อื่นๆ
ประสบการณ์หลอน...โดนผีโพงหลอก

คุณรู้จักผีโพงไหม มีเรื่องเล่าลือมากมายเกี่ยวกับผีโพง หรือถ้าคุณเข้าไปค้นใน Google คุณก็จะพบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับผีโพง ข้อมูลตามวิกิพีเดียบอกว่า ผีโพง เป็นผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของคนชาวภาคเหนือ ซึ่งเกิดจากคนที่เล่นไสยศาสตร์แล้วควบคุมวิชาในตัวเองไม่ได้ ผู้ที่เป็นผีโพงในตอนกลางวันจะมีลักษณะธรรมดา ๆ เหมือนคนทั่วไป แต่พอตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นผีโพง ผีโพงจะมีแสงสว่างหรือดวงไฟที่รูจมูกและออกหากินอาหารซึ่งได้แก่ กบ เขียด ปลา ศพ หรือรกเด็กเกิดใหม่
ในวันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์จริงที่เราพบเจอกับผีโพงให้ได้ฟังกัน แต่เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ ไม่ใช่ผีโพงภาคเหนือแต่คือผีโพงของภาคอีสานค่ะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
เราเป็นเด็กบ้านนอกคนนึง บ้านเกิดเราคือศรีสะเกษ หมู่บ้านที่เราอยู่คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา วิถีชีวิตบ้าน ๆ ที่เด็กอย่างเราชอบทำคือการใส่เบ็ด เราชอบไปใส่เบ็ดกับพี่ ๆ เรามาก เรามีพี่ชาย 2 คนค่ะ ทุก ๆ วันพวกเรา 3 พี่น้องจะชอบไปใส่เบ็ดที่ทุ่งนาหลังหมู่บ้านเป็นประจำ และวันนี้ก็เช่นเดิม เวลา 6 โมงเย็น เรา 3 คนพากันไปปักเบ็ดไว้ และเดินเลาะเบ็ดกลับไปกลับมา 2 รอบ ได้ปลา 2 ตัวกลับบ้านและดึก ๆ เราจะกลับมายามอีกพร้อมเก็บกู้เบ็ดด้วย
Advertisement
Advertisement
ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มตรง ได้เวลาที่พวกเราจะออกไปยามเบ็ดแล้ว พี่ ๆ เตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้ว พวกเราออกเดินทางพร้อมไฟฉายอันใหญ่ 1 อันที่หัวของพี่คนโต เดินเรียงตามกันไปที่ที่เราปักเบ็ดไว้เมื่อตอนหัวค่ำที่ผ่านมา คืนนี้เราได้ปลากันเยอะเลย และเหมือนยังมีปลาในน้ำเหลืออีกเยอะ ( พี่เราว่างั้นนะ ) พวกเราเลยอยู่ต่อกันดึกหน่อย
ปักไปเดินยามวนไป บางทีก็นั่งเล่น เราก่อกองไฟเผาปลากินกันบางส่วน เรานั่งกินปลาเผาอยู่กับพี่คนโต 2 คน ส่วนพี่คนรองออกไปเดินยามเบ็ดอยู่ สักพักพี่คนรองก็วิ่งมาด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนกและเหนื่อยหอบ พอวิ่งมาถุงแกรีบมุดเข้ามาซุกพี่คนโตและกระซิบบอกเบา ๆ ด้วยเสียงที่เหนื่อยหอบว่า ผีหลอก แล้วเล่าให้พวกเราฟัง แกบอกว่า ในขณะที่แกเดินยามเบ็ดอยู่ ๆ ก็แกเห็นแสงสีส้มวาบ ๆ อยู่คันนาถัดไปถึงมองไม่ค่อยถนัดเพราะมีต้นข้าวบังอยู่แต่แกก็มั่นใจว่าเป็นผีแน่ ๆ เพราะไม่ได้ยินเสียงใครเลย พี่คนโตเราทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ และพูดว่า " อย่ามาอำเลย ไม่เชื่อหรอก ผีมีที่ไหนล่ะ " แล้วก็มีเสียงหนึ่งที่พูดอย่างเอื่อยเฉื่อยดังขึ้นมาว่า " ทำไมจะไม่มีล่ะ " เราทั้งสามหันไปที่กองไฟที่เป็นที่มาต้นเสียงนั้น สิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเราทั้งสามคือ คน ๆ หนึ่งซึ่งจะว่าคนก็คงไม่ใช่ ตัวมันเหมือนคน แต่ใบหน้าของมันนั้นมีแสงสว่างสีส้มเรืองแสงออกมาจนมองเห็นได้ชัด สว่างยังกับไฟฉายที่หัวของพี่คนโตยังไงยังงั้นแหละ มันมีตาที่โตเกินคนปกติ ดูปูดโปนถลนออกมาจากเบ้า นัยน์ตาสีแดงฉาน จมูกโตและรูจมูกก็ใหญ่มาก ๆ ปากและมือของมันเต็มไปด้วยเลือดปลาของเราที่ใส่เบ็ดมาได้ มันนั่งยอง ๆ อยู่ข้างกองไฟ และขโมยปลาในข้องของเรากินอย่างหิวโหย พวกเราตัวสั่นระริก เราจับแขนพี่ชายคนโตอย่างแน่น และจิกเล็บด้วยความหวาดกลัว พวกเรามองหน้ากัน แล้วรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ทิ้งทุกอย่างไว้ที่ตรงนั้น แล้ววิ่งกลับบ้าน ไม่มีใครสนใจปลาที่หามาได้ตั้งมากมายเลยสักคน
Advertisement
Advertisement
เมื่อถึงบ้าน พวกเราทุกคนเข้าไปรวมตัวกันที่ห้องของคุณตาและเล่าให้แกฟัง แกบอกว่ามันคือผีโพง ผีโพงไม่ทำร้ายคนแต่จะชอบหลอกให้กลัว ถ้าเราไม่ทำอะไรมันมันก็น้อยนักที่มันจะทำเรา แล้วคุณตาก็ให้เราไปไหว้พระและอาบน้ำนอน หลังจากวันนั้นพวกเราทั้งสามคนก็หยุดไปใส่เบ็ดกันนานเป็นเดือนเลยล่ะค่ะ
จะว่าไปแล้ว ผีโพงในภาคอีสานที่เราเจอก็คล้ายผีโพงของภาคเหนือเหมือนกันนะคะ ไม่รู้ว่าของภาคเหนือจะน่ากลัวแค่ไหน แต่จะบอกว่าของภาคอีสานน่ากลัวมากค่ะ ถึงมันจะไม่ได้ทำอะไรเราก็เถอะ แต่วันนั้นเราก็ไม่ได้ปลากลับมาบ้านเลยสักตัว และหลังจากวันนั้นพ่อเรากลับไปที่เกิดเหตุเพื่อจะไปเอาอุปกรณ์หาปลาที่พวกเราเอาไปแต่ก็ไม่เจอแล้ว เจอแต่กองไฟและซากปลาเผาที่เรากิน พ่อบอกว่าคงมีชาวบ้านเอาไปแล้วล่ะ แต่เราและพี่ ๆ คิดว่าผีโพงต้องเอาไปแน่เลย แต่มันจะเอาไปทำอะไรล่ะ อาจจะเอาไปซ่อนแกล้งเราก็ได้นะ ใครจะรู้...หึหึหึ
ความคิดเห็น
