อื่นๆ

ทำไมต้องไปคำชะโนด???

232
ทำไมต้องไปคำชะโนด???

ทำไมต้องไปคำชะโนด???

รูปถ่ายเอง

เอาจริงๆนี้เป็นคนที่ชอบสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "งู" นะ เเต่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพญานาคเท่าไหร่ ไม่ได้ลบหลู่นะเพราะเชื่อในพระพุทธเจ้า เเต่ที่บอกไม่ค่อยเชื่อ คือไม่เคยเห็นไง ก็เคยเห็นแต่ผีอ่ะ #พญานาคไม่ใช่ผีไงเข้าใจป่ะ!

I've never seen Naga, You Know?!!

เอาละ เข้าเรื่อง...คือ ตอนเด็กๆอ่ะที่เคยบอกว่าชอบฝันเห็นงูใหญ่ใช่ป่ะ คือก็คิดแค่ว่า....ก็แค่งูไง คนชอบงูอะฝันเห็นงูไม่แปลกป่ะวะ- - แต่นับวันความ บะเริ่มของงูก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุด!!!

มีอยู่คืนนึงเมื่อสักหน้าฝน2-3ปีก่อน ฝันว่า เดินอยู่ที่โล่งรอบตัวของเรานั้นคือถ้ำหินขนาดใหญ่ ด้านในถ้ำนั้กว้างขวางมาก มีบ่อน้ำหรืออาจจะเป็นอุโมงค์น้ำน้อยใหญ่มากมาย น้ำในบ่อน้ำเป็นสีเขียวใสราวกับมรกตแสงที่ตกกระทบกับหินนั้นทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังอยู่ในถ้ำใต้น้ำ แต่แล้วก็มีคนมัาขัดความเพลินในการชมวิว อยู่ๆก็มี ผู้ชายผิวสีน้ำผึ้ง ร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม ทรงชุดแปลกๆ คล้ายๆในละครแนวพีเรียดที่เกียวกับพวกพญานาค แต่เครื่องทรงส่วนมากเป็นสีแดง เขามาบอกเราว่า เขาจะพาเราไป "ด้านล่าง"

Advertisement

Advertisement

ซึ่ง!!! อีนี้ ยังไม่ทันได้ตอบเลยจ้ะเเม่จ๋า! หนุ่มงามก็กลายร่างเป็นพญานาคราช ‘พญานาคองค์สีแดง’ ซึ่งหากให้เข้าใจง่ายๆมองยังไงก็คืองูยักษ์ มีหงอนสีทอง ตาสีแดงทับทิม ตามลำตัวมีเกล็ดคล้ายปลาเป็นสีโกเมนสุริยฉัตรปภัศร ปล้องพระนาภีสีงาช้าง แต่ที่น่าตื่นตกใจกว่านั้นคือ ’เศียร’ เพราะพญานาคตรงหน้าของตูนั้นมีเศียรถึง7เศียรด้วยกัน

รูปถ่ายโดยผู้เขียน

อีติ๊กอยากเป็นลม!!!

ไอ้บทจะสับตีนแตก ใส่เกียรหมาวิ่งหนีก็คือไม่ทันเเล้ว พ่อคุณเล่นชูตัวสูงขึ้นอย่างกับแสดงอำนาจ และไม่ว่าเปล่าจ้า อีนางพุ่งมารัดรอบตัวแล้วพากระโจนลงบ่อน้ำมรกตข้างๆไปเลยจ้ะเเม๊!!! โอ้ยยยยย จะไม่ตายเพราะโดนรัดก็ตายเพราะจมน้ำนี้ละว๊อย! (Cr.ฉากจากละครเรื่องเพลิงนาคาฉากนี้ทำตูขนลุกยันหัวเพราะที่เจอมาคือแบบนี้เลยพันรอบเเบบนี้ละ สำเนาถูกต้องเป๊ะๆยันเกล็ด)

