อื่นๆ
ห้องเฮี้ยน...เตียงหลอน

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อผมและเพื่อนต้องเดินทางไปทำงานในจังหวัดอุดรธานี เราจึงต้องหาที่พักค้างคืน เพื่อเตรียมตัวทำงานในเช้าวันถัดไป ...
ตัวละครหลักมีเพียงผม กับ เคน ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน งานของเราต้องเดินทางบ่อยๆ ดังนั้นการนอนโรงแรมจึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกลัวอะไร ?
แม้จะแปลกไปบ้างที่ผมซึ่งเป็นผู้ชาย ต้องนอนห้องเดียวกับเคนที่เป็นผู้หญิง เราทำงานด้วยกันมานานและสนิทกันมาก ปกติก็นอนห้องเดียวกันบ่อยอยู่แล้วแต่แยกเตียงกัน
งานของเราคือการรับจัดสัมมนา...โดยดูแลทั้งระบบ งานนี้ลูกค้าจัดอบรมทีมขายภาคอีสาน เราจึงส่งทีมงานไปตามจังหวัดต่างๆเพื่อรับลูกค้าไปยังสถานที่จัดสัมมนาในจังหวัดขอนแก่น ผมกับเคนทำหน้าที่รับลูกค้าจากอุดร
เมื่อไปถึงเราต้องซื้อของว่างเตรียมให้ลูกค้าทานในระหว่างเดินทาง จากนั้นต้องหาที่พักในตัวเมืองเพื่อให้รถตู้มารับเราได้สะดวกก่อนเดินทางไปรับลูกค้าที่บริษัท
Advertisement
Advertisement
งบห้องพักที่บริษัทให้เรามาคือ คืนละ 600 บาท ด้วยงบเท่านี้ เราต้องพักในโรงแรมเล็กๆเท่านั้น
เราเลือกพักโรงแรมเล็กๆในตัวเมือง...ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางไกล เพราะนั่งรถทัวร์มาจากกรุงเทพฯ เลยไม่ได้ขอดูห้องพักก่อน เดินมาถึงลอบบี้ จ่ายเงินแล้วเข้าที่พักทันที ...
ปรากฎว่าเมื่อเข้าห้องไป...สภาพห้องค่อนข้างเก่าและมีกลิ่นอับ แถมผ้าปูเตียงก็ดูสกปรก มีฝุ่นเต็มไปหมด เราก็อดทนนั่งเล่นในห้องอยู่สักพัก
เคนก็พูดออกมาว่า
" ตั้ม ไม่ไหวหว่ะ...นี่อยู่แป๊ปเดียว ผื่นขึ้นที่แขนแล้ว สงสัยเราจะไม่ไหว " เคนเป็นโรคภูมิแพ้ และแพ้ฝุ่นอย่างหนัก เวลาไปที่ไหนที่ฝุ่นมาก มันจะคันและผื่นจะขึ้นเต็มตัว
" เราเปลี่ยนโรงแรมเถอะ เดี๋ยวเราออกค่าโรงแรมใหม่เอง " เคนบอกกับผม
ผมเห็นสภาพเพื่อนว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะแขนมันเริ่มมีผื่นขึ้นมาแล้วเลยตัดสินใจเช็คเอ้าท์ออกทันที ทั้งที่เพิ่งเช็คอินได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
Advertisement
Advertisement
เราออกมาหน้าโรงแรมและขอให้รถสองแถวช่วยพาไปหาโรงแรมสภาพดีที่ราคาไม่เกินหกร้อยบาทต่อคืน
และรถก็พาเรามาส่งที่นี่...สภาพโรงแรมดูใหม่กว่าที่เก่า แต่ไม่ได้ติดถนนใหญ่ต้องเข้ามาในซอยนิดนึง ด้วยความที่เรามีบทเรียนมาแล้ว ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเข้าพัก เราจึงขอดูห้องก่อน...
