อื่นๆ
เล่าเรื่องจริง ตอน "อาคาร 4 ผีเฮี้ยน!!"

อาคาร 4 ผีเฮี้ยน!!
เล่าเรื่องจริงวันนี้ เป็นประสบการณ์ชวนขนหัวลุกตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นม.6 ที่โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ ผมเป็นนักเรียนในโครงการห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ฯ ในโครงการห้องเรียนพิเศษนี้จะต้องนำโครงงานไปนำเสนอที่งานประชุมวิชาการห้องเรียนพิเศษ ซึ่งเป็นการจบอย่างเต็มหลักสูตรของนักเรียนโครงการนี้ ในการทำโครงงานนั้นจะทำช่วงภาคเรียนที่ 1 ต้องได้นอนที่โรงเรียนเกือบทุกวัน ในการทำโครงงานนั้นจะทำเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน และในวันที่เกิดเรื่องที่เล่าให้ทุกคนฟังนี้ มีเพื่อนไปทำโครงงานที่ห้องประจำที่อาคาร 5 ทั้ง 5 คน และมีครูที่ปรึกษาชื่อ ครูอ้อย คอยให้คำปรึกษาและดูแลความปลอดภัย หลังจากที่ทุกคนล้าจากการทำโครงงาน ก็มานั่งล้อมวงทานขนมแล้วก็พูดคุยกันสนุกสนาน จากนั้นครูอ้อยก็มาร่วมวงด้วย และถามพวกผมว่าอยากฟังเรื่องเล่าจากครู ให้ช่วยคลายเครียดไหม พวกผมก็ตอบอย่างเร็วว่า "ฟังครับ" จึงเป็นเรื่องราวที่ผมจะมาหยิบนำมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
Advertisement
Advertisement
โรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะมีการสร้างเป็นโรงเรียน ได้เคยเป็นป่าช้ามาก่อนและมีการทำพิธีล้างป่าช้าเพื่อสร้างเป็นโรงเรียน เนื่องจากเป็นป่าช้าที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานมาแล้ว ทำให้ขุดกระดูกที่ถูกฝั่งอยู่ในป่าช้าไปไม่หมด เลยมีวิญญาณของผีเร่ร่อนหลังเหลืออยู่ ในการสร้างอาคารก็มีอาคารหลังหนึ่งที่เชื่อกันว่าสร้างทับหลุมศพของผีตายทั้งกลมตนหนึ่ง ที่วิญญาณเฮี้ยนตั้งแต่ก่อนที่จะมาสร้างเป็นโรงเรียน เพราะเป็นที่เรื่องลือในความหลอนของชาวบ้านใกล้ ๆ โรงเรียนนี้ ในปี 2550 ครูอ้อยได้สอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ที่โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ในตอนนั้น และได้ไปพักบ้านพักครูในโรงเรียน เป็นบ้านพักที่ติดกับอาคาร 4 ของโรงเรียน ซึ่งเป็นอาคารไม้หลังเก่าบรรยากาศในตอนกลางคืนเงียบสงบ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เป็นอาคารที่ลือกันว่าสร้างทับหลุมศพผีตายทั้งกลม! วันหนึ่งครูอ้อยออกไปทานแล้วกลับมายังบ้านพักครูเวลาประมาณ 21:30 น. ระหว่างที่ขับรถเข้ามาในโรงเรียนนั้น ครูอ้อยก็มองไปเห็นห้อง ๆ หนึ่งเปิดประตู หน้าต่าง และไฟอยู่ ครูอ้อยเลยขับรถตรงไปที่อาคาร 4 เพื่อจะขึ้นไปปิดไฟ ปิดประตูหน้าต่างที่ชั้นสองของอาคาร 4 พอไปถึงกำลังเดินขึ้นบันได ครูอ้อยก็ได้ยินเสียงคนเดินไป เดินมาบนอาคาร ตอนนั้นครูอ้อยก็ไม่เอะใจอะไร เพราะว่าน่าจะมีคนอยู่ แต่ด้วยความสงสัยของครูอ้อยว่าใครมาทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ พอครูอ้อยเดินไปถึงห้องที่เปิดไฟอยู่ที่ตอนแรกมองเห็นจากด้านล่างของอาคาร แต่ตอนที่ครูอ้อยเดินไปถึง ปรากฏว่า ห้องนั้นถูกปิดสนิทแล้วแล้วก็ไม่มีไฟที่สว่างสักดวง เสียงที่ได้ยินก่อนที่จะขึ้นไปบนอาคาร