อื่นๆ
ประสบการณ์เลี้ยงกบฮอร์นฟรอก
ประสบการณ์การเลี้ยงกบฮอร์นฟรอก
บทความรีวิวการเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกเกิดขึ้นจากการอยากแบ่งปันข้อมูลในการเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยบทความนี้จะให้คำอธิบายที่เข้าใจง่ายเพราะถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ผู้เลี้ยงจริง เพื่อที่จะทำให้ผู้ที่สนใจง่ายต่อการนำไปศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตาม และเราหวังว่าผู้ที่สนใจการเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกจะนำข้อมูลในบทความนี้ไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงของท่าน
การตัดสินใจที่จะเลี้ยง
ขั้นตอนแรกที่เราควรจะทำก่อนที่เราจะเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกนั้นก็คือ การพิจารณาไตร่ตรองให้ดี การพิจารณาควรพิจารณาดังนี้
1. การหาข้อมูลในทุกๆด้านเพื่อการตัดสินใจ
การจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด เราควรหาข้อมูลในทุกๆด้านของสัตว์ชนิดนั้น เช่น สัตว์ชนิดนั้นกินอะไรเป็นอาหาร อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ควรดูแลเอาใจใส่อย่างไร ชีวิตประจำวันของเขาคืออะไร ลักษณะนิสัยส่วนใหญ่เขาจะเป็นอย่างไร โรคที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของเรา ค่าอาหารที่กินในแต่ละครั้ง ค่ารักษาพยาบาลเมื่อสัตว์เลี้ยงเราเจ็บป่วย ค่าอุปกรณ์ในการเลี้ยง ปัญหาต่างที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างเลี้ยง และเราควรมีวิธีการป้องกันปัญหาเหล่านั้นอย่างไร
Advertisement
Advertisement
เพราะฉะนั้นเราจึงควรมีความพร้อมและมีทุนทรัพย์ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นๆ เราควรคิดพิจารณาให้รอบคอบทุกๆด้าน เพราะสัตว์ก็มีชีวิตเหมือนกับเรา เราควรเลี้ยงและดูแลเค้าให้ดีที่สุด และเราควรมีความพร้อมในการเลี้ยงสัตว์ชนิดนั้นให้ได้มากที่สุด
2.คุณรักสัตว์และสนใจสัตว์ชนิดนี้มากน้อยแค่ไหน?
กบฮอร์นฟรอกเป็นสัตว์แปลกชนิดหนึ่งที่คนสนใจเลี้ยง ดังนั้นเราไม่ควรเลี้ยงตามกระแสนิยมหรือเห็นว่ามันน่าสนุกและสีสวยก็เลยอยากเลี้ยง ควรคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และกบเป็นสัตว์ที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบ เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างเช่นกบน่าเกลียดน่ากลัว น่าขยะแขยง เราจึงควรพิจารณาให้ดีว่าเรารักสัตว์ชนิดนี้จริงไหม? ต่อไปในอนาคตเราจะเลี้ยงเค้าได้หรือไม่? เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้หรือเปล่า?
3.ผู้เลี้ยงควรจะมีความคิดดังนี้
Advertisement
Advertisement
กบก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนๆกับมนุษย์ สัตว์ทุกตัวรักชีวิตของเขา เรายังรักชีวิตของเรา หากตัดสินใจที่จะเลี้ยงจริงๆแล้วก็ควรเลี้ยงดูเขาด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ความเข้าใจ ควรเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด เราควรมั่นใจก่อนว่าตัวเราเองจะสามารถรับผิดชอบชีวิตชีวิตหนึ่งได้ ควรมั่นใจว่าจะไม่ปล่อยปะละเลยสัตว์เลี้ยงของเรา เขาได้ฝากชีวิตไว้กับเราแล้วหากนำเขามาเลี้ยงก็ควรรับผิดชอบชีวิตเขาให้ได้
