ไลฟ์แฮ็ก
ทัศนคติกับปัญหาของมนุษย์!!!สังคมในที่ทำงาน
เมื่อความคิดของคนในที่ทำงานเป็นปัญหาในระยะยาวในการพัฒนา
เชื่อว่าทุกคนทุกเพศในอายุที่อยู่ในรอยต่อระหว่างเพิ่งเรียนจบไปจนถึงผู้อาวุโสในที่ทำงาน ต้องพบเจอกับอุปสรรคที่มาในรูปแบบของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมีผลในชีวิตการทำงานเป็นอย่างมาก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มิตรภาพในสังคมการทำงานนั้นต้องใช้ประโยคที่ว่า
"ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่จีรัง" จริงๆ เด็กใหม่หรือพนักงานใหม่จำนวนมากที่ได้ก้าวเข้ามาเริ่มต้นในโลกทำงานใบใหม่ ซึ่งน้อยมากๆที่จะเป็นโลกในแบบที่ทุกคนจินตนาการไว้หรือเป็นเหมือนที่เดิมๆที่เคยผ่านมา แต่ก็หนีไม่พ้นความเป็นจริงที่เกินจะบรรยาย
เมื่อคุณก้าวขาเข้ามาสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมเลย ไม่ใช่ความรู้ทั้งชีวิตที่เรียนมา แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องเตรียมสภาวะจิตใจให้แข็งแกร่งตลอดเวลา ความอดทนอดกลั้น ความสุภาพ มารยาทในสังคม ที่ไม่เคยเป็นหัวข้อเรียนหลักในชั้นเรียน ทุกอย่างที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นต้องใช้จริงในที่ทำงาน พอคุณเข้ามาเป็นพนักงานคนใหม่ คุณจะเป็นที่สนใจและกลายเป็นหนูทดสอบ จะมีรุ่นพี่มากมายที่แวะเข้ามาทักทายแนะนำมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป เราต้องคิดและไตร่ตรองคำพูดของคนให้มากขึ้นจนอาจจะกลายเป็นความเครียดสะสมในอนาคตข้างหน้า
Advertisement
Advertisement
แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยากแชร์แนวคิดไว้ให้คนรุ่นใหม่ที่จะก้าวมาในโลกใบใหม่ของผู้ใหญ่แต่ละยุคสมัยที่ทำงาน คุณจะเจอคนหลายยุคหลายสมัยมากๆ
การเตรียมความพร้อมในการทำงาน ขอแนะนำให้ใช้ทัศนคติเข้าสู้ คุณจะเจอกับแนวคิดคำแนะนำเดิมๆที่ว่า "ไม่ต้องทำเยอะหรอก เดี๋ยวเหนื่อย " หรือ "ทำงานตามเงินเดือนก็พอนะ" ซึ่งถ้าหากคุณเจอบุคคลที่ใช้คำพูดเช่นนี้ในการแนะนำคุณ ขอให้คุณถอยห่างออกมา อย่าเอาความเชื่อใจและความสามารถของคุณไปวางไว้ที่คำพูดเช่นนี้ของพวกเขา คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมจึงบอกให้ถอยห่างในเมื่อการทำงานแค่ในส่วนของเราไปเรื่อยๆก็พอแล้วไม่ใช่หรือ ? คำตอบคือ การที่คุณเชื่อและทำตามคำพูดแบบนี้ แปลว่าคุณได้ปิดประตูการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ในงานด้านอื่นๆไปทันที เพราะคุณจะกลายเป็นคนที่ไม่ทำ ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่เคยทำ และไม่อยากทำอะไรที่มันเกินกว่าที่คุณเคยทำเลย
