อื่นๆ

คนสวยในบ่อเกรอะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คนสวยในบ่อเกรอะ

ภาพโดยEnrique Meseguerจาก Pixabay

อ. อเวจี เขียน

กลิ่นเหม็นรุนแรงวาบเข้าจมูกเป็นบางครั้ง เพียงแวบเดียวก็แทบจะคายของเสียออกมาได้ไม่ยาก นั่นหมายความว่ากลิ่นอันชวนอ้วกนั้นชวนสะอิดสะเอียนเพียงใด

“ไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรเลย” คนที่โพล่งออกมา ท้วงคำพูดของเพื่อน หรือจะเป็นเพราะว่าเขากำลังมึนเมา แอลกอฮอล์ทำให้การรับรู้กลิ่นเสียหายไปเรียบร้อยแล้ว

“งั้นเหรอ แต่เมื่อกี้ได้กลิ่นจริง ๆ นะ”

“เอ็งเมาแล้วเพื่อน”

“คงจะจริง”

ทั้งสองแม้จะเดินยังเดินไม่ตรงทางด้วยซ้ำ คนหนึ่งยังอยู่ในเครื่องแบบของรปภ.บริษัทรักษาความปลอดภัย อีกคนแต่งตัวเหมือนพวกอยู่ตามอู่ ซึ่งไม่ว่าแต่ละคนจะแต่งตัวอย่างไร มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ความเป็นเพื่อน

Advertisement

Advertisement

“นี่เราจะไปไหน” คนแต่งกายด้วยชุดช่างถาม

“กลับบ้านไง กลับไปกินเหล้าต่อ”

“กลับบ้าน ทำไมถึงได้เหมือนกำลังเดินย้อนกลับไปยังที่เดิม”

“ไม่จริงมั้ง”

“จริง ๆ นะ ดูดี ๆ สิ”

“จริงด้วย!”

ชายผู้อยู่ในชุดรปภ.หลุดปากอุทานออกมา พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ นี่มันคือบริเวณหน้าคอนโดซึ่งเขาเพิ่งเซ็นชื่อแตะมือกับเพื่อนรปภ. แล้วเดินออกไปนั่งดื่มกับเพื่อนที่เป็นช่างซ่อม ด้วยความที่ดื่มเป็นประจำ จะว่าเมามากมายนักก็ไม่ใช่ แต่ไม่คิดว่าจะย้อนกลับมายังที่ทำงานได้เหมือนเดิมแบบนี้

“ไอ้หมงหายหัวไปไหนวะ” ชายรปภ.ถามเพื่อน

“จะไปรู้รึ ก็มาด้วยกัน”

“มันแปลกมากว่ะเพื่อน”

“ใช่ แปลก เราออกตามหาดีกว่า เดี๋ยวเกิดเป็นลมเป็นแล้งจะได้ช่วยทัน”

Advertisement

Advertisement

“นั่นสิ”

สองหนุ่มใหญ่เหมือนกับลืมเรื่องของตัวเองไปชั่วขณะ ช่วยกันออกตามหาเพื่อนรปภ.ที่ชื่อหมงจนรอบบริเวณตึกคอนโด 3 อาคารเรียงราย จนกระทั่งมาพบว่า หมงนั่งอยู่ในป้อมยามหน้าซีดหน้าเซียว เหมือนคนเพิ่งผ่านการอาเจียนมาอย่างหนัก

“เฮ้ย ไอ้หมง นี่มันอะไรกันวะ”

“เอ็งมาก็ดีแล้ว เอ็งควงกะต่อได้ไหมวะ ข้าไม่ไหว”

“อะไรวะ”

“ข้าบอกไม่ถูก ข้าผะอืดผะอม อาเจียนมาหลายรอบแล้ว เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้”

“จริงหรือวะ”

“จะโกหกให้มันได้อะไรขึ้นมา”

“เออ ๆ งั้นก็ได้”

หมงเห็นเพื่อนรับปากอย่างนั้นแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที แล้วรีบออกจากป้อมยามไปในบัดดล คนเป็นเพื่อนรู้สึกถอนใจ พยายามคิดในแง่ดีว่า อย่างน้อยที่สุด การได้ควงกะเพิ่ม ย่อมส่งผลถึงรายได้ กะกลางคืนไม่ค่อยมีอะไรมาก สามารถแอบงีบหลับได้บ้าง แต่ก็นั่นแหละ สภาพของเขาตอนนี้ไม่ได้เหมาะกับการอยู่ยามเลยสักนิดเดียว