ก็เงียบสงัดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครูอ้อยเล่าว่าตอนนั้น ครูเริ่มกลัว ตัวสั่น และช็อกมาก ครูอ้อยจึงรีบลงมาจากอาคาร 4 และเดินไปยังรถ ตอนที่ครูอ้อยกำลังจะไปที่บ้านพัก ก็ได้มองขึ้นมาที่อาคาร 4 อีกครั้ง และก็ได้เห็นกับผู้หญิงผมยาวนั่งห้อยขาที่ระเบียงชั้นสองของอาคาร 4 พร้อมกับอุ้มลูกอยู่ในอก ในใจของครูอ้อยตอนนั้นคิดแล้วว่าโดนผีดุ ที่เขาลือกันเล่นงานเข้าแล้ว ระหว่างที่ครูเล่า ผมก็รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่กับเหตุการณ์สยองขวัญที่ครูเล่า เพราะระหว่างที่ครูเล่าทุกอย่างเงียบสนิท ได้ยินแค่เพียงเสียงพัดลมภายในห้อง แล้วจากนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือ อยู่ดี ๆ ไฟในห้องที่ผมทำโครงงานที่กำลังจับวงเล่าเรื่องนี้กันอยู่ ก็ดับลงพรึ่บ! เพื่อนทุกคนกรี๊ด!! ด้วยความตกใจและความกลัวผมเลยไปคว้ามือถือเพื่อเปิดไฟฉาย เพิ่มแสงสว่างให้กับห้อง จากนั้นประมาณ 2 นาที ไฟก็กลับมาสว่างเช่นเคย และเรื่องที่ครูอ้อยเล่าให้ผมฟังก็จบเพียงเท่านั้น เพราะครูอ้อยคิดว่า ผีตายทั้งกลมตนนั้น คงไม่อยากให้พูดถึงเขา
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก : Ghostcyber
พอถึงเวลา 22:00 น. พ่อก็เข้ามารับผมที่ห้องทำโครงงาน และพ่อก็ได้ถามครูอ้อยว่า "ครูอ้อย ดึกขนาดนี้แล้วยังมีแม่บ้านเค้าไปทำความสะอาดอยู่บนอาคาร 4 ด้วยหรอครับ" เมื่อพ่อผมพูดจบทุกคนก็นิ่งไปสักพัก จากนั้นก็อ้อยก็แก้สถานการณ์โดยการตอบคำถามของพ่อผมกลับไปว่า "น่าจะใช่ค่ะ" แต่ตอนนั้นคือ เพื่อนทุกคนรวมถึงครูแก้ว รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่พ่อผมเห็นนั้นไม่ใช่แม่บ้านอย่างแน่นอน ตอนนั้นผมอยากจะออกไปจากโรงเรียนมากที่สุดเลยครับ เพราะผมกลัว ผมสยองกับความเฮี้ยนของผีตายทั้งกลมที่อาคาร 4 หลังนี้มาก เป็นความรู้สึกที่กลัวแบบอธิบายเป็นคำพูดไม่ออก หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
วันถัดมาในตอนกลางวัน ผมได้ไปถามแม่บ้านที่รับผิดชอบทำความสะอาดอาคาร 4 ว่าห้องบนอาคาร 4 มันมีสิ่งที่คนเรามองไม่เห็นแต่สัมผัสได้อยู่ด้วยหรอครับ แม่บ้านยิ้มให้กับผมแล้วบอกว่า ในตอนที่สร้างอาคาร 4 หลังนี้ ในขั้นการขุดหลุมวางเสาสร้างอาคาร ได้ขุดเจอกระดูกส่วนขาของศพที่นำมาฝั่งไว้ สมัยที่ยังเป็นป่าช้า แล้วได้นำกระดูกชิ้นนั้นไปเก็บไว้ในห้องท้ายสุดของชั้น 2 บนอาคาร 4 ซึ่งในตอนนั้นผมก็นึกย้อนไปในตอนตอนที่ครูอ้อยเห็นไฟสว่างกับหน้าต่างที่เปิดอยู่บนอาคาร 4 ในเวลาดึก ซึ่งมันเป็นห้องเดียวกันที่แม่บ้านบอกกับผม และแม่บ้านก็ได้พูดกับผมต่อว่า เมื่อคืนเจอมาหรอ ครูที่นี่เขาก็เจอเป็นประจำแหละ ผีตนนี้ไม่ไปผุดไปเกิดสักที กลางดึกชอบออกมาหลอกหลอนผู้คน หลังจากที่แม่บ้านพูดแบบนั้น ผมก็เหมือนคนเสียสติไปเลยเพราะเหม่อลอยทั้งวัน ไม่มีกะจิตกะใจเรียนเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนในเวลากลางคืนอีกเลย...
Advertisement
Advertisement
สำหรับประสบการณ์ชวนขนหัวลุก เล่าเรื่องจริงของผมเรื่อง "อาคาร 4 ผีเฮี้ยน" ก็จบลงแล้ว เรื่องหน้าจะเป็นประสบการณ์หลอนอะไร ที่ไหน คอยติดตามกันได้นะครับ... "เล่าเรื่องจริง"
ความคิดเห็น