Advertisement
Advertisement
ในยุคสมัยนี้มันหมดยุคประจบเลียแข้งเลียขา มันมาอยู่ในยุคที่ความคิดเห็นและการแสดงออกทางความคิดเห็นเป็นจุดขายในงานแทบจะทุกชนิด ผู้บริหารเขามองคนที่ทัศนคติ ไม่ใช่จำนวนงาน ผู้บริหารเขามองงานที่คุณภาพของความถูกต้อง ไม่ใช่ความเร็วในการเคลียงาน ผู้บริหารเขามองความรับผิดชอบต่องานที่คุณได้รับมอบหมาย ไม่ใช่มองหาจำนวนผลสำเร็จของงาน ถ้าคุณเชื่อเขาคุณไม่มีทางที่จะเติบโตในหน้าที่การงานนั้นแน่ๆ
ตัวอย่างเช่น เป็นเด็กใหม่ให้ไปถ่ายเอกสาร ถ้าคุณไม่เคยถ่าย คุณก็จะได้ถ่ายจนคุณแทบจะไม่ต้องมองเครื่องถ่ายเอกสารก็รู้ว่าปุ่มกดอยู่ตรงไหน เรียกได้ว่าชำนาญจนกลายเป็นเคยชิน แต่คุณเห็นอะไรหรือเปล่า งานที่คุณได้ทำ= ถ่ายเอกสารตลอดไป เพราะคุณไม่เคยเดินไปขอลองทำงานอย่างอื่นเพื่อพิสูจน์ว่า จบมาไม่ได้จะมายืนถ่ายเอกสารนะคะ
มีงานอื่นให้ลองฝึกทำอีกไหมคะ/ครับ มีงานอื่นให้ช่วยทำอีกไหมคะ/ครับ ถ้าคุณรอให้เขาบอกว่าจะให้คุณหยุดถ่ายเอกสารตอนไหน เวลามันอาจจะล่วงเลยไปเป็นปีแล้วก็ได้
Advertisement
Advertisement
หากคุณกำลังกลัวเหนื่อยในการทำงาน และยังคงหาเหตุผลที่จะไม่ทำงานอยู่ในแต่ละวัน คุณก็อย่าถามตัวเองว่าทำไมฉันไม่ได้เลื่อนขั้นเหมือนคนนั้นนะ ,ทำไมทุกคนถึงได้ดีแบบนั้นนะ ,ฉันทำงานไม่ดีตรงไหน ,หรือฉันไม่ประจบหรือเข้าหาเจ้านายหรอ อย่าแม้แต่จะคิดคำถามพวกนี้ขึ้นมา เพราะคุณเองทั้งนั้นที่ปล่อยโอกาสดีๆที่จะแสดงความสามารถในชีวิตของคุณไป มีการทำงานที่ไหนบ้างที่ไม่เหนื่อย คำตอบคือก็ไม่มีงานทำไงจึงไม่ต้องเหนื่อย การทำงานต้องเหนื่อยเสมอ เพราะเราต้องลงมือทำ แต่ทำอย่างไรจึงจะเติบโตไปด้วยได้ ต้องใช้ทัศนคติของคุณมาช่วยเร่งการเติบโต ถ้าคุณคิดไม่ดีตั้งแต่วันนี้ ต้นไม้ของความก้าวหน้าของคุณก็จะต้องรอน้ำมารดแค่ตอนที่ฝนตก อย่าให้คำแนะนำของใครมาดึงโอกาสที่จะพัฒนาตัวของคุณ คำพูดเอาชนะได้ด้วยความคิดที่ต่าง หากเราทำเหมือนเขาก็จะอยู่อย่างเขาไปอีกพันปี 😂
เป็นกำลังใจให้คนที่กลัวการเติบโตในที่ทำงานนะคะ
อยากให้เข้าใจว่า คำพูดแสนสุภาพ เหมือนห่วงใยแต่ส่งผลร้ายในระยะยาว ไม่ใช่ความหวังดีที่งดงามแต่เป็นขวากหนามให้คุณก้าวข้ามไป
ถ้าคุณผ่านมันมาได้แล้วในวันนึง แล้วหันกลับไปมองคนเหล่านั้นที่แนะนำคุณ คุณไม่ต้องแปลกใจที่เขาจะยังคงนั่งมองดูคุณอยู่ตรงที่เดิม อยู่ตรงนั้นมาเนิ่นนานและจะคงเป็นเช่นนั้นต่อไป
ขอขอบคุณเครดิตภาพ (ปก,1,2,3,4)จาก : Manfred Steger /Pixabay
ภาพปก / ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น