พนักงานพาเราไปดูห้อง...สภาพห้องไม่ถึงกับใหม่มากแต่ก็สะอาดดี
" เอาห้องนี้เลยค่ะ " เคนบอกกับพนักงาน
" เอ่อ...ห้องนี้เลยหรือครับ ? "
" ค่ะ "
" ตกลง...เอ่อ...จะเอาห้องนี้หรือครับ ? "
" ใช่ค่ะ "
ที่จริงตอนพนักงานถาม สีหน้าเขาดูแปลกๆ แต่พวกเราไม่เอะใจกันเอง ( มาคุยกันทีหลังจึงเข้าใจว่าเพราะอะไร ? )
พอเข้าห้องได้เราก็นอนหลับนิดหน่อย...ก่อนจะตื่นมาตอนเย็นเพื่อกินข้าวและโทรไปนัดหมายรถตู้ให้มารับที่โรงแรมตอนตีห้า
จากนั้นก็ดูทีวีแล้วผมก็เผลอหลับไป
Advertisement
Advertisement
รู้สึกตัวอีกที...น่าจะราวๆตีหนึ่ง สภาพในห้องตอนนั้นปิดไฟหมดแล้ว เหลือเพียงแสงจากทีวีและเสียงที่ดังมาก (ที่ตื่นก็เพราะเสียงทีวีนี่ล่ะ)
หันไปทางเคนก็เห็นคลุมโปงอยู่ คงหลับไปแล้ว ผมหยิบรีโมทที่วางอยู่บนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างเตียงของผมกับเคน และปิดทีวี
พอปิดปุ๊ป...ทั้งห้องก็มืดสนิท
" ปิดทำไม !!! ตั้ม เปิดทีวีเดี๋ยวนี้ !!! จะปิดทำไม !!! " เคนตะโกนโวยวายท่ามกลางความมืด
" เปิด ... เปิด เปิดทีวี !!! "
ผมตกใจหยิบรีโมทเปิดทีวีทันที พลางคิดในใจจะโวยวายทำไม...เรื่องแค่นี้
แล้วผมก็หลับต่อ
ตื่นมาราวตีสี่กว่าๆ เราก็ล้างหน้าแปรงฟัน จัดกระเป๋าแล้วเช็คเอาท์มารอรถตู้ที่ด้านล่างของโรงแรม พอถึงเวลารถตู้ก็มารับ
ขึ้นรถตู้ปุ๊ป...ผมก็ขอนอนพักเอาแรงอีกสักหน่อย
แต่พอรถออกมาถึงปากซอย เคนก็หันมาคุยกับผมทันทีว่า " ไอ้ตั้ม ...ไม่รู้ใช่ไหม? เมื่อคืนเราเจออะไร ? "
" ไม่รู้ ... ว่าแต่โมโหอะไรเมื่อคืน โวยวายซะเสียงดังเชียว...เราปิดทีวีเพราะคิดว่านอนหลับแล้ว " ผมตอบกลับ
" นี่ไม่รู้ใช่ไหม ? .... เราเจอทั้งคืนเลย คือเราหลับไปได้สักพัก ... ก็ได้ยินเสียงโซ่ดังมาจากหัวเตียง จากนั้นเสียงก็ดังวนรอบเตียง เดินไปมาตรงเตียงเรา พอลืมตามา เสียงก็เงียบ...พอหลับตา เสียงก็มาอีก เสียงชัดมาก โซ่ลากพื้น เดินไปมา เราทนไม่ไหว เลยเปิดทีวีเสียงดัง "
" พอหลับตาเสียงก็มาอีก ดังแบบนี้อยู่ทั้งคืน จนต้องคลุมโปง แล้วอยู่ดีๆตอนแกปิดทีวีอ่ะ ห้องมืดหมด เสียงโซ่มันลากขึ้นมาบนเตียงแล้ววนอยู่ใกล้เรามาก เราเลยต้องตะโกนบอกให้เปิดทีวี "
" ตะโกนซะดังลั่น...ไม่เอะใจอะไรบ้างเหรอ หันข้างให้แล้วนอนต่อไม่สนใจเพื่อนเลย "เคนพรั่งพรูสิ่งที่มันอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืน
" น่ากลัวมาก เราไม่กล้าเล่าให้ฟัง ต้องรอให้พ้นเขตโรงแรมมาก่อน "
"เฮ้ย...ขอโทษ เรานึกว่าเคนหลับไปแล้ว ก็งงอยู่...แค่ปิดทีวี ทำไมต้องโวยวายขนาดนั้น "
ระหว่างที่เรากำลังเถียงกันอยู่นั้น พี่คนขับรถตู้ที่คงฟังเราคุยกันอยู่ก็แทรกขึ้นมาว่า ... ผมว่าจะทักตั้งแต่เมื่อวานที่น้องโทรมานัดแล้วว่า" ทำไมมาพักที่นี่ คนพื้นที่เขารู้กันหมดว่าโรงแรมนี้ผีดุแค่ไหน "
เราไม่รู้หรอกว่า...เสียงโซ่ที่ลากไปมานั้น คือภูติ ผี วิญญาณตนใด หรือ เกิดเหตุอะไรขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้ พี่คนขับรถตู้ก็บอกแต่ว่าโรงแรมนี้ผีดุแต่แกก็ไม่ได้เล่าอะไร ... เราเลยย้อนไปถึงตอนที่พนักงานพาเรามาดูห้อง เราคิดว่าเขาเปิดห้องนี้ให้เราดูสภาพห้องเท่านั้น แต่จะให้เราไปพักอีกห้องนึง แต่เคนดันบอกว่าจะเอาห้องนี้ เขาจึงตกใจแล้วถามย้ำกับพวกเราว่า
" ตกลง...จะเอาห้องนี้หรือครับ ? "
บอกไว้ก่อนครับ ถ้าคุณเจอพนักงานโรงแรมถามย้ำแบบนี้
" เปลี่ยนห้องเถอะครับ "
ความคิดเห็น