Advertisement

Advertisement

เหลือบมองไปทางเพื่อนช่าง ปรากฏว่าลงไปนอนแผ่หลากับพื้นกรนคร็อกไปเรียบร้อยแล้ว

เขาเองก็อยากจะลงไปนอน หลับตาแล้วปลดปล่อยความรู้สึกเข้าสู่ภวังค์ หากแต่จะทำแบบนั้นได้อย่างไร หน้าที่ยังค้ำคออยู่

รปภ.มืออาชีพยืนโงนเงนครู่หนึ่งก็หันไปคว้าเก้าอี้พลาสติกในป้อมยามออกมานั่ง วาดหวังในใจว่าสายลมเย็น ๆ โบกพัด ทำให้อาการเมามายสร่างลงได้บ้าง

นั่งพักบนเก้าอี้พลาสติกเพียงครู่เดียว

สายลมกระโชกเข้ามา แต่คราวนี้มันไม่ได้มาเพียงแค่ความเย็นสบายเท่านั้น หากแต่หอบเอากลิ่นบางอย่างเข้ามาปะทะจมูกจนแทบผงะ

กลิ่นเหม็นเน่าของซากอสุภะชัด ๆ

เขาสะดุ้งเฮือก มิน่าล่ะ หมงผู้เพื่อนจึงได้เกิดอาการอาเจียน และการได้กลิ่นอีกครั้งในคราวนี้ย่อมยืนยันได้ว่า เขาไม่ได้คิดไปเอง

มันชัดเจนเหลือเกิน

เขาขยับลุกขึ้น ลมยังพัดนำพาเอากลิ่นเหม็นเน่าเข้าหา และคราวนี้ไม่ได้มาเฉพาะกลิ่น แต่มันทำให้รปภ.หนุ่มใหญ่รู้สึกขนลุกซู่ และเกิดอาการอยากปล่อยให้ของเสียทะลักออกมาจากปากเสียเดี๋ยวนั้น

รปภ.หนุ่มใหญ่ขยับลุกขึ้น ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าจะออกตามหาที่มาของกลิ่น มันกลิ่นอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนี้

กลิ่นค่อย ๆ จางเมื่อรปภ.ออกเดินค้นหา จนกระทั่งรอบพื้นที่รับผิดชอบ ก็ยังไม่พบที่มา

ย้อนกลับมาถึงหน้าป้อมยาม เสียงกรนของเพื่อนช่างซ่อมน่าอิจฉาเป็นที่สุด

น่าแปลก กลิ่นจางลงมา แต่ยังคงมีอยู่ ไม่ได้มีเฉพาะกลิ่นเท่านั้น ไม่รู้แค่หูแว่วหรืออะไร ทว่าเสียงดังกล่าวทำเอารปภ.หนุ่มใหญ่ขนลุกไม่หยุด

“ช่วยหนูด้วย”

เป็นน้ำเสียงของผู้หญิง เบาบาง แต่ที่รุนแรงกว่าก็คือตอนที่สายลมกระโชกวูบเข้าหาเป็นระยะนั่นต่างหาก

มันกลิ่นของศพเน่าชัด ๆ!

มีอีกที่หนึ่งที่ควรจะไปดู...

รปภ.หนุ่มใหญ่ตัวสั่นขึ้นมาเด้อ ๆ ปกติเขาไม่ใช่คนกลัวอะไรง่าย ๆ เพียงแต่อารมณ์ตอนนี้มันช่างวังเวงเหลือเกิน

“ช่วย...หนู...ด้วย!”

หูแว่วอีกแล้ว เขาผวาไปเขย่าร่างของเพื่อนช่าง ส่งเสียงเรียกจนลิ้นพันกัน แต่ไม่เป็นใจ เพื่อนหลับสนิทไม่รู้สึกรู้สา สูดลมหายใจที่มีกลิ่นอสุภะนั้นเข้าปอดลึก ๆ พยายามไม่คิดอะไร แต่ค่ำคืนนี้น่าจะเป็นคืนที่แสนจะทรมานคืนหนึ่ง มิน่าล่ะเพื่อนหมงจึงถือโอกาสผละหนีออกเวรไปก่อน