แต่...เห้ย..."เขา" ว่าน้ำจะไม่ทำอะไรเรา...เออหายใจได้เฉย...ทั้งๆที่มันก็เปียกนะ-__-

Advertisement

Advertisement

ทางใต้น้ำซึ่งเป็นอุโมงค์ยาว ด้านในนั้นน้ำเป็นสีเขียวมรกตทอดยาว และที่น่าแปลกก็คือแม้นจะมาไกลเพียงใดก็ยังคงมีแสงสว่างส่องทอดมาถึงในถ้ำใต้น้ำนี้เสมอ จนพามาทะลุอีกทีนึง ด้านในนี้ราวกับเมืองโบราณที่อยู่ภายในถ้ำ มีห้องหับมากมายการตกแต่งนั้นก็ดูวิจิตรตระการตา พญานาคสีแดงตอนนี้กลับมาเป็นร่างคนปกติ เขาจูงมือพาเรามายังที่หนึ่ง (อีนี้ก็ปล่อยให้เขาจูงจ้า=///= )

เดินมาถึงห้องโถงห้องหนึ่ง ด้านหน้านั้นเป็นศาลาทรงไทยขนาดใหญ่ซึ่งเรียกว่าใหญ่มว๊ากเลยทีเดียว ด้านหนึ่งถูกจัดวางเต็มไปด้วยพระพุทธรูปมากมายและมีประพุทธรูปปางนาคปรกอยู่ด้านบนสูงเหนือกว่าพระพุทธรูปองค์อื่นเล็กน้อยราวกับเป็นองค์ประทาน พระพทธรูปทุกองค์นั้นล้วนแต่เป็นสีเขียวใสมรกต ลวดลายบนองค์พระพุทธรูปนั้นก็มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นของยุคสมัยสุโขทัย,อยุธยา,เชียงแสน,ลพบุรี,อู่ทอง,ขอมหรือแม้แต่รัตนโกสินทร์ ถัดมาทางด้านซ้ายของศาลาเป็นลานกว้าง ก็คาดว่าสถานที่นี้คงเป็นที่ที่ไว้ใช้สวดมนต์หรือเจริญสมาธิ (มั้งนะ...ก็เหมือนลานธรรมเลยอ่ะ)

Advertisement

Advertisement

“ตามข้ามาทางนี้” เขาบอกทั้งที่ยังจับข้อมมือเราไว้ก่อนจูงนำไป

“คุณจะพาฉันไปไหน” เดินตามแรงจูงของเขาแต่ปากนี้ก็ยังไม่หุบ ก็คนมันอยากรู้

“ตามมาเถอะ”

เจอประโยคนี้ไปเหมือนโดนด่าแบบสุภาพว่า "หุบปากละอย่าถามมาก" เงียบแดกเลยจ้าาาาาและเดินตามแรงจูงของคนตัวโตกว่าไปเรื่อยๆ เอาจริงๆในฝันอ่ะ ดูๆแล้วเขาก็ไม่ได้ดูเป็นอันตรายแถมเวลาที่ถูกกุมมือยังให้ความรู้สึกอุ่นใจแปลกๆอีกต่างหาก

โคตรรู้สึกปลอดภัยเเบบประหลาดๆ-_____-^

(ถ้าคุณสาในปัจจุบันได้มาอ่านโปรดอย่านอยนั้นแค่ฝัน)

