อื่นๆ

เสียงข้างห้อง

336
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เสียงข้างห้อง

ฉันเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ต้องเร่ร่อนเข้ามาหางานทำในเมืองกรุง งานในเมืองกรุงหายากมาก ฉันต้องเดินไปสมัครงานอยู่หลายที่ จนสุดท้ายก็ได้ทำที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เมื่อเรื่องงานผ่านไปแล้ว คราวนี้ฉันต้องหาห้องพักใกล้กับที่ทำงานให้ได้ ฉันเดินหามาหลายที่แล้ว แต่ส่วนมากก็ไม่มีห้องว่างให้ฉันเช่าเลย จนเมื่อมาเจอหอพักแห่งหนึ่ง ก็มียายแก่ ๆ คนหนึ่งในบริเวณนั้นที่แกคงจะดูแลหอนี้อยู่เมื่อเห็นฉันชะเง้อมองอยู่นาน จึงได้เดินเข้ามาซักถาม

"แม่หนูมองหาอะไรเหรอ"

"คือหนูกำลังหาห้องเช่าอยู่ค่ะ"

"ห้องเช่าเหรอ ที่นี่ไม่มีหรอก คนมาเช่าเต็มหมดแล้วจ๊ะหนู"

ฉันรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของยายมาก แต่ฉันก็ไม่ย่อท้อและสอบถามข้อมูลจากยายต่ออีก

"ไม่ทราบว่ายายพอจะรู้มั้ยคะว่ายังมีห้องเช่าที่ไหนว่างอยู่อีกบ้าง"

ยายที่ได้ยินคำถามก็ทำท่าทางครุ่นคิด ครู่หนึ่งแกก็ตอบออกมาว่า

Advertisement

Advertisement

"อ้อ นี่แม่หนู ยายจำได้ว่าเมื่อสองวันก่อน เจ้าของหอพักถัดจากตรงนี้ไปอีกสองซอย มานั่งบ่นให้ยายฟังว่าไม่ค่อยมีคนมาเช่าหอเขาซักที สงสัยว่าคงมีห้องว่างอยู่เยอะ หนูลองไปถามดูสิ"

พอได้ฟังคำตอบของยาย ฉันก็เริ่มมีความหวัง ฉันยกมือไหว้ขอบคุณและเดินตรงไปตามทางที่ยายบอก จนมาถึงและหยุดยืนอยู่ข้างหน้าหอพัก

ผู้หญิง

รูปภาพ https://unsplash.com/photos/2o3HrdMUkJg

หอพักแห่งนี้เป็นหอเก่า ๆ  มีสองชั้นข้างบนเป็นไม้ นับได้ข้างบนสิบห้อง ข้างล่างสิบห้อง แต่ดูเหมือนไม่มีคนอยู่เลย ฉันเดินเข้าไปก็เจอหญิงวัยกลางคนที่น่าจะเป็นเจ้าของกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ฉันเลยสอบถามถึงราคาและรายละเอียดของการเช่า ซึ่งคำตอบที่ได้ฉันถึงกับไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะค่าเช่าที่นี่ถูกมาก แค่เดือนละ 1000 บาท น้ำไฟก็จ่ายตามบิลจริง แถมไม่ต้องวางมัดจำ ฉันเลยตกลงที่จะเลือกห้องพักแห่งนี้โดยแทบไม่ลังเลใจ

Advertisement

Advertisement

เจ้าของหอพักให้ฉันเลือกห้องว่าจะอยู่ห้องไหน ซึ่งแสดงว่าในหอพักแห่งนี้ยังมีห้องว่างที่ไม่มีคนอยู่หลายห้อง ฉันจึงเลือกเอาห้องหมายเลข 3 ที่อยู่ตรงชั้นล่างเพราะจะได้สะดวกไม่ต้องเดินขึ้นลงบ่อย พอจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเจ้าของหอพักก็พูดกำชับว่า ถ้าตอนกลางคืนมีอะไรผิดปรกติก็อย่าออกมาเด็ดขาด ให้โทรแจ้งป้าแกก่อนเสมอ ฉันตอบตกลงโดยไปสงสัยอะไรและนำกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปเก็บในห้อง