รปภ.หนุ่มใหญ่กลับมานั่งที่เก้าอี้ แม้จะรู้สึกง่วงและอดประหลาดใจกับที่มาของกลิ่นไม่หาย แต่ภาระหน้าที่ของการเป็นมืออาชีพ ทำให้เขายังคงสามารถอยู่ต่อได้อย่างไม่ยากอะไร มาเผลอหลับไปแค่ตอนกลางดึกพร้อม ๆ กับอาการฝันประหลาด เขาฝันถึงเรื่องราวที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน และไม่เคยมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น แค่...เคยเห็นเด็กสาวคนหนึ่ง จำได้แม่นยำเพียงแค่ว่า เธอเป็นเด็กสาวหน้าตาดีที่สุดในหอพักใกล้เคียงกับห้องเช่าของเขา

ต่อไปนี้คือเรื่องที่ผุดขึ้นมาในภวังค์ของรปภ.หนุ่มใหญ่

https://onscene-prod.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/files/styles/body_image_480w/public/inline-images/scary-588939_1920.jpg?itok=4jKBe3e4 ภาพโดยLoganArtจาก Pixabay

เธอชื่อ หนูกันยา ไม่เคยมีใครสวยสู้ หนูกันยา ได้เลย เป็นเจ้าของร่างสูงเพรียว ใบหน้าเหมือนนางเอกเอ็มวี ใส ๆ ไร้ที่ติ

ความงดงามคงไม่ได้มาโดยบังเอิญหรอก เพราะว่าพ่อกับแม่ของเธอล้วนแล้วแต่เป็นดาวทั้งสิ้น พ่อหล่อแม่สวย ได้ครองคู่กัน ลูกออกมาจึงไม่ได้หนีพ่อแม่เท่าไรนัก

ฐานะความเป็นอยู่ก็ค่อนข้างมั่นคงมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ

หนูกันยา เรียนจบมัธยมในโรงเรียนประจำอำเภอ เธอไม่ใช่นักเรียนเรียนดีนัก แค่ปานกลางเท่านั้น แต่อาศัยเป็นคนหน้าดี จึงเหมือนกับเป็นดาวเด่นของโรงเรียน เธอเป็นตัวแทนความสวยความงาม ช่วยเหลือกิจกรรมต่าง ๆของโรงเรียนทุกครั้งจนกระทั่งเรียนจบ

เธอเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังประจำจังหวัด ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยว่าฐานะของครอบครัวสามารถส่งเสียให้เธอไปถึงฝั่งได้ไม่ยาก

ด้วยความเป็นคุณหนูในกรงทองตั้งแต่ยังเล็ก การได้ออกไปอยู่หอ ตอนแรกสร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ของเธออยู่ไม่น้อย แต่เธอยืนยันว่าเธอสามารถอยู่ได้ เธอโตแล้ว

เมื่อได้ออกไปอยู่ภายนอกบ้านไม่ได้อยู่ในสายตาของพ่อแม่ แรก ๆ หนูกันยาก็ยังคงไม่อะไรมากนัก แต่นานวันเข้าเริ่มมีหลายอย่างเย้ายวน กลายเป็นคนติดเพื่อน และเริ่มมีชายหนุ่มเข้ามาในชีวิต ความจริงแล้วรูปร่างหน้าตาอย่างหนูกันยาไม่ใช่เรื่องยากนักหรอกที่จะมีเรื่องพวกนี้ พร้อมจะมีผู้ชายกระโจนเข้ามาหาเธออยู่แล้ว

ชีวิตของหนูกันยา ที่ตอนแรกทำท่าเหมือนจะดี จึงเริ่มดิ่งเข้าสู่เส้นทางสีเทา ๆ หนุ่มคนแรกที่เข้ามา กลายเป็นเพียงแมงดา หน้าตาดีที่หวังเพียงแค่เข้ามาปอกลอกเธอเท่านั้น

เป็นอะไรที่หนูกันยาไม่เคยคาดคิดเหมือนกันว่าชีวิตของตัวเองจะต้องมาเจอกับอะไรพวกนี้

แท้จริงแล้ว มีหลุมพรางมากมายเรียงรายรออยู่ข้างหน้า ไม่มีใครรู้ได้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของเธอ และเป็นการเข้ามาที่ทำให้ชีวิตของหนูกันยาเปลี่ยนไปตลอดกาล

มันคือรักแรกของหนูกันยาที่มีต่อชายหนุ่มคนแรกที่สามารถขยี้ดอกไม้งามดอกนี้ได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้าย โดยที่ทางบ้านยังไม่ระแคะระคาย

จนกระทั่งพ่อกับแม่ของเธอเริ่มระแคะระคาย แต่ดูเหมือนว่าได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับหนูกันยาเรียบร้อยไปแล้ว!