การเตรียมพร้อมในการเลี้ยง
เราควรศึกษาข้อมูลของกบฮอร์นฟรอกให้รอบด้าน ถี่ถ้วน และครอบคลุมที่สุด ข้อมูลที่เราต้องรู้คือ
1.) อาหารการกินของกบฮอร์นฟรอก กบฮอร์นฟรอกมักจะกินเนื้อปลา ปลาเหยื่อเป็นตัวๆ ปลาหางนกยูง ปลาสอด ลูกหนู(หนูแดง,หนูคลาน) จิ้งหรีด หนอนนก กุ้ง เนื้อไก่ อาหารเม็ดสำเร็จรูป ผงอาหารเสริมแคลเซียมต่างๆ แต่เราก็ต้องรู้ด้วยว่าอาหารแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เราจึงควรหาอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา เช่น
Advertisement
Advertisement
- เนื้อปลาสด : หากกบกินเนื้อปลาสดเป็นประจำและไม่กินอาหารใดๆเสริมเลยกบของเราก็จะขาดสารอาหารได้ (คนนิยมให้)- ปลาเหยื่อตัวเป็นๆ : หากให้ปลาเหยื่อตัวเป็นๆหรือปลาหางนกยูงก็จะได้สารอาหารครบกว่าเนื้อปลาสด และควรให้ปลาเหยื่ออาทิตย์ละ1-2ครั้งจะดีมากเพื่อเสริมแคลเซียมให้กบ (คนนิยมให้)- ปลาสอด : กบสามารถกินปลาสอดได้แต่ก็ไม่ดีนัก หากทางเลือกควรให้อาหารอย่างอื่นจะดีกว่า
- ลูกหนู : สำหรับลูกหนูนั้น สามารถให้นานๆครั้งได้ จะทำให้สารอาหารจะครบ
- จิ้งหรีดและหนอนนก : กบสามารถกินได้แต่ไม่แนะนำเพราะจิ้งหรีดและหนอนนั้นทำให้กบย่อยยาก สามารถทำให้ท้องอืดและเป็นอันตรายต่อร่างกายกบได้
- กุ้ง : กบสามารถกินกุ้งแต่ไม่ควรให้กินบ่อยเพราะกุ้งทำให้กบย่อยยาก สามารถทำให้ท้องอืดและเป็นอันตรายต่อร่างกายกบ และกุ้งอาจมีสารเคมีต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อกบเราได้
- เนื้อไก่สด/เนื้อไก่สุก : สามารถให้เนื้อไก่ได้ แต่ต้องคอยระวังเรื่องการย่อยของกบหรือเนื้อไก่อาจจะมีสารอาหารไม่ครบจึงควรเพิ่มอาหารเสริมให้กบด้วย
- อาหารเม็ดสำเร็จรูป : หากไม่สะดวกให้อาหารที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น เราสามารถซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูปมาเป็นอาหารกบได้ หาซื้อได้ง่ายและสารอาหารครบ ( การกินอาหารเม็ดสำเร็ตรูปนั้นมีความปลอดภัยและมีสารอาหารครบมากกว่าอาหารที่ได้กล่าวมาทั้งหมด เพราะหากกบกินอาหารเม็ดสำเร็จรูปจะทำให้ได้สารอาหารครบโตไว ท้องไม่อืด ย่อยง่ายและขับถ่ายได้ดีกว่าอาหารที่กล่าวมาทั้งสิ้น ) ( คนนิยมให้ )
- ผงอาหารเสริมแคลเซียงมต่างๆ : ผงอาหารเสริมสามารถคลุกกับเนื้อปลาสด,จิ้งหรีดหรือปลาเหยื่อได้ เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กบ ทำให้กระดูกกบแข็งแรงไม่ขาดสารอาหาร ผงอาหารเสริมต่างๆเลยกลายเป็นตัวช่วยเพิ่มเติมให้กับคนที่อยากเพิ่มสารอาหารให้กบ
จากอาหารทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น อาหารที่ผู้เขียนคิดว่าดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับกบนั้นคืออาหารเม็ดสำเร็จรูป เพราะมีความปลอดภัยและมีสารอาหารครบที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา แต่อาหารที่เราจะให้กบนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้ความเหมาะสมและความสะดวกของตัวผู้เลี้ยงเอง
