อื่นๆ

เสียงปริศนาบนตึกเรียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เสียงปริศนาบนตึกเรียน

แต่ละโรงเรียนย่อมมีประวัติและต้องมีสิ่งลี้ลับอยู่เสมอ โรงเรียนของฉันก็เหมือนกัน ฉันย้ายจากโรงเรียนประจำอำเภอมาเรียนโรงเรียนของจังหวัดในช่วงมัธยมปลายในจังหวัดใกล้ๆบ้านของฉัน ที่นี่เป็นโรงเรียนที่ดีมากๆโรงเรียนหนึ่งที่ฉันไม่เคยจะลืมเลือนไปเลย ไม่ว่าจะเพื่อนหรือบางสิ่งที่ฉันเองก็หาคำตอบไม่ได้

ในช่วงม.4 ของฉัน ฉันเคยได้พบเจอบางสิ่งที่ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ วันหนึ่งเป็นวันงานของโรงเรียนซึ่งตึกเรียนจะปิดเร็วกว่ากำหนด ซึ่งฉันมีงานที่ต้องอย่างด่วนจี๋ไม่อย่างนั้นจะเสียคะแนนไปมาก ฉันจึงหาช่องทางที่จะมารถไปส่งที่ห้องพักครูได้แต่อาคารเรียนที่ฉันจะไปส่งนั้นปิดเรียบร้อยแล้ว หากแต่อาคารหนึ่งยังคงไม่ปิดและอาคารแต่ละอาคารมีสะพานเชื่อมกัน ฉันจึงขึ้นอาคารเรียนที่ยังไม่ปิดเดินผ่านสะพานเชื่อมไปยังห้องพักครูอีกอาคาร

Advertisement

Advertisement

เดินไปผ่านห้องเรียนไปเรื่อยๆ ห้องเรียนก็ปิดเรียบร้อยแล้วห้องพักครูเองก็คงปิดแล้วแบบไม่ต้องสืบเช่นกัน ฉันจึงตัดใจเดินกลับมาอย่างเซ็งๆแต่ทันใดนั้นขณะที่ฉันเดินผ่าน

เงา ภาพโดย SuperHerftigGeneral จาก Pixabay

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงตีโต๊ะและประตูดังขึ้นทำเอาฉันสะดุ้งโหยง บรรยากาศตอนนั้นเงียบสงัดและอยู่ในช่วงยามเย็นยิ่งทำให้ดูวังเวงยิ่งขึ้น ฉันรีบสาวเท้าเดินหนีทันทีพยายามตั้งสติให้นิ่งที่สุดทั้งที่ในใจกลัวแทบบ้า แต่คิดในใจถ้าได้ยินอีกคือต้องใส่ตีนผีแล้วแหละ

เดินผ่านห้องเรียนมาได้สักพักถึงห้องเรียนห้องสุดท้ายที่กำลังจะเดินผ่านคราวนี้ฉันก็ต้องผวาสะดุ้งโหยงอีกครั้ง

ปัง! ปัง! ปัง!

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องเรียนก็ดังขึ้นอีกหลายครั้งและฉันก็มั่นใจว่าฉันไม่ได้หูฝาดแน่ๆ เหมือนกับมีใครอยากจะแกล้งฉันแต่จะเป็นใครล่ะในเมื่อบนอาคารนี้ไม่มีคนอยู่อีกแล้ว

Advertisement

Advertisement

"อีแก้ว! ปล่อยกู! ปล่อยกู!" เท่านั้นแหละฉันสะดุ้งโหยงใจหล่นตุ้บลงไปที่พื้นอย่างไม่ได้ตั้งตัว เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของหญิงสาวคนหนึ่งดังไม่ใช่ดังธรรมดาแต่มันดังเข้าไปในโสตประสาทจนฉันกลัวตัวแทบสั่น

ผี ภาพโดย Sergey Gricanov จาก Pixabay

แค่เสียงผู้หญิงกรีดร้องบ้าคลั่งห้องฉันก็เสียขวัญจะตายแล้ว ยิ่งเสียงที่พยายามจะพังประตูออกมาดังรัวเร็วขึ้นมันก็ทำให้ฉันไม่สามารถประคองสติได้อีกต่อไป ฉันจึงวิ่งสุดชีวิตลงมาจากอาคารนั่นไม่หันกลับหลังอีก เมื่อลงมาถึงอาคารเห็นเพื่อนยืนจัดงานอยู่ก็โล่งใจทันทีเหมือนได้เกิดใหม่

