อื่นๆ

ห้องเฮี้ยน...เตียงหลอน

6.2k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ห้องเฮี้ยน...เตียงหลอน

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อผมและเพื่อนต้องเดินทางไปทำงานในจังหวัดอุดรธานี เราจึงต้องหาที่พักค้างคืน เพื่อเตรียมตัวทำงานในเช้าวันถัดไป ...

ตัวละครหลักมีเพียงผม กับ เคน ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน งานของเราต้องเดินทางบ่อยๆ ดังนั้นการนอนโรงแรมจึงเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือกลัวอะไร ?

แม้จะแปลกไปบ้างที่ผมซึ่งเป็นผู้ชาย ต้องนอนห้องเดียวกับเคนที่เป็นผู้หญิง เราทำงานด้วยกันมานานและสนิทกันมาก ปกติก็นอนห้องเดียวกันบ่อยอยู่แล้วแต่แยกเตียงกัน

งานของเราคือการรับจัดสัมมนา...โดยดูแลทั้งระบบ งานนี้ลูกค้าจัดอบรมทีมขายภาคอีสาน เราจึงส่งทีมงานไปตามจังหวัดต่างๆเพื่อรับลูกค้าไปยังสถานที่จัดสัมมนาในจังหวัดขอนแก่น ผมกับเคนทำหน้าที่รับลูกค้าจากอุดร

เมื่อไปถึงเราต้องซื้อของว่างเตรียมให้ลูกค้าทานในระหว่างเดินทาง จากนั้นต้องหาที่พักในตัวเมืองเพื่อให้รถตู้มารับเราได้สะดวกก่อนเดินทางไปรับลูกค้าที่บริษัท

Advertisement

Advertisement

งบห้องพักที่บริษัทให้เรามาคือ คืนละ 600 บาท ด้วยงบเท่านี้ เราต้องพักในโรงแรมเล็กๆเท่านั้น

เราเลือกพักโรงแรมเล็กๆในตัวเมือง...ด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางไกล เพราะนั่งรถทัวร์มาจากกรุงเทพฯ เลยไม่ได้ขอดูห้องพักก่อน เดินมาถึงลอบบี้ จ่ายเงินแล้วเข้าที่พักทันที ...

ปรากฎว่าเมื่อเข้าห้องไป...สภาพห้องค่อนข้างเก่าและมีกลิ่นอับ แถมผ้าปูเตียงก็ดูสกปรก มีฝุ่นเต็มไปหมด เราก็อดทนนั่งเล่นในห้องอยู่สักพัก

เคนก็พูดออกมาว่า

" ตั้ม ไม่ไหวหว่ะ...นี่อยู่แป๊ปเดียว ผื่นขึ้นที่แขนแล้ว สงสัยเราจะไม่ไหว " เคนเป็นโรคภูมิแพ้ และแพ้ฝุ่นอย่างหนัก เวลาไปที่ไหนที่ฝุ่นมาก มันจะคันและผื่นจะขึ้นเต็มตัว

" เราเปลี่ยนโรงแรมเถอะ เดี๋ยวเราออกค่าโรงแรมใหม่เอง " เคนบอกกับผม

ผมเห็นสภาพเพื่อนว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะแขนมันเริ่มมีผื่นขึ้นมาแล้วเลยตัดสินใจเช็คเอ้าท์ออกทันที ทั้งที่เพิ่งเช็คอินได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

Advertisement

Advertisement

เราออกมาหน้าโรงแรมและขอให้รถสองแถวช่วยพาไปหาโรงแรมสภาพดีที่ราคาไม่เกินหกร้อยบาทต่อคืน

และรถก็พาเรามาส่งที่นี่...สภาพโรงแรมดูใหม่กว่าที่เก่า แต่ไม่ได้ติดถนนใหญ่ต้องเข้ามาในซอยนิดนึง ด้วยความที่เรามีบทเรียนมาแล้ว ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเข้าพัก เราจึงขอดูห้องก่อน...

พนักงานพาเราไปดูห้อง...สภาพห้องไม่ถึงกับใหม่มากแต่ก็สะอาดดี

ภาพประกอบจาก : pixabay.co.th

" เอาห้องนี้เลยค่ะ " เคนบอกกับพนักงาน

" เอ่อ...ห้องนี้เลยหรือครับ ? "

" ค่ะ "

" ตกลง...เอ่อ...จะเอาห้องนี้หรือครับ ? "

" ใช่ค่ะ "

ที่จริงตอนพนักงานถาม สีหน้าเขาดูแปลกๆ แต่พวกเราไม่เอะใจกันเอง ( มาคุยกันทีหลังจึงเข้าใจว่าเพราะอะไร ? )

พอเข้าห้องได้เราก็นอนหลับนิดหน่อย...ก่อนจะตื่นมาตอนเย็นเพื่อกินข้าวและโทรไปนัดหมายรถตู้ให้มารับที่โรงแรมตอนตีห้า

