อื่นๆ
วันชื่นคืนผี

ภาพประกอบเป็นภาพของผู้เขียน
วันที่หลายๆ คนมีความสุข แต่อาจจะเป็นวันทุกข์แสนสาหัสของใครอีกคน!
เรื่องเล่าจากลุงทองชายชราวัย 75 ปี รูปร่างสูงใหญ่ แม้ใบหน้ามีริ้วรอยแห่งกาลเวลา แต่ลุงทองก็ยังมีเค้าความหล่อหลงเหลืออยู่
ลุงทองเคยเอารูปสมัยเป็นหนุ่มฉกรรจ์ให้ดู ฉันถึงกับร้องว้าว! ถ้าหากว่าแกเข้าวงการบันเทิง ตำแหน่งพระเอกก็คงเป็นของแกอย่างแน่นอน
ฉันมักจะแวะเวียนไปคุยกับลุงทองบ่อยๆ เพราะชอบที่แกเล่าเรื่องสมัยก่อนให้ฟังแล้วบรรยายจนเห็นภาพ เหมือนว่าเราย้อนอดีตไปอยู่ในสมัยที่ลุงทองเป็นหนุ่ม
เรื่องที่ทำให้ฉันขนลุกขนชันก็คือ เรื่องผีที่เป็นประสบการณ์ตรงของลุงทองเอง เริ่มจากลุงทองมีคนรักชื่อชบา ซึ่งเป็นคนสวย แต่ฐานะยากจน ต่างจากลุงทองที่พ่อแม่มีอันจะกิน มีไร่หลายร้อยไร่และเป็นเถ้าแก่เงินกู้
Advertisement
Advertisement
ความรักของลุงทองกับชบาจึงเป็นรักที่ซ่อนเร้น ไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ แต่ลุงทองสัญญากับชบาว่าจะรักเธอเพียงคนเดียวและจะหาทางอยู่กินด้วยกันให้ได้
ทุก ๆ คืนลุงทองจะมาคุยกับชบาที่กระท่อมของเธอ พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ว่าอะไร แต่ก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ สมัยนั้นเขาจะจุดตะเกียงให้แสงสว่าง โดยใช้น้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิง
หนุ่มสาวทั้งสองคุยกันจนตะเกียงน้ำมันก๊าดหมด ลุงทองจึงกลับบ้าน ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ทุกคืน แต่ความลับไม่มีในโลก พ่อแม่ของลุงทองรู้เรื่องนี้จึงจับลุงทองแต่งงานกับลูกสาวของเพื่อนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน
ระหว่างเตรียมงานแต่ง พ่อแม่ของลุงทองไม่ให้แกออกจากบ้าน กักบริเวณและมีคนงานเฝ้าเพราะกลัวลุงทองจะแอบไปหาชบาแล้วพากันหนีไปอยู่ที่อื่น
ชบารู้เรื่องลุงทองจะแต่งงาน เธอเสียใจ ทุกๆ วันจมอยู่กับความทุกข์และร้องไห้ ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง พ่อแม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจ
Advertisement
Advertisement
ชบารักลุงทองมากเกินไป เธอตรอมใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนร่างกายผ่ายผอม พ่อแม่ของเธอก็ทุกข์ไปกับลูกด้วย
วันแต่งงานของลุงทองกับเจ้าสาวผู้ร่ำรวย ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติที่บ้านของฝ่ายหญิง มีแขกมาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก แต่ลุงทองไม่ยิ้ม สีหน้าอมทุกข์ เมื่อได้เวลาส่งตัวเข้าหอ ลุงทองนอนห่างจากเจ้าสาว ซึ่งเธอเข้าใจดีว่าถูกบังคับให้แต่งงานจึงให้เวลาลุงทองปรับตัว
Advertisement
Advertisement
ตกดึกคืนนั้น ลุงทองนอนไม่หลับ ต่างจากเจ้าสาวที่หลับสนิท ลุงทองเปิดหน้าต่างแล้วมองออกไป แกเห็นพระจันทร์เต็มดวงลอยเหนือภูเขาและยอดไม้ จู่ ๆ อากาศหนาวจนเย็นยะเยือก
“พี่ทอง พี่ทอง มาหาฉันหน่อย”
ลุงทองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย แกคิดว่าหูฝาด กระทั่งได้ยินเป็นครั้งที่สอง แกจึงรู้ว่าเป็นเสียงของชบา
ลุงทองเห็นร่างเป็นเงาดำๆ ยืนใต้ต้นไม้ พร้อมกับกวักมือเรียก ลุงทองอยู่ไม่ได้แล้วจะต้องไปหาชบาคนรัก แกย่องออกจากห้องและลงบันไดบ้านไปอย่างเงียบเชียบ
ลุงทองวิ่งไปหาชบาที่ยืนรอ พอแกเดินเข้าไปใกล้ ชบากลับเดินถอยห่างออกไปไม่ยอมให้แกเข้าใกล้หรือแตะต้องเนื้อตัว
“ชบาจะหนีพี่ไปไหน ขอพี่กอดให้ชื่นใจจะได้ไหม”
ลุงทองพูดพลางวิ่งตามคนรักที่ก้าวเดินช้าๆ แต่ก็แปลกลุงทองวิ่งตามเร็วแค่ไหนก็ไม่ถึงตัวเธอสักที จนแกเหนื่อย ไม่มีแรง ชบาจึงหันหน้ามามองแล้วร้องไห้
“ฉันมาลาพี่ ฉันขอให้พี่มีความสุขกับชีวิตคู่”
ชบาร้องไห้สะอึกสะอื้น ลุงทองเห็นใบหน้าขาวซีดเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา แกโผเข้ากอด แต่ก็คว้าอากาศ แกไม่อาจกอดคนรักได้เลย
“ชบา ทำไมพี่ถึงกอดชบาไม่ได้”
ชบายิ้มเศร้าๆ แล้วยกมือโบกไปมาเป็นการบอกลาและร่างเธอหายวับไปกับตา ทว่าลุงทองก็ยังได้ยินเสียงสะอื้นดังกังวานในความมืด ลุงทองขนลุกซู่ แต่ก็ตะโกนเรียกชื่อชบาติดกันหลายครั้ง จนแกหน้ามืดเป็นลมแล้วล้มลง
เมื่อลุงทองฟื้นขึ้นมาจึงเดินกลับบ้านด้วยความกังวลและถามตัวเองว่าสิ่งที่เห็นเป็นจริงหรือว่าแกละเมอเดินลงบ้านแล้วฝันถึงชบา
รุ่งเช้าลุงทองได้รับข่าวร้าย ชบาผูกคอตายในห้อง แกเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้ชบาตาย ลุงทองทั้งรักและสงสารเธอ แม้ว่าชบาตายไปแล้ว แต่วิญญาณก็ยังมาบอกลา
จากวันนั้นเป็นต้นมา ลุงทองทำบุญใส่บาตรให้ชบาทุกวันและหวังว่าชาติหน้ามีจริงขอให้ได้ครองคู่กับเธอ
ส่วนเจ้าสาวของลุงทองก็แยกทางกันหลังจากอยู่กินกันไม่ถึงปี ลุงทองจึงครองตัวเป็นโสด ไม่มีผู้หญิงใหม่เพราะหัวใจของแกมอบให้ชบาแต่เพียงผู้เดียว
ภูต เภตรา

ดิฉันมีอาชีพเป็นนักเขียน เขียนงานได้ทุกแนว นิยาย บทความ สารคดี เขียนให้กับ สนพ.และเขียนนิยายขายออนไล
ความคิดเห็น