และกบบางตัวนั้นหากได้กินอาหารใดเป็นประจำแล้ว พอเปลี่ยนไปให้อาหารที่ไม่เหมือนเดิมก็จะเกิดอาการเลือกกิน ไม่กินเพราะไม่ใช่อาหารที่มันเคยกิน กบจะสามารถอดอาหารเป็นเดือนได้ แต่ถ้าหากกบไม่กินอาหารเป็นเวลานาน แล้วเกิดอาการหิวมากๆก็จะทำให้กบกินอาหารที่เราให้เพราะความหิว และอีกหนึ่งสิ่งที่คนเลี้ยงกบจะต้องรู้คือกบฮอร์นฟรอกเป็นกบที่ตะกละกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ดังนั้นเราจึงควรให้ปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับขนาดตัวของกบ ไม่ควรให้น้อยจนเกินไป และไม่ควรให้เยอะเกินไปเพราะจะทำให้กบย่อยยากและเป็นอันตรายต่อกบได้
2.) สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของกบ
เดิมทีกบฮอร์นฟรอกหรือกบอาร์เจนตินาฮอร์นฟรอก มีถิ่นอาศัยอยู่แถบ ป่าฝนเขตร้อน เราจึงควรสร้างสภาพแวดล้อมให้เขาเหมือนกับถิ่นที่อยู่อาศัยเขาให้ได้มากที่สุด ดังนั้นก่อนรับกบฮอร์นฟรอกมาเราควรจัดที่อยู่อาศัยเขาให้พร้อมก่อน
การจัดที่อยู่อาศัยง่ายๆที่สะดวกต่อตัวผู้เลี้ยงและน่าอยู่สำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา สิ่งที่ผู้เขียนได้จัดที่อยู่อาศัยของกบเป็นดังนี้
- กล่องเลี้ยงกบ : กล่องเลี้ยงกบที่ผู้เขียนคิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับการเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกคือกล่องพลาสติกใสที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไปและมีรูระบายอากาศ เพราะสามารถนำมาล้างทำความสะอาดได้ง่ายไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงเอง ไม่ชื้น มีการระบายของอากาศตลอดเวลา
- ฟองน้ำ : ฟองน้ำเป็นวัสดุหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่ามีความสะดวกสะบายในการทำความสะอาดเพราะสามารถนำมาล้างน้ำตากแดดได้ แต่ข้อเสียของฟองน้ำก็คือเป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรค เราจึงควรทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของกบบ่อยๆและควรเปลี่ยนฟองน้ำที่ใช้มานานพอสมควรแล้วเป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
- หิน : หินเป็นวัสดุที่หาง่ายและประดับให้สวยงามได้ แต่ข้อควรระวังคือต้องใช้หินที่กลมมน ไม่มีเหลี่ยม ไม่แหลมคมเพราะหากหินมีเหลี่ยมและแหลมคมจะทำให้กบบาดเจ็บและเป็นแผลได้
- บ้านกบหรือที่หลบ : เราควรจะมีบ้านกบหรือที่หลบภัยให้กับกบ เพราะหากเรามีที่หลบภัยให้สัตว์เลี้ยงของเรามันจะรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยขึ้นเมื่อได้หลบอยู่ในนั้น ทำให้กบไม่เครียดและตื่นกลัว
- มอส : มอสเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะมอสเป็นที่หลบซ่อนตัวของกบได้ และนิสัยของกบที่จะทำก็คือการขุดเข้าไปในมอสแล้วกลบตัวเองอยู่ในนั้น ( ผู้เขียนจะใช้มอสมาปูรองพื้นและใส่มอสไว้ให้กบเยอะๆเพราะกบที่บ้านผู้เขียนชอบขุดเข้าไปซ่อนมาก )
- ต้นไม้ : ต้นไม้สามารถน้ำมาประดับตกแต่งได้ ต้นไม้ทำเป็นที่หลบให้กับกบได้และการมีต้นไม้จะทำให้เหมือนกับสถาพแวดล้อมของถิ่นที่เขาอยู่ ต้นไม้สามารถใช้เป็นต้นไม้น้ำหรือต้นพลูด่างที่อยู่ในน้ำได้
- แหล่งน้ำของกบ : แหล่งน้ำสำหรับกบจะสำคัญมาก เพราะกบชอบอยู่ในที่ชื้นๆ และกบต้องลอกคราบจึงต้องใช้ความชื้นและน้ำในการลอกคราบทุกๆครั้ง เราควรทำให้น้ำของกบสะอาดอยู่เสมอเพราะน้ำที่ไม่สะอาดจะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพกบได้ เช่นทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตา หากไม่มีการรักษาหรือรักษาไม่ทันจะทำให้กบเสียชีวิตได้ และที่สำคัญไม่ควรใช้น้ำคลอรีนหรือน้ำบาดาลในการใช้เป็นแหล่งน้ำให้กบ ควรจะใช้น้ำที่ไม่มีคลอรีนน้ำดื่มหรือสามารถนำน้ำปะปามาตากแดดไว้2-3วัน หากไม่ตากแดดก็ควรวางทิ้งไว้สัก5-6วัน เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงของเรา
