อื่นๆ
คาราโอเกะ ริมทาง ความสวยงามที่ไม่มีวันลืม

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ผมมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ที่ผมคิดถึงที่ไรผมจะรู้สึกขนลุกทุกที เราไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เจอกับประสบการณ์แบบนี้และผมก็เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเจอแน่นอน เพราะมันจะเปลี่ยนความรู้สึกเราในการเดินทางไปตลอดกาล
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อเอกครับ อายุ 27 ปี ถือว่าเป็นหนุ่มไฟแรงขยันตั้งใจทำงานครับ หวังจะสร้างฐานะให้ดีขึ้น ผมเป็นคนที่หนักเอาเบาสู้ตลอด ไม่เคยเกี่ยงงาน จนกระทั่งได้ทำงานกับบริษัทแห่งหนึงในกรุ่งเทพ ตำแหน่งเป็นเซลล์ครับ จะต้องได้เดินทางออกต่างจังหวัดเพื่อดูแลทีมขายตลอด ซึ่งปกติแล้วผมจะชอบเดินทางกลางคืนครับ เพราะรู้สึกเย็นสบายแดดไม่ร้อน
เมื่อปลายปีที่ผ่านมานั้น ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มลูกค้าทางโซนภาคเหนือ ซึ่งผมเองก็ไม่เคยเดินทางไปภาคเหนือเลย ซึ่งปกติจะได้ดูแลทางภาคตะวันออก แต่ด้วยที่ผมขยันและตั้งใจทำงานมากๆ จึงได้รับโอกาสนี้ พร้อมได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นมาอีก ตอนนั้นผมรู้สึกดีใจมากๆ ว่าการทำงานของผมราบลื่น ดีไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย หน้าที่การงานที่กำลังเติบโตและแฟนสาวที่น่ารัก
Advertisement
Advertisement
ปกติเวลาต้องไปดูงานภาคเหนือ แฟนผมจะตามไปด้วยตลอด เพราะเวลาเดินทางเราต้องขับรถเป็นเวลานาน แฟนคงเป็นห่วงจะได้มีเพื่อนคุยระหว่างทาง เธอก็จะถือโอกาสไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ เพราะเชียงใหม่อากาศดีเย็นสบาย วิวก็สวย ที่สำคัญที่พักทางบริษัทก็จะเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้ เราเลยทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย ชีวิตแฮปปีมีความสุข
จนมาวันหนึ่ง หลังจากทำงานเสร็จ ในระหว่างเดินทางกลับเข้ามากรุงเทพ แฟนบอกว่า อยากลองไปนั่งร้านธรรมดาๆแถวๆข้างทางดูบ้าง เพราะร้านหรูๆ ในเชียงใหม่เราก็ไปมาเกือบทุกที่แล้ว อยากนั่งฟังเพลงชิวๆ ลมเย็นๆ ผมเองก็โอเคเพราะขับรถมาได้สักพักก็เริ่มเพลีย งั้นเราก็หาร้านนั่งดื่ม แล้วก็หาที่นอนสักคืน พรุ่งนี้เช้าเราค่อยเดินทางต่อ อีกอย่างวันนี้อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน มืดหูมืดตายังไงไม่รู้ คิดว่าคงเหนื่อยล้าจากการทำงาน พักสักหน่อยก็คงดี
Advertisement
Advertisement
เมื่อขับรถมาได้สักพัก ก็เจอร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านข้างทางธรรมดาๆ และ มีตู้คาราโอเกะไฟกระพริบๆ แสงไฟในร้านสลัวๆ ซึ่งเป็นเสมือนร้านที่เปิดรอลูกค้าขาจรโดยเฉพาะ เพราะแถวนี้มืดและอยู่ห่างจากหมู่บ้านมาได้สักระยะหนึ่ง ผมเองก็คิดในใจว