จากนั้นก็ดูทีวีแล้วผมก็เผลอหลับไป

Advertisement

Advertisement

รู้สึกตัวอีกที...น่าจะราวๆตีหนึ่ง สภาพในห้องตอนนั้นปิดไฟหมดแล้ว เหลือเพียงแสงจากทีวีและเสียงที่ดังมาก (ที่ตื่นก็เพราะเสียงทีวีนี่ล่ะ)

หันไปทางเคนก็เห็นคลุมโปงอยู่ คงหลับไปแล้ว ผมหยิบรีโมทที่วางอยู่บนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างเตียงของผมกับเคน และปิดทีวี

พอปิดปุ๊ป...ทั้งห้องก็มืดสนิท

" ปิดทำไม !!! ตั้ม เปิดทีวีเดี๋ยวนี้ !!! จะปิดทำไม !!! " เคนตะโกนโวยวายท่ามกลางความมืด

" เปิด ... เปิด เปิดทีวี !!! "

ผมตกใจหยิบรีโมทเปิดทีวีทันที พลางคิดในใจจะโวยวายทำไม...เรื่องแค่นี้

แล้วผมก็หลับต่อ

ภาพประกอบจาก : pixabay.co.th

ตื่นมาราวตีสี่กว่าๆ เราก็ล้างหน้าแปรงฟัน จัดกระเป๋าแล้วเช็คเอาท์มารอรถตู้ที่ด้านล่างของโรงแรม พอถึงเวลารถตู้ก็มารับ

ขึ้นรถตู้ปุ๊ป...ผมก็ขอนอนพักเอาแรงอีกสักหน่อย

แต่พอรถออกมาถึงปากซอย เคนก็หันมาคุยกับผมทันทีว่า " ไอ้ตั้ม ...ไม่รู้ใช่ไหม? เมื่อคืนเราเจออะไร ? "

" ไม่รู้ ... ว่าแต่โมโหอะไรเมื่อคืน โวยวายซะเสียงดังเชียว...เราปิดทีวีเพราะคิดว่านอนหลับแล้ว " ผมตอบกลับ

" นี่ไม่รู้ใช่ไหม ? .... เราเจอทั้งคืนเลย คือเราหลับไปได้สักพัก ... ก็ได้ยินเสียงโซ่ดังมาจากหัวเตียง จากนั้นเสียงก็ดังวนรอบเตียง เดินไปมาตรงเตียงเรา พอลืมตามา เสียงก็เงียบ...พอหลับตา เสียงก็มาอีก เสียงชัดมาก โซ่ลากพื้น เดินไปมา  เราทนไม่ไหว เลยเปิดทีวีเสียงดัง "

" พอหลับตาเสียงก็มาอีก ดังแบบนี้อยู่ทั้งคืน จนต้องคลุมโปง แล้วอยู่ดีๆตอนแกปิดทีวีอ่ะ ห้องมืดหมด เสียงโซ่มันลากขึ้นมาบนเตียงแล้ววนอยู่ใกล้เรามาก เราเลยต้องตะโกนบอกให้เปิดทีวี "

" ตะโกนซะดังลั่น...ไม่เอะใจอะไรบ้างเหรอ หันข้างให้แล้วนอนต่อไม่สนใจเพื่อนเลย "เคนพรั่งพรูสิ่งที่มันอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืน

" น่ากลัวมาก เราไม่กล้าเล่าให้ฟัง ต้องรอให้พ้นเขตโรงแรมมาก่อน "

"เฮ้ย...ขอโทษ เรานึกว่าเคนหลับไปแล้ว ก็งงอยู่...แค่ปิดทีวี ทำไมต้องโวยวายขนาดนั้น "

ระหว่างที่เรากำลังเถียงกันอยู่นั้น พี่คนขับรถตู้ที่คงฟังเราคุยกันอยู่ก็แทรกขึ้นมาว่า ... ผมว่าจะทักตั้งแต่เมื่อวานที่น้องโทรมานัดแล้วว่า"  ทำไมมาพักที่นี่ คนพื้นที่เขารู้กันหมดว่าโรงแรมนี้ผีดุแค่ไหน "

ภาพประกอบจาก : pixabay.co.th
เราไม่รู้หรอกว่า...เสียงโซ่ที่ลากไปมานั้น คือภูติ ผี วิญญาณตนใด หรือ เกิดเหตุอะไรขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้ พี่คนขับรถตู้ก็บอกแต่ว่าโรงแรมนี้ผีดุแต่แกก็ไม่ได้เล่าอะไร ... เราเลยย้อนไปถึงตอนที่พนักงานพาเรามาดูห้อง เราคิดว่าเขาเปิดห้องนี้ให้เราดูสภาพห้องเท่านั้น แต่จะให้เราไปพักอีกห้องนึง แต่เคนดันบอกว่าจะเอาห้องนี้ เขาจึงตกใจแล้วถามย้ำกับพวกเราว่า

" ตกลง...จะเอาห้องนี้หรือครับ ? "

บอกไว้ก่อนครับ ถ้าคุณเจอพนักงานโรงแรมถามย้ำแบบนี้

" เปลี่ยนห้องเถอะครับ "

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์