แรกๆกบอาจจะไม่ชินหรือไม่รู้ว่าตรงไหนสามารถหลบได้ ตรงไหนขุดเข้าไปอยู่ได้ แต่พออยู่ไปสักระยะกบจะทำการสำรวจและเขาจะรู้พื้นที่อาศัยของตัวเอง จะรู้ว่าตรงไหนหลบได้ ตรงไหนจะสามารถลงไปแช่น้ำได้ จึงต้องใช้เวลาให้เขาปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆด้วย
สภาพแวดล้อมที่จัดไว้ให้สัตว์เลี้ยงของเรา เราไม่ควรโยกย้ายหรือสับเปลี่ยนตำแหน่งบ่อย หากจะจัดสิ่งของไว้ตำแหน่งไหนก็ควรวางไว้ที่เดิมไม่ควรย้ายที่บ่อยๆ เพราะจะทำให้กบเกิดความสับสน รู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะไม่คุ้นกับที่หลบภัยใหม่ๆ และจะทำให้กบต้องปรับเปลี่ยนกับสภาพแวดล้อมใหม่อยู่เสมอ เราจึงควรคิดถึงเรื่องเล็กๆแบบนี้ด้วยเพื่อมันเป็นสิ่งที่สำคัญต่อกบเหมือนกัน
เราควรหาฝาผิดที่อยู่อาศัยของกบให้มิดชิด เพราะกบสามารถกระโดดออกจากล่องได้ง่ายๆ หากปิดฝาไม่แน่นหนาและโชคไม่ดีกบจะหนีออกไปได้อย่างแน่นอน
และสำหรับการทำความสะอาดที่อยู่ของกบ เราควรทำความสำอาดอาทิตย์ละ1ครั้งเป็นอย่างต่ำหรือสามารถดูได้จากการสกปรกของที่อยู่อาศัยหรือแหล่งน้ำของกบ ที่อยู่อาศัยของกบควรจะสะอาดอยู่เสมอเพราะเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆสามารถทำให้กบป่วยได้ แต่ทางที่ดีเราควรทำความสะอาดอาทิตย์ละ2-3ครั้งจะดีที่สุด
3.) โรค/อาการป่วยที่กบฮอร์นฟรอกเป็นบ่อย
- อาการติดเชื้อที่ตา : สาเหตุเกิดมาจากแหล่งน้ำหรือที่อยู่อาศัยไม่สะอาด มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกอยู่ ตาของกบจะขุ่นจนมองไม่เห็น ผู้เลี้ยงจึงควรรักษาความสะอาดของแหล่งที่อยู่อาศัยของกบให้สะอาดอยู่เสมอ
- อาหารไม่ย่อย : สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นกินอาหารชิ้นใหญ่เกินไป กินอาหารที่ย่อยยากเช่นจิ้งหรีดหรือหนอน อากาศหนาวเย็นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กบไม่ย่อยอาหาร
4.) สิ่งที่ควรรู้และควรทำเพิ่มเติม
- ควรพากบไปตากแดดและว่ายน้ำ ประมาณ5-15นาทีเป็นประจำทุกอาทิตย์ ไม่ควรตากแดดจัดๆ ควรจะมีพื้นที่ที่แดดส่องถึง50% และอีก50%เป็นร่มให้เขาได้หลบ การตากแดดจะช่วยให้การย่อยอาหารของกบดีขึ้น และการว่ายน้ำก็เป็นการออกกำล้งกายของกบอีกด้วย
- หากกบไม่ขับถ่ายเป็นเวลานาน ต้องดูว่าเราให้อาหารเขาเพียงพอไหม ถ้าเพียงพอแล้วแสดงว่าการย่อยอาหารของเขาไม่ดี ต้องนำกบแช่น้ำอุ่นนิดๆและละลายน้ำผึ้งลงไปในน้ำ ให้กบได้แช่น้ำสักพัก อาการอาหารไม่ย่อยก็จะดีขึ้น
- ควรเช็คทุกครั้งว่ากบเราป่วย/บาดเจ็บไหม หลังจากพาไปว่ายน้ำและตากแดด เราควรนำเขามาเช็คว่าอวัยวะหรือร่ายกายเขาผิดปกติไหม ผู้เขียนมักนำกบมาเช็คตาว่าขุ่นหรือใส แขนและขาใช้งานได้ตามปกติไหม หรือดูที่ใต้ท้องหรือคางว่ามีบาดแผลอะไรหรือไม่
5.) พฤติกรรมพื้นฐานของกบ
- กบจะหาที่หลบภัยหรือการขุดหลุมเพื่อกลบตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ
- การอยู่เฉยๆนิ่งตลอดทั้งวันหรือหลายวัน ผู้เลี้ยงมือใหม่ไม่ต้องตกใจว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะตายหรือเปล่าเพราะเป็นปกติที่กบฮอร์นฟรอกจะอยู่เฉยๆนิ่งๆ วางมาดไปอย่างนั้น