พอถึงเวลากลางคืน หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ฉันก็สวดมนต์ก่อนที่จะเข้านอน พอล้มตัวลงนอนได้สักพัก ก็มีเสียงเคาะประตูตรงหน้าห้องดังขึ้นมา ฉันรีบลุกขึ้นมานั่งจ้องมองไปที่ประตูอย่างสงสัย และคิดว่าในเวลาค่ำมืดแบบนี้ใครกันจะมาเคาะนอกจากโจรหรือคนที่คิดไม่ดี ฉันจำคำที่ป้าเจ้าของห้องพักบอก จึงไม่ได้ลุกไปเปิดหรือร้องถามออกไป เพราะด้วยความกลัวอันตราย และพอผ่านซักพักเสียงเคาะนั้นก็เงียบลงไป

Advertisement

Advertisement

ฉันคลายความกังวลลงไปได้บ้าง และคิดไปในทางที่ดีว่าคงจะเป็นคนในหอพักมาเคาะผิดห้องกระมัง จึงล้มตัวลงนอนต่อและหลับไปด้วยความง่วง จนถึงกลางดึกประมาณตี1 ฉันงัวเงียตื่นขึ้นเพราะได้ยินเหมือนเสียงคนหลายคนกำลังคุยซุบซิบกัน เสียงมันดังออกมาจากผนังห้องตรงหัวเตียง ฉันลุกขึ้นมานั่งเงี่ยหูฟัง พยายามจับใจความว่าเขาพูดคุยอะไรกันในเวลาดึกดื่นแบบนี้ แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องเลย จึงล้มตัวลงนอนและพยายามข่มตาให้หลับ เจ้าเสียงคุยเหล่านั้นก็ยังบ่นพึมพำให้ได้ยินอยู่เป็นระยะเวลาเวลาหลายสิบนาที แล้วสุดท้ายก็ค่อย ๆ เงียบไป ฉันจึงหลับตานอนลงได้

พอกำลังจะเคลิ้มหลับ คราวนี้ก็ต้องตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกรอบ เมื่อได้ยินเสียงคเหมือนมีวัตถุขนาดใหญ่หล่นลงกระทบกับพื้นห้องดังโครม และตามมาด้วยเสียงฝีเท้าวิ่งไปมาดังตึงตัง มาถึงตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดแล้ว ด้วยง่วงบวกกับความที่คิดว่าคนในหอพวกนี้ ทำไมถึงมาทำเสียงดังในเวลากลางคืนโดยไม่เกรงใจคนอื่นบ้างนะ จึงตั้งใจจะกดมือถือโทรไปหาเจ้าของหอเพื่อแจ้งปัญหา แต่ดใจหนึ่งก็คิดว่ามันก็ดึกมากแล้ว ถ้าโทรไปตอนนี้คงจะรบกวนเจ้าของหอเป็นแน่ จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องออกมาแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสอง เพื่อจะไปเคลียร์เรื่องเสียงดังกับคนที่พักอยู่ในห้องข้างบนห้องของฉัน

กุญแจ

รูปภาพ https://unsplash.com/photos/FqaybX9ZiOU

พอเดินออกมาจากห้อง  ฉันก็พึ่งได้เห็นว่าหอทั้งหอนั้นเงียบสงัดมาก มีไฟหน้าห้องของฉันแค่ดวงเดียวที่ยังเปิดให้แสงสว่างอยู่ เหลียวไปดูห้องข้าง ๆ ที่มีเสียงคุยดังมาในตอนแรกก็เห็นมีกุญแจเก่าสนิมเกรอะคล้องเอาไว้อยู่ตรงประตู "อ้าว" ฉันอุทานอย่างแปลกใจพลางขบคิดว่าเสียงคุยมันดังมาจากห้องนี้ได้ยังไงในเมื่อประตูล็อคอยู่  แถมไม่ใช่แค่ห้องข้าง แต่ชั้นล่างทุกห้องมีกุญแจล็อคเอาไว้ทั้งหมด  แต่ฉันก็รวบรวมความกล้าเดินตรงไปที่บันไดเพื่อจะขึ้นไปชั้นสอง พอเดินขึ้นมาถึงชั้นบนก็รีบตรงปรี่ไปยังห้อง ๆ นั้น แต่ข้างบนนี้มืดมากและไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ ฉันใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องทางนำไป จนได้มาหยุดตรงหน้าห้องเป้าหมาย แต่พอมองดูกลับได้เห็นถึงแม่กุญแจที่เต็มไปด้วยสนิมกำลังล็อคประตูห้องนั้นเอาไว้อยู่ ทำให้ฉันงุนงงเป็นอย่างมากที่ได้รูัว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนั้น แล้วเสียงมันดังออกมาจากห้องนั้นได้อย่างไร

