อื่นๆ

พิธีปลุกเสก เสียงสวด และคนเล่นของ

113
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
พิธีปลุกเสก เสียงสวด และคนเล่นของ

ภาพปรพกอบ

เรื่องที่เรากำลังจะเล่าเป็นประสบการณ์ขนลุก แปลกประหลาด พิสดารที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ เมื่อหลายปีก่อนเรามีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาพิธีหนึ่งที่เรียกว่าพุทธาภิเษกสมโภช พิธีนี้จัดขึ้นเพื่อปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ เป็นต้นว่าวัดไหนหล่อพระพุทธรูป สร้างเจดีย์ สร้างพระประธาน ก็มักจะจัดพิธีนี้ขึ้นเพื่อสร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้กับวัตถุเหล่านั้น โดยพิธีจะจัดที่วัดตอนกลางคืน ตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่มไปจนถึงรุ่งเช้า

ตอนนั้นย่าพาเราไปเข้าร่วมพิธีที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอำนาจเจริญ เราจำชื่อวัดไม่ได้ แต่จำได้ว่าอยู่บนภูเขาที่ชื่อว่าภูจำปา คนที่เข้าร่วมพิธีต้องนุ่งขาวห่มขาวทั้งตัวจุดเทียนตั้งไว้ด้านหน้าคนละเล่ม มีด้ายสายสิญจน์คล้องหัวโยงกันทั่วทั้งงาน และนั่งสวดคาถาต่างๆ ทั้งคืน บทที่สวดเป็นหลักคือบทสวดสรรเสริญพระรัตนตรัยที่ขึ้นต้นว่า "อิติปิ โส ภะคะวา" ซึ่งต้องสวดทั้งหมด 108 รอบ

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

พิธีครั้งนั้นมีคุณย่าคุณยายมาร่วมพิธีหลายร้อยคน แต่ด้วยความที่วัดอยู่ในป่าบนภูเขา ห่างไกลบ้านคน มองไปรอบๆ เจอแต่กุฏิ โบสถ์ ศาลา แถมยังเป็นตอนกลางคืนอีก บรรยากาศเลยค่อนข้างน่าขนลุกนิดหน่อย แต่มีคนอยู่ด้วยเยอะเลยไม่น่ากลัวมาก

เรื่องแปลกที่เราเจอเริ่มตั้งแต่หลังจากที่เรากับย่าเลือกที่นั่งได้เรียบร้อยแล้ว  มีคนท่าทางแปลกๆ กลุ่มหนึ่งเดินมานั่งข้างๆ เรา ที่บอกว่าแปลกก็คือส่วนมากคนที่มาร่วมพิธีนี้จะเป็นย่ายายใจบุญที่ชอบเข้าวัดสวดมนต์ แต่คนกลุ่มนี้เป็นวัยรุ่นผู้ชาย หน้าตาน่ากลัว ดูไม่ใช่คนประเภทที่จะมางานแบบนี้ เรารู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกที่พวกเค้ามานั่งข้างๆ เรา แต่ดีที่หลังจากนั้นไม่นานคนกลุ่มนี้ก็ย้ายไปนั่งที่อื่น เพราะถ้ายังนั่งที่เดิม แล้วเกิดเหตุการณ์ที่เรากำลังจะเล่า เราต้องช็อกตายแน่ๆ

เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะไม่หลอนมากจนอกสั่นขวัญผวา แต่ก็เป็นประสบการณ์ขนหัวลุกที่ติดตาเรามาจนถึงทุกวันนี้ นึกถึงทีไรก็เสียวสันหลังวาบตลอด จุดพีคเริ่มต้นที่พิธีสวดมนต์ดำเนินไปตามปกติทุกอย่าง จนกระทั่งตกกลางดึกสงัด ในวัดดังก้องไปด้วยเสียงสวดคาถา จู่ๆ กลุ่มคนที่เราพูดถึงก็มีอาการแปลกๆ ขึ้นมา

Advertisement

Advertisement

หนึ่งในนั้นที่ควรจะนั่งสวดตามปกติอย่างคนอื่น แต่เขากลับนอนลง แล้วทำท่าเลื้อยไปมาเหมือนงู เราบังเอิญมองไปเห็นว่าที่แขนของเค้าสักลายรูปงู ตอนแรกทุกคนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังสวดต่อไป แล้วเรื่องมันก็ยิ่งวุ่นวายขึ้นเมื่อมีอีกคนฉีกเสื้อตัวเองขาดจนเห็นลายสักรูปลิงบนหลัง บรรยากาศในงานฮือฮาขึ้นมาทันทีเมื่อคนสักรูปลิงทำท่าทางเหมือนโดนผีลิงสิง เขานั่งยองกระโดดสับขาไปมา ยกมือเกาหัว

ภาพประกอบ

ตอนนี้เราเริ่มเข้าใจแล้วว่าบทสวดที่กำลังสวดอยู่น่าจะมีผลทำให้คนของขึ้น และคนแปลกๆ กลุ่มนั้นก็คือพวกคนเล่นของ เราแทบไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ทั้งอึ้ง ทั้งทึ่ง ทั้งน่ากลัว ทั้งไม่เข้าใจว่าโลกนี้มีอะไรแบบนี้อยู่จริงๆ ด้วยเหรอ

บรรดาย่ายายเริ่มเงียบเสียงสวดเพราะความตกใจ แต่พระสงฆ์กว่าสิบรูปที่นำสวดก็ยังคงบริกรรมคาถาต่อไป ลองนึกภาพที่ในลานวัดกลางป่าทึบ เต็มไปด้วยคนนุ่งขาวห่มขาวนั่งพนมมือเรียงรายกันเต็มบริเวณ คล้องสายสิญจน์ไว้บนหัวทุกคน มีแสงจากหลอดไฟไม่มากแต่มีแสงเทียนตั้งเรียงส่องสว่างทั่ววัด มีพระสิบกว่ารูปนั่งอยู่หน้าแถว สวดคาถาประสานเสียงกัน มีคนอาการท่าทางพิสดารอยู่กลางวง มันน่าขนลุกมากจริงๆ เหมือนภาพที่เห็นในหนังแบบนั้นเลย

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบ

นอกจากมีงูมีลิงแล้ว ครู่ต่อมาก็มีคนลุกขึ้นมาทำท่าทางคลานคำรามเป็นเสือ เหล่าคุณย่าคุณยายที่อยู่บริเวณนั้นแตกกระจายออกทันที ซึ่งถ้าเป็นเรานะวิ่งตั้งแต่มีงู่โผล่มาแล้ว ยอมใจย่าๆ จริงที่ยังนิ่งอยู่จนถึงตอนนี้ได้เพราะ

ในที่สุดพระก็สวดจบ พอเสียงสวดเงียบลง คนประหลาดเหล่านั้นก็สงบลงทันทีอย่างกับว่ามีคนกดปุ่มปิดสวิทซ์ เราก็เลยเข้าใจในตอนนั้นนั่นเองว่า คาถาคงจะมีอิทธิพลต่อคนเล่นของ เช่นอาจจะไปปลุกให้ของขึ้นเลยเกิดอาการแบบนั้น หลังจากที่คนกลุ่มนั้นไปแล้ว เราได้ยินคนคุยกันว่าในงานนี้มีพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งมาจากเขมร ยิ่งพอได้ยินแบบนี้เรายิ่งช็อกมากขึ้นอีก เพราะแถบๆ กัมพูชาค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องไสยศาสตร์

รูปภาพจาก https://pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์