ เพราะรองเท้าจะช่วยลดอาการกระแทกข้อและหัวเข่าของเราไม่ให้บาดเจ็บได้

Advertisement

Advertisement

ง

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

ต่อมาคือ อุปกรณ์จับระยะทางการวิ่งอาจจะเป็นโทรศัพท์หรือนาฬิกาจับระยะทางการวิ่ง ท่าเป็นโทรศัพท์มือถือเพื่อน ๆ ก็โหลด Application วิ่งมาได้เลยครับ ส่วนนาฬิกาจับระยะทางการวิ่ง ราคาไม่กี่บาท เลือกชื้อตามใจชอบเลยขอแค่จับระยะทางการวิ่งได้ เพื่อให้เราได้รู้ระยะทางการวิ่งของเราวิ่งไปกี่กิโลเมตรแล้ว ส่วนเสื้อผ้า ตามใจชอบเลยครับ แต่หลัก ๆ แล้ว เน้นใส่แล้วคล่องตัว สบาย ๆ ไม่รัดจนเกินไป เพราะเวลาเพื่อน ๆ วิ่ง จะมีเหงื่อเป็นจำนวนมากอาจทำให้ไม่สบายตัว

ง

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

เรามาเริ่มเคล็ดลับการวิ่ง 5 กิโลเมตรกันเลย

1 . อบอุ่นร่างกายก่อนวิ่ง ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยเรื่องการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเช่นกัน สัก 5 - 10 นาที ก่อนการวิ่งทุกครั้ง

2 . แรก ๆ เพื่อน ๆ ( สำหรับคนไม่เคยวิ่ง ) วิ่งแล้วรุ้สีกเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว ผู้เขียนแนะนำให้หยุดวิ่งก่อน อาศัยการเดินก่อน ยิ่งท่าเพื่อน ๆ คนไหนน้ำหนักตัวเยอะ ๆ ควรเดินก่อน  ฝึกให้ร่างกายกล้ามเนื้อเราชินกับระยะทาง 5 กิโลเมตรก่อนมันอาจจะกินเวลาเยอะเป็นชั่วโมง ไม่เป็นไร ที่สำคัญเพื่อน ๆ อย่าพึ่งท้อน่ะครับระยะเวลาในการฝึกอย่างน้อยสัก 3 วันครับ

Advertisement

Advertisement

3 . เมื่อเพื่อน ๆ เดินมาได้สักพักแล้ว รองเพิ่มการวิ่งเข้าไปทีล่ะน้อย ๆ เช่น เดิน 4 นาที วิ่ง 1 นาที หรือ เดิน 3 นาที วิ่ง 2 นาที สลับกับไปเรื่อย ๆ ให้ระบบหายใจของเพื่อน ๆ ค่อย ๆ ปรับ ฝึกจนให้ระบบในร่างกายเราจดจำแรงต้านที่เกิดขึ้น  ที่สำคัญอย่าลืมจิบน้ำบ้าง แต่อย่ามากจนเกินไป ระยะทาง 1-2 กิโลเมตรก็เริ่มจิบ แต่จิบพอดีครับ  จิบน้ำมากไปอาจทำให้จุกท้องได้ครับ ระวังกันด้วยครับ ระยะเวลาการฝึกอย่างน้อย 3 วันเช่นกันครับ

4 . เมื่อเพื่อน ๆ ฝึกจนกล้ามเนื้อและระบบหายใจ คุ้นชินกับระยะทาง 5 กิโลเมตรแล้ว เราเริ่มวิ่งกันเลย ปกติแล้ว ระยะทาง 5 กิโลเมตรจะวิ่งกัน 30 - 35 นาที เพื่อน ๆ ก็พยายามฝึกวิ่งให้สม่ำเสมอ วิ่งบ่อย ๆ แต่ไม่ใช่วิ่งทุกวันน่ะครับ ควรให้ร่างกายกล้ามเนื้อเราได้พักผ่อนบ้างครับ เรากลับมาที่เวลาถ้าเพื่อน ๆ คนไหนวิ่งแล้ว เวลาไม่ถึง 30 นาที แสดงว่าเพื่อน ๆ บรรลุเป้าหมายแล้วถือว่าวิ่งดีในระดับนึงแล้ว

Advertisement

Advertisement

5 . เมื่อเพื่อน ๆ วิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตรได้แล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ไหวอย่าฝืน เพราะท่าเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาล่ะก็ ไม่คุ้มกันครับ เพื่อนของผู้เขียนบ้างคนถึงกับต้องพักเป็นปี ๆ เลยเพราะอาการบาดเจ็บยังไงก็ฝากเตือนเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยากจะวิ่งด้วยกันครับ

L

ภาพถ่ายโดยผู้เขียน

สุดท้ายแล้วก็อยากให้เพื่อน ๆ ลองไปฝึกกันดูน่ะครับ กับเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้เขียนนำมาฝากกัน ฟังดูแล้วไม่ยากกันเลยใช่มั้ยครับเพื่อน ๆ ถ้าฝึกฝนจนชำนาญแล้วก็อย่าลืมแนะนำเพื่อน ๆ คนอื่นด้วยครับ มาวิ่งกันเยอะ ๆ เพื่อสุขภาพที่ดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำไห้ร่างกายแข็งแรง วันนี้ผู้เขียนเองต้องขอตัวไปวิ่งก่อนครับไว้เจอกันบทความหน้า

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์