- การลอกคราบของกบ กบต้องลอกคราบเป็นประจำ หลังจากการลอกคราบกบก็จะมีขนาดตัวใหญ่ขึ้น บางครั้งอาจจะขนาดตัวใหญ่ขึ้นจนผู้เลี้ยงตกใจ
- กบฮอร์นฟรอกโตไวมาก หากผู้เลี้ยงเลี้ยงไปประมาณ1-2เดือนจะพบกับความแตกต่างจากตอนที่รับมาในตอนแรก- กบฮอร์นฟรอกมีฟัน สามารถกัดเลือดซิบได้ เขาจะกัดก็เมื่อรำคาญหรืออารมณ์ไม่ดี แต่ถ้าหากเขางับเฉยๆไม่ได้กัดหรือแค่ตวัดลิ้นออกมาโดนนั้นก็แสดงว่าเขาคิดว่าเราเป็นเหยื่อ- หากกบเตรียมตัวที่จะออกตัวหรือกระโดด กบจะปล่อยน้ำออกมาหรือที่เรียกว่าปัสสาวะออกมานั้นเอง การปล่อยน้ำของกบจะทำให้น้ำหนักตัวเบาขึ้นสามารถกระโดดได้สูงขึ้น เป็นการเตรียมตัวกระโดดอย่างหนึ่งของกบ ผู้เลี้ยงจึงควรเตรียมรับมือเมื่อเจ้ากบของเรากระโดดหนี
- ห้ามเลี้ยงกบ2ตัวในถ้ำเดียว = ห้ามเลี้ยงกบรวมไว้ด้วยกัน เพราะกบฮอร์นฟรอกจะไม่สามารถเลี้ยงรวมกันได้หากเลี้ยงรวมกันกบจะรวมร่างกันได้ ( รวมร่าง = กบที่ตัวใหญ่กว่าสามารถกินหรืองับตัวที่เล็กกว่าได้เลย )
- หากพากบมาว่ายน้ำหรือตากแดดรวมกันก็ควรอยู่ในความใกล้ชิดของผู้เลี้ยง เพราะกบจะรวมร่างกันได้
การศึกษานิสัยใจคอของสัตว์แต่ละตัว
มนุษย์ทุกคนยังมีความหลากหลายไม่เหมือนกัน ถึงจะเป็นมนุษย์เหมือนกันก็ยังมีนิสัยของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันกบก็เหมือนกันถึงแม้ว่าเขาจะเป็นกบเหมือนๆกัน แต่กบแต่ละตัวนั้นมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันออกไป
กบที่ผู้เขียนเลี้ยงอยู่ก็มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ผู้เขียนไปเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกจำนวน2ตัว ได้แก่ตัวสีเหลืองชื่อซันนี่ และตัวสีเขียวชื่อลัคกี้
- น้องซันนี่(ตัวสีเหลือง) : จะมีลักษณะนิสัยที่ไม่ดุ ไม่กัด แต่เคยงับและตวัดลิ้นมาโดนเพราะคิดว่ามือเราคืออาหารกินอาหารพอประมาณ ชอบอยู่เฉยๆ แต่ขี้กลัวมากๆ เวลาได้ยินเสียงอะไรดังๆก็จะตกใจและสะดุ้ง แค่เราเอามือไปใกล้ๆเขาก็จะหนีเลย เลยเป็นสายนุ่มนิ่มประจำบ้าน
- พี่ลัคกี้(ตัวสีเขียว) : เป็นสายโหดประจำบ้าน ดุมาก จะกัดมือผู้เลี้ยงเป็นประจำ555 เคยกัดจนมือผู้เลี้ยงเลือดไหลซิบๆ จับบ่อยๆไม่ได้เพราะหงุดหงิดเก่ง มีพลังเยอะมาก กินเก่งมาก กระโดดเก่งมาก บางครั้งก็กระโดดใส่หน้าผู้เลี้ยงเลยเพราะโหดมากๆ
สิ่งที่ผู้เขียนจะสื่อก็คือ สัตว์เลี้ยงทุกตัวมีความเป็นตัวของตัวเอง มีนิสัยใจคอที่แตกต่างกันออกไป เราควรใส่ใจเรื่องนิสัยของสัตว์เลี้ยงเราด้วย ควรใส่ใจเรื่องเล็กๆของสัตว์เลี้ยงของเรา ควรรู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร ควรเรียนรู้ถึงพฤติกรรมที่เขาทำ ถึงเขาจะเป็นแค่กบแต่เราก็ควรเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวนึง เราควรมีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความคิด และทุนทรัพย์ การมีความพร้อมในทุกๆเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่คนเลี้ยงสัตว์ก็ควรจะมี ดังนั้นเราควรเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเมื่อเราพร้อมจริงๆ
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจเลี้ยงกบฮอร์นฟรอกไม่มากก็น้อย ขอบคุณค่ะ
ภาพประกอบบทความ นักเขียน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น