ผู้ชายคนนั้น พลักประตูเปิดออกไปก็พบกับห้องโถงกว้างอีกห้องหนึ่ง ห้องนี้มีความวิจิตรตระการตาที่มากกว่าห้องแรกที่ผ่านมากมากนั้น ด้านในเป็นห้องโถงกว้างถูกประดับตกแต่งอย่างปรานีต มีทหารยืนและมีชุดโต๊ะขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง อารมณ์ประมาณว่าห้องประชุม และมีผู้คนมากมายต่างกำลังนั่งสนทนากันอยู่รอบโต๊ะสีเหลี่ยมขนาดใหญ่นี้ ราวกับกำลังหารืออะไรกันอยู่ก็ไม่ปาน จากบรรยากาศตรึงเครียด สักครู่ก็เริ่มมีความผ่อนคลายลงราวกับการหารือยุติลงแล้ว ผู้คนที่นั่งอยู่ในห้องนี้มีทั้งชายและหญิงการแต่งกายก็ดูไม่ต่างจากทีเคยเห็นมา ผิดแต่ว่าสีชุดอาจจะมีต่างกันบ้าง ผู้ชายส่วนมากไม่ทรงเขียว ก็ทรงดำ หรือไม่ก็ทรงสีทอง ส่วนผู้หญิงจะทรงสีชมพูอ่อน ส้มอ่อน สีขาวเงินยวงหรือไม่ก็สีเขียวเช่นเดียวกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือ ทุกสิ่งในห้องนี้ทั้งหมดล้วนถูกทำด้วยทอง!

รวยอะไรขนาดนี้คะคู๊ณณณณณ!!!

“ขออภัยขอรับ”

ผู้ชายที่จูงมือเรามาพูดขัดการสนทนาขึ้นจ้า เเล้วสายตานับสิบๆคู่นี้พุ่งตรงมาที่อีนี้เลยT{}T!!!

"พานางมาแล้วรึ"

เสียงที่คุ้นหูของผู้ชายสูงวัยทำให้เราต้องเอนตัวมาจากทางด้านหลังของเขาเพื่อมอง(เขาสูงกว่าเรามากคือบังเรามิดอ่ะ)

บุรุษสูงอายุ หน้าคมเข้มรับกับนัยน์ตาคมที่ทำให้ยิ่งดูมากด้วยบารมี ผิวสีน้ำตาลไหม้ พระเกศานั้นดำแสมขาว มีเครายาวประดับอยู่บนพระพักตร์ยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขามยิ่ง แต่งองค์ด้วยชุดโบราณคือผ้าโจงกระเบนสีเขียวดิ้นทองโทนอ่อน พระเกศามัดรวบไว้เป็นทรงโซงโขดง

".........(ขอสงวนนามนะคะ) มาหาแม่ทางนี้สิลูก"
สตรีสูงอายุผุ้มีพระพักตร์รูปไข่ ดวงหน้าของสตรีสูงอายุนั้นบ่งบอกถึงความเมตตาธรรม นัยน์ตาสีนิลฉายแววให้เห็นถึงความสูงศักดิ์และบารมีที่มากมายยิ่ง พระเกศาสีดำยาวสรวยราวกับขนนกกาน้ำนั้นก็ถูกแซกกลางแล้วรวบสูงเป็นทรงโซงโขดงเช่นกัน

ทั้งสองพระองค์ทรงประดับด้วยเครื่องประดับทรงพญานาคราช ไม่ว่าจะเป็น กรองคอ รัดเกล้า รัดแขน สายสังวาลย์ กำไล

สตรีสูงอายุนั้นทรงปักปิ่นปักผมพญานาคอยู่เหนือรัดเกล้ายิ่งทำให้ทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่ง

โดนเรียกละทำไงอ่ะ เงยมองคนพามาสิจ๊ะ...ช่วยกูที๊!!!
แต่....สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ...

“เข้าไปเถิด ข้าอยู่ด้วยมิเป็นไรดอก” เขานั้นพูดด้วยเสียงอันอ่อนโยนราวกับปลอบประโลม ซึ่งนั้นก็ช่วยให้เราใจชื่นได้มากโข (จริงๆนี้คือจะร้องไห้ละเหมือนพาไปฆ่าไงก็ไม่รู้)

เลยต้องเดินเข้าไปหาพ่อและแม่จำเป็นอย่างจำยอม แต่...ก็ยังคงยืนเว้นระยะห่างมากพอสมควร social distancing ไว้ก่อน =_=ll