ชายหญิงวัยกลางคนผู้เป็นพ่อแม่ของหนูกันยาตัดสินใจมาตามหาลูกสาวที่หอพัก

ทั้งคู่ได้กุญแจสำรองจากผู้ดูแล สามารถไขเข้าไปในห้องพักของหนูกันยาได้ไม่ยากอะไร

“ไม่เห็นเธอมาหลายวันแล้วละค่ะ ตอนแรกนึกว่ากลับบ้านซะอีก เพราะส่วนใหญ่เด็กที่พักที่นี่ทยอยกลับบ้าน หลังสอบเสร็จ”

ผู้ดูแลหอพักอธิบาย

พ่อกับแม่เข้ามาในหอพัก ใจคอไม่สู้ดี หม่นเศร้าอย่างประหลาด แต่ไม่มีใครปริปากคำพูดในแง่ไม่ดีออกมา

นึกเรื่องดี ๆ เพื่อปลอบประโลมตัวเองเท่านั้น แต่เอาเข้าจริง กลับไม่สามารถซุกซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้ จำเป็นต้องหันมาพูดคุยปรับทุกข์ระหว่างกัน

“ลองโทรอีกครั้งสิพ่อ”

ราวกับว่าความห่วงใยของพ่อแม่ที่มีต่อลูกสาวสามารถสื่อถึงเธอได้ เพราะโทรเที่ยวนี้เชื่อมสัญญาณติดต่อได้ทันที

“โทรติด”

เสียงของคนเป็นพ่อ

“จริงหรือคะ รับหรือยัง”

“ยัง ยังไม่รับ”

หัวใจของคนทั้งคู่เต้นรัว เสียงสัญญาณเชื่อมต่อที่ดังผ่านไปแต่ละวินาที ช่างเป็นอะไรที่ทรมานหัวใจเหลือเกิน

เขาเปิดลำโพงเพื่อให้ได้ยินถึงภรรยาด้วย

“รับสิ หนู รับสิลูก”

ไม่ทันจะขาดคำของคนเป็นแม่ เสียงอู้อี้แว่วดังเข้ามา

“ฮัลโหล”

“ลูก”

ทั้งสองหลุดปากออกมาพร้อมกันราวนัดหมาย “ลูกอยู่ไหน”

“พ่อ...แม่...เหรอคะ”

“ใช่ ๆ กลับห้องเถอะลูก พ่อกับแม่รออยู่”

“พ่อกับแม่มาหาหนูเหรอคะ” เสียงถามกลับมา น้ำเสียงเหมือนคนที่ยังอยู่ในอาการง่วง

“ใช่แล้ว รีบมานะลูก”

“ค่ะ ๆ แล้วจะไป...แค่นี้นะคะ”

สัญญาณขาดหายไปในที่สุด

การได้ยินเสียงของหนูกันยา ผู้เป็นลูกสาว อย่างน้อยที่สุดย่อมเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเธอยังปลอดภัย แต่ก็ไม่เสมอไป

เพราะผ่านวันและผ่านค่ำคืนไปแล้ว เธอก็ยังไม่กลับมา

เบอร์โทรที่เคยติดต่อได้ ก็เข้าสู่โหมดฝากข้อความเสียงเพียงอย่างเดียว หนำซ้ำ ก่อนจะฟ้าสาง กลิ่นเน่ารุนแรงของซากศพโชยวูบเข้ามาภายในห้อง เหมือนบอกเค้าลางบางอย่าง ชนิดที่ไม่มีคำอธิบายเป็นอย่างอื่น

ก๊อก ๆ ๆ...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นในเช้าของวันรุ่งขึ้น เมื่อเปิดออกไปดูก็พบกับเจ้าของหอพัก และชายวัยกลางคนในชุดรปภ.ยับ ๆ หน้าตาอิดโรย

“ผมอยากให้พวกคุณไปกับผม” รปภ.ผู้อยู่ยามแทนเพื่อนเอ่ยขึ้น “เผื่อว่า...ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จะบอกยังไง ตำรวจกับพวกกู้ภัยเพิ่งลงไปกู้ขึ้นมาจากบ่อเกรอะของคอนโดที่ผมเฝ้ายามอยู่ เจอผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในนั้น ผมได้ยินจากเจ้าของหอว่าพวกคุณมาตามหาลูกสาว รีบไปดูเถอะ เผื่อจะเป็นเธอ”

“ไม่จริง...ไม่จริงใช่ไหม...”

คนเป็นแม่ปล่อยโฮออกมา ลางสังหรณ์บางอย่างบอกให้รู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ทำได้เพียงแค่ภาวนาว่า ขอให้อย่าเป็นจริงเลย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์