อื่นๆ

เสียงหลอนจากข้างห้อง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เสียงหลอนจากข้างห้อง

"สิ่งที่เห็น ไม่ใช่เพียงแค่จิตนึกคิด สิ่งที่ได้ยิน ไม่ใช่เพียงแค่หูแว่วไปเอง" เรื่องเล่านี้มากจากการได้ยินมากับตัวเอง จึงเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง คือดิฉันอาศัยอยู่หอพักแห่งหนึ่ง ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ซึ่งในตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมพอดี เด็กนักศึกษาก็พากันกลับบ้านหมด เหลือเพียงแค่สามห้อง ซึ่งหอที่ดิฉันอยู่มีเพียงสองชั้น มีเพื่อนร่วมหออีกสองห้อง ที่อยู่ชั้นล่าง ซึ่งเหลือแค่ห้องดิฉันคนเดียวที่ชั้นบน ดีที่มีห้องถัดจากห้องของดิฉันไป คือเพื่อนของดิฉันเอง แต่เพื่อนก็กลับบ้าน จึงมีคนอยู่น้อยมาก เหมือนกับดิฉันอยู่ห้องชั้นบนคนเดียวเลยก็ว่าได้ ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมดิฉันไม่กลับบ้านเหมือนคนอื่นๆเขา เพราะดิฉันต้องทำงานพาสไทม์หาเงินส่งตัวเองเรียนค่ะ