"เฮ้ย ไปทำอะไรข้างบนวะ" เพื่อนถามขึ้นขณะที่ฉันวิ่งหอบแฮ่กๆลงมา

"ไปส่งงาน"

"อย่าบอกนะว่าไปส่งอาคาร 1"

"ใช่ๆ เมื่อกี้โครตน่ากลัวเลย"

"เจอดีมาแล้วอ่ะดิ"

"เฮ้ย รู้ได้ไง" ฉันตกใจเพราะสิ่งที่เพื่อนพูดออกมาทันที จากที่ยิ้มแย้มอยู่เพื่อนของฉันก็หน้าเครียดตึงจนสังเกตได้

Advertisement

Advertisement

"เขาเจอมาหลายคนแล้ว ขนาดเกาะกลุ่มกันไปยังเจอดี แต่ก็แล้วแต่ดวงอ่ะว่าจะเจอไม่เจอ แต่มึงเสือกเจออ่ะเพ็ญ"

"แกรู้ไหมเขาเป็นใคร" ฉันถามจนลิ้นแทบรัวพันกัน

"จะให้เล่าตรงนี้จริงๆเหรอวะ" เพื่อนพูดกับฉันเสียงกังวล ฉันมาเข้ามัธยมปลายที่นี่จึงยังเป็นเด็กใหม่อยู่แต่เพื่อนของฉันอยู่มาตั้งแต่มัธยมต้นจึงได้รู้เรื่องราวดีๆเยอะแยะมากมายในโรงเรียน ไม่แปลกที่เธอจะเดาออกทันทีว่าฉันไปเจออะไรมา

"ไม่ต้องเล่าตรงนี้ก็ได้ ขนยังลุกอยู่เลย" จู่ๆฉันก็โพล่งขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าอาจจะเป็นคนที่ติดอยู่บนอาคาร "หรือจะเป็นคนวะ" เพื่อนของฉันก็ส่ายหน้ารัวๆก่อนจะไม่พูดอะไรอีกและลากฉันไปช่วยคนอื่นๆแทน

มารู้ทีหลังว่าสิ่งที่เราได้ยินนั้นเพื่อนเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่โรงเรียนตั้งแรกๆ จะมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เขาถูกคนที่หมั่นใส้แกล้ง เธอถูกขังไว้ในห้องเรียนท่ามกลางความสนุกสนานของคนอื่นๆ เธอไม่มีแม้กระทั่งพรรคพวกจะคอยช่วยเหลือด้วยซ้ำ เธอทั้งตีทั้งเคาะประตูขอร้องให้พวกนั้นเห็นใจแต่ไม่เลย ไม่มีใครคิดช่วยเธอสักคน

เธอถูกขังอยู่อย่างนั้นประกอบกับสิ่งที่ต้องเจอในโรงเรียนทุกๆวันแบบซ้ำๆทำให้เธอคนนี้ตัดสินใจผูกคอตายที่ห้องเรียนนั้น ด้วยจิตที่ยังอาฆาตไม่ยอมไปไหน ตั้งแต่นั้นมาทุกอย่างก็กลายเป็นตำนานมาจนถึงวันนี้ ผู้หญิงคนนั้นที่พยายามร้องเรียกคนชื่อแก้วให้มาปล่อยเธอไป

เพื่อนเล่าให้ฟังว่ารุ่นพี่ที่ชื่อแก้วนั้นมีเยอะแยะมากมายตั้งแต่รุ่นแรกๆแต่จะมีคนหนึ่ง แค่คนเดียวเท่านั้นที่รถชนประสานงาตายคาที่ที่ไม่ไกลจากหน้าโรงเรียนนักตอนที่เพิ่งเสร็จพิธีจบการศึกษาไป

ฉันไม่ได้ตัดสินใจว่าสิ่งที่เพื่อนเล่าถูกต้องแค่ไหนเพราะฉันไม่รู้เรื่องราวว่าความจริงเป็นอย่างไร

รู้แค่ว่าในน้ำเสียงนั้นที่ได้ยินมันยังทำให้ฉันกลัวจนขนลุกไม่มีวันลืม

ขอบคุณภาพปก

ภาพโดย Herm จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์