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉันจึงหันหลังกลับตั้งใจจะเดินลงมาทีนี้ก็พึ่งสังเกตุเห็นว่าห้องชั้นบนทุกห้องนั้นก็ล็อคกุญแจเอาไว้เหมือนกับชั้นล่าง ทำให้รู้ว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในหอนี้เลยนอกจากตัวเอง พอเห็นแบบนั้นฉันเริ่มใจไม่ดีจึงรีบก้าวเท้าจะเดินกลับ จนมาถึงบันไดทางลง ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรมากระแทกประตูของห้องข้างบันได  ใกล้กับที่ฉันกำลังยืนอยู่เสียงดังโครม จนฉันสะดุ้งตกใจแทบล้มลงไปตรงนั้น และคราวนี้ได้ยินเสียงกระทืบพื้นดังมาจากท้ายสุดของระเบียงมืด ๆ ทางด้านหลังของตัวเอง ทีนี้ไม่ต้องลังเลอะไรแล้ว

ฉันตกใจกลัวมากและรีบวิ่งลงบันไดอย่างไม่คิดชีวิต ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปเปิดประตูเข้าห้องแล้วรีบล็อคประตูในทันที  คราวนี้ฉันได้ยินเหมือนมีคนวิ่งไปวิ่งมาอยู่ตรงหน้าห้อง ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่ได้ยินเหมือนมีฝีเท้าของคนหลายคนวิ่งตึงตัง สวนกันไปมา พร้อมกับเสียงพูดคุยของผู้ใหญ่ เสียงหัวเราะดังคิกคักของเด็ก ดังลอยมาอย่างชัดเจน ตามมาด้วยเสียงเคาะตรงประตูหน้าห้อง เสียงเคาะผนังห้องตรงหัวที่นอน เริ่มประสานเสียงกันระงมไปหมด มาถึงตอนนี้ฉันรู้สึกกลัวจนแทบบ้า ลนลานทำอะไรไม่ถูก เพราะเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังเจอกับอะไรอยู่ จึงรีบกดโทรศัพท์โทรไปหาเจ้าของหอพักเล่าเหตุการณ์ที่ได้เจอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เจ้าของหอหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากฉัน เธอก็บอกแค่ว่าให้ฉันอยู่ในห้องและห้ามออกมา ฉันทำอะไรไม่ได้จึงได้แค่ทำตามที่แกบอก พยายามหาอะไรมาปิดหูเอาผ้าห่มมาคลุมโปงและท่องบทสวดมนต์ ท่ามกลางเสียงเหล่านั้นที่ยังดังมาอย่างต่อเนื่อง  กว่าจะเงียบไปก็เป็นตอนเวลาใกล้เช้าเข้าไปแล้ว

คน

รูปภาพ https://unsplash.com/photos/LyW7pqsP81k

รุ่งเช้าเจ้าของหอก็เข้ามาสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ กับฉัน และถามว่าฉันพอจะอยู่ที่นี่ได้ไหม ซึ่งฉันก็ตอบออกไปตรง ๆ ว่าถ้าให้อยู่ที่นี่อีกสักวันคงต้องเป็นบ้าตายไปก่อนแน่ ๆ ป้าเจ้าของหอจึงคืนเงินมาให้ฉัน 700 ส่วนอีก 300 เป็นค่าที่พักเมื่อคืน ฉันจึงรับเงินแล้วรีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าออกมาโดยไม่คิดที่จะหันไปมองหอพักแห่งนั้นอีก

ตอนนี้ฉันได้ที่พักใหม่แล้ว ที่นี่ปลอดภัยและไม่เคยมีเหตุการณ์แปลก ๆ เหมือนที่เคยเจอ และเวลาผ่านไปสักพักฉันก็สืบจนได้รู้ว่า หอพักที่ฉันเคยพักอยู่ในวันนั้น แต่ก่อนเคยถูกไฟไหม้จนคนในหอเสียชีวิตไปหลายคน หลักจากนั้นเจ้าของก็สร้างหอทับที่ตรงนั้นขึ้นมาใหม่และไม่เคยมีคนเช่าคนไหนพักอยู่ได้เกินหนึ่งคืนเลย คิดขึ้นมาทีไรก็ยังขนลุกอยู่ไม่หาย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์