อยู่มาคืนหนึ่ง ดิฉันเลิกงานกลับมาถึงหอพัก เวลา 22:30 น. บรรยากาศก็แสนจะเงียบเหงาวังเวง เสียงที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟพอรำไรเพียงดวงเดียวที่สาดส่องมา จากทางบันไดเดินขึ้นชั้นสอง ดิฉันมองไปรอบข้าง เดินผ่านชั้นหนึ่ง สองห้องที่เห็นว่าเคยอยู่ก็พากันดับไฟ คงนอนกันหมดแล้ว ดิฉันจึงรีบเดินอย่างรวดเร็วแล้วเข้าห้องในทันทีบันไดขึ้นชั้น 2 ที่แสนน่ากลัว ในขณะที่ดิฉันอาบน้ำอยู่ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! ดิฉันได้ยินเสียงคนเหมือนเปิดปิดประตูตัวเสื้อผ้า อี๊ด....แอด....เสียงดังมาจากห้องข้าง ในตอนนั้นดิฉันบอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดไปเอง เราอาจจะหูแว่วระแวงไปเอง จนกระทั่งอาบน้ำเสร็จ เสียงดีก็ดังขึ้น ดังขึ้น...เป็นระยะ ดิฉันจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลงฟัง เร่งเสียงเพลงดังแบบสุดๆ แต่ก็ยังได้ยินเสียงเหมือนคนอยู่ในห้องกำลังเปิดปิดประตู ดิฉันก็ตั้งสติมานั่งคิดไตร่ตรองดูว่าเสียงมันดังมาจากห้องใคร เพราะชั้นมีเพียงห้องดิฉันที่อยู่ และห้องของดิฉันก็อยู่ริมสุด ของตึก ซึ่งถ้าจะมีก้องข้างๆก็คือเพื่อนของดิฉัน แต่เพื่อนก็กลับบ้าน แต่เอ๊ะ!ดิฉันก็สงสัยเป็นอย่างมาก จึงรวบรวมความกล้าเอียงหูฟัง ใช่ มันใช่จริงๆเสียงนั้นดังมาจากห้องข้างๆ ซึ่งดิฉันก็เปิดเพลงเสียงดังมากๆ แต่ก็ยังได้ยินเสียง อี๊ด....แอด.... อี๊ดแอด มานานมาก ตอนนั้นดิฉันเริ่มรู้สึกกลัว ขนหัวลุกไปหมดมือไม้ก็สั่น เข้าขั้นที่เรียกว่าจิตตกไม่รู้จะร้องเรียกให้ใครช่วย เพราะมันดึกมากแล้ว ไม่กล้าแม่ที่จะปิดไฟ และก็ไม่กล้าแม้ที่จะเปิดประตูออกไป ภาพถ่ายเสียงหลอนจากห้องข้างๆ ดิฉันก็นั่งกลัวอยู่นานมาก ทั้งเหนื่อยมาจากงาน อยากนอนพักผ่อน แต่มาได้ยินเสียงแบบนี้แล้ว ไม่กล้าที่จะข่มตาหลับเลยด้วยซ้ำ กลัวไปหมด ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงหยิบสร้อยพระมาถือไว้ แล้วคิดอยู่นานว่าจะโทรไปถามเพื่อนดีมั้ย ว่ามีใครมาอยู่ห้องเธอรึเปล่า แต่ตอนที่ดิฉันเดินผ่านห้องเพื่อนก็ล็อคด้วยแม่กุญแจอยู่ด้านนอกอยู่นะ แล้วจะมีคนอยู่ในนั้นได้อย่างไร นั่งคิดอยู่นาน มันก็ดึกมากแล้ว อาจจะไม่เหมาะสม ไปรบกวนเพื่อนรึเปล่า ดิฉันก็ยังไม่โทรไปหาเพื่อน แต่ในมือนั้นก็ยังกำสร้อยพระไว้แน่น พอสักพัก เสียงนั้นก็ค่อยๆเงียบหายไป จึงทำให้ในคืนนั้นดิฉันไม่กล้านอน ไม่แม้ที่จะคิดปิดไฟ ในหัวมีความคิดแวบๆเข้าว่า ถ้าไฟดับดิฉันจะทำไง ดิฉันจะไม่ช็อคตายก่อนหรอ ภาวนาขออย่าให้ไฟดับเลย ดิฉันก็นั่งฟังเพลงเปิดแบบเสียงดังๆ แบบนี้ไปทั้งคืน โดยไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน พอรุ้งเช้าสะดุ้งตื่น รีบคว้าโทรศัพท์กดโทรหาเพื่อนเลยทันที คำแรกที่ดิฉันถามเพื่อนว่า เธอๆห้องเธอมีคนอยู่มั้ย หรือว่าเธอกลับมาจากหรอ (เพื่อนก็ตอบแบบงง ว่าก็ไม่นะ มีอะไรหรือเปล่า เราก็อยู่บ้าน จะมีคนไปอยู่ได้อย่างไร) เพียงเท่านั้นแหระ ชัดเลย ดิฉันจึงมั่นใจว่า เมื่อคืนดิฉันเจอดีเข้าให้แล้ว แต่ดิฉันก็ไม่ได้บอกเพื่อนว่าเจออะไร ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยกับเพื่อน ว่าแค่ถามดูเล่นๆขำๆน่ะ แต่ในใจคิดแล้วว่าถ้าเพื่อนรู้ เพื่อนอาจจะกลัวได้ จึงไม่อยากทำให้เพื่อนวิตกกังวล

Advertisement

Advertisement

ดิฉันรีบอาบน้ำแล้วไป ถวายสังฆทานทำบุญที่วัด เพราะกลัวมาก ดิฉันต้องเลิกงานดึกกลับห้องคนเดียวทุกคืน เรื่องหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องตลกขำๆ แต่สำหรับดิฉันแล้วถ้าใครได้เจอกับตัวเอง ได้มายืนในจุดที่ดิฉันยืนในคืนนั้น มันน่ากลัวและร้องขนาดไหน เสียงที่ดังมาจากห้องข้างๆเรา เสียงมาจากไหนโดยไม่รู้สาเหตุ #จึงขอฝากไว้เป็นอุทาหรณ์์ว่าควรเลือกหอพักที่ดี ควรใช้สติอยู่เหนือความกลัวทุกสิ่ง บางครั้งเราอาจจะคิดว่าสมองสั่งให้เราคิดไปเองก็ได้ แต่แท้ที่จริงแล้วมันอาจคือเรื่องจริง ที่ใครได้เจอแล้วต้องฝันร้ายนอนผวาทุกคน

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์