ผลคือ ทั้งสองยิ้มอย่างเอ็นดูเว้ย...แต่อีติ๊กนี้ยิ้มไม่ออกเลยจ้ากลัวคนแปลกหน้า บุรุษสูงอายุย่างเท้าเข้ามาใกล้เรา ทำเอาเราก้าวขาถอยหลังไปชนกับผู้ชายที่พาเรามา ชนเต็มอกเขาเลยจ้า มือหนาของเขาจับแขนเราไว้เพื่อให้ทรงตัวได้ก่อนก้มมองอย่างเป็นห่วง เราเงยไปก็เกือบปะหน้าพอดี จังหวะจะซิทคอมไปไหน

อายก็อายกลัวก็กลัวว๊อย! =//////=

"........รับสิ่งนี้จากพ่อและแม่ไป"
เสียงที่ดูจะแข็งและดุดันบ้างแต่น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาราวกับแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
เอาวะ... ตัดสินใจแบมือรับ
ผลคือ...ท่านให้ผลึกแก้วสีเขียวมาก่อนนึง ส่วนอีกท่านให้เป็นผลึกสีชมพู ท่านว่ามันคือเพชรพญานาค บอกว่ามันจะคุ้มครองเรา พอรับมาคือสักพักมันก็ค่อยๆร้อนเเล้วจมหายไปกับมือซ้ายที่เเบบมือรับมาเลย

แต่ก่อนที่จะได้อ้าปากถามอะไรเพิ่ม ก็มีทหารนายนึงเข้ามาคุยกับผู้ที่บอกว่าเป็นพ่อเราด้วยหน้าตาเคร็งเครียดนิดหน่อย จนแม่(ในฝัน) ก้ได้เเต่ถอนหายใจแล้วส่งสายตาประมาณว่า งานคงเข้าเเล้ว

"ก่อนพานางกลับข้าขอคุณกับ....(ขออณุญาติสงวนนาม)......เสียหน่อย"

"ตามข้ามาทางนี้" ผู้ชายคนนั้นเขาพูดกับเราจ้า อีเราก็เดินตามแรงจูงไปเหมือนเดิม...จูงจนนึกว่าตัวเองเป็นหมาละเนี้ย ... เขาพาเรามารอที่ลานที่เราเจอครั้งแรกนั้นละที่มีพระเยอะๆ

“รออยู่ตรงนี้นะแม่ตัวดี อย่าไปไหนละ ข้าไปไม่นาน”

ว่าไม่เปล่ามือหนาของเขาก็ยกขึ้นมาลูบที่หัวของเราอย่างแผ่วเบา มันสัมผัสได้ขึ้นความอ่อนโยนและปลอดภัยจากคนๆนี้เสมอ..

“รู้น่า..” ฉันตอบแค่นี้แหละ ก็คนมันเขิน-////-

แล้วเขาก็หายไปพักใหญ่เลยจ้า (ไหนว่าไม่นานวะTT)ไอ้เราก็เดินวนอยู่แถวนั้นละ ไหว้พระบ้างดูพระบ้างดูโน่นดูนี้แก้เบื่อ

“ได้เวลากลับกันแล้ว ประเดี๋ยวข้าจะไปส่ง” สักพักเขาก็มา เราหันมามองแบบไม่ค่อยแน่ใจ ขามาคือหวาดเสียวมาก
แต่สิ่งที่เขาพูดขึ้นมาอีกก็ดันทำเราอุ่นใจ

“มิต้องกลัว เพราะต่อไปนี้ข้าจะดูแลเจ้า..ตลอดไป”

จบใช่ป่ะ....ยังเว้ย!!!!

มันมีต่อ คือพอตื่นขึ้นมาแล้ว ไอ้มือข้างที่ไปรับเพชรพญานาคมาอ่ะร้อนฉ่าเลยเหมือนเคยกำก้อนอะไรซักอย่างไว้ มันยังมีความรู้สึกสัมผัสนั้นได้อยู่ เเต่แค่ไม่มีอยู่ในมือ...แล้วหลังจากนั้น ก็มีคนเห็นมีผช.ตามเราจ้า ขนาดมาอยู่หอกับคุณสามี คือยังได้ยินเสียงเขาเลยว่าไม่ต้องรู้สึกผิดที่เขาอยู่เพราะเขาปราถนาแบบนี้ รถชนกี่รอบเจ็บตัวอะไรนี้คือไม่ค่อยเจ็บมากเท่าที่ควรเลยซักหน่อยเหมือนมีคนช่วยตลอด (รอดตายบ่อยช่วงหลัง)

แล้วหลังจากนั้นไม่นาน พอดีเรากลับบ้านก็ไปนอนที่บ้าน รู้สึกว่าจะเป็นช่วงเข้าพรรษาไปละมั้ง ช่วงนั้นคือไม่ค่อยมีใครอยู่ดูแลเขาไปปฏบัติกันหมดครูบาอาจารย์ยันกุมารทอง ก็ฝันอีก
รอบนี้ฝันว่า มีผู้ชายผิวขาว มาหาที่หน้าบ้านมั้งนะ เรียกเรา เขาทรงชุดเหมือนตอนที่เราฝันว่าไปเมืองบาดาลมาเลย แต่ชุดของเขาเป็นสีเขียวอ่อนดิ้นทอง เรารู้สึกเหมือน เขาเป็นพี่ชาย...ต่างกับคนนั้นให้ความรู้สึกคนละเเบบเลย

"พี่จะพาเจ้ากลับบ้าน"

พูดแค่นี้ละอีนี้เดินตามเขาไปเฉยเลยจ้า เดินออกไปจากบ้านเลยเดินออกไปผ่านเเค่บ้านหลังที่สอง เท่านั้นละ

"เจ้าที่ที่บ้าน" (ที่เราเคยคิดว่าเป็นเพียงเจ้าที่ แต่อ.ฟ้าลิขิตมาบอกทีหลังว่านั้นอ่ะ..พระมหาเถรคันฉ่อง)

เรียกเราดังลั่นซอยเลยจ้า เสียงสนั่นหวั่นไหว

"ไอ้ติ๊ก! จะไปไหน กลับบ้าน!!มานี้เดี๋ยวนี้!!มันยังไม่ถึงเวลา!!"

พร้อมกับลั่นไม้ตะพตลงพื้นดังโครม!!! ตรึ้มเดียวอะพื้นสนั่นหวั่นไหว...กลับเลยจ้าเดินกลับไปหาเจ้าของไม้ตะพตเข้าบ้านไปเลย5555555 แต่ได้ยินเสียงทิ้งท้ายว่า

"เมื่อถึงเวลาข้าจะมารับ"

จากนั้นก็ตื่นขึ้นมาจ้า แต่ไอ้อาการหลังตื่นนี้สิเหมือนคนขาดอากาศหายใจมาสักพักนึงเลย

เฮือก!! ขึ้นมาละหายใจหอบๆเหมือนคนไม่มีอากาศ -___-

รูปถ่ายด้วยตัวเอง

รู้สึกเหมือนเกือบตาย.....เท่านั้นละบอกคุณสาให้พาไปคำชะโนดหน่อยเพื่อไปขอต่ออายุ ถ้ามีใครจะพากลับขอให้พ่อปู่กับแม่ย่าคุ้มครอง แล้วทำไมต้องคำชะโนด....ก็ถ้าKingนาคฝั่งไทยก็ต้องพ่อปู่ศรีสุทโธไง -__- ถึงเเม้นว่า ระยะเวลาในการรอเข้าคำชะโนดในตอนั้นจะนานไปหน่อย (6โมงเช้าได้เข้าเที่ยง) แต่หลังจากไปขอพรบอกกล่าวเอาน้ำมนต์รดหัว หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยฝันว่าใครจะพากลับบ้านอีกเลย

(มีต่อตอน2นะ ตอนไปหนองคาย)

รูปถ่ายด้วยตัวเอง

ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์