ทางผ่านของใครกัน

บ้านเราได้สร้างขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา อยู่ทิศตะวันออกหลังแรกของหมู่บ้าน นับจากบ้านเรามา 2 หลังก็เป็นบ้านญาติ แต่ก่อนที่ตรงสร้างบ้านเป็นป่าและเป็นที่ของคนอื่น แต่ก็ได้ซื้อไว้สร้างบ้าน เมื่อสร้างเสร็จก็ได้ทำบุญบ้านแล้วก็อยู่อาศัย

ครอบครัวเราอยู่ด้วยกัน 3 คน พ่อแม่ ลูก หลังจากอยู่ไปได้สักพัก วันนั้นเป็นวันพระใหญ่ คืนนั้นได้นอนอยู่บ้านกันทุกคน ตอนดึก ๆ หมาจะเหาหอนดังกว่าทุกคืน ทีแรกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็หลับตานอนต่อ พอเสียงหมาได้หยุดเหาหอน เสียงระแวกบ้านเงียบวังเวงมาก เงียบจนขนลุก

แต่เราได้ยินเสียงคนเดินพูดคุยกันเป็นคนจำนวนมากเลยทีเดียวผ่านข้างบ้านเราไป เป็นเสียงคนแปลก ๆ ฟังแล้วขนลุกไปทั้งตัว เรากลัวและตกใจมาก  คิดอยู่ 2 อย่างว่าคนจะมาปล้นหรือเป็นผีหลอก แต่ไม่กล้าปลุกพ่อกับแม่ เพราะกลัวมาก  คืนนั้นนอนไม่หลับทั้งคืน  ตื่นเช้ามา ได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้พ่อแม่ฟัง แม่บอกว่าไม่ใช่โจรหลอก แต่อาจเป็นคนสมัยก่อนได้เดินผ่านบ้านไป เพราะเป็นทางเก่าหรือถนนเก่าตั้งแต่สมัยโบราณ หรือเรียกอีกอย่างว่า ทางผีผ่าน

1 เดือนผ่านมาพ่อและแม่ได้ทำประตูหน้าบ้าน เพื่อความปลอดภัยของบ้าน ทำประตูได้ 1 สัปดาห์ แม่ไม่สบายติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ไปหาหมอแล้วก็ไม่หาย เริ่มเอะใจ จึงไปหาหลวงปู่ว่าทำไมไม่สบายแล้วไม่หายสักที เป็นเพราะที่ของบ้านหรือป่าว หลวงปู่บอกว่าไปทำอะไรขวางทางเขาหรือป่าว หลวงปู่บอกแค่นั้นแหละ แม่คิดได้อยู่ว่าเเม่ทำประตูหน้าบ้าน หลวงปู่บอกให้ทำทางเข้าบ้านใหม่ และทางเข้าบ้านเก่าห้ามมีอะไรขวางทางเขา หรือห้ามมีอะไรขวางทางผีผ่าน เพราะฉะนั้นจะเจ็บป่วยอยู่ตลอด จะอยู่ไม่เป็นสุข แม่ก็เลยทำทางเข้าบ้านใหม่ และได้นำศาลพระภูมิมาไว้ข้างทางผีผ่าน  ทุก ๆ วันพระก็ได้นำดอกไม้ธูปเทียนบูชาบอกกล่าวเจ้าที่ เพื่อจะได้ปกปักรักษาให้อยู่ดีมีสุข

ทางผ่านของคนสมัยก่อนหรือทางผีผ่านนั้น ถ้าจะสร้างบ้านหรือทำร้านค้าขายของหรืออื่น ๆ อย่าทำขวางทางผีผ่าน ถ้าทำขวางทางไว้ จะทำให้ไม่สบายอยู่ตลอด อยู่ไม่เป็นสุข ค้าขายไม่ขึ้น ถ้าจะสร้างบ้านก็ให้ถามคนแก่หรือผู้ใหญ่ที่มีอายุเยอะว่าที่ตรงนั้นมีอะไรหรือป่าว จะได้อยู่เป็นสุขไม่เจ็บไข้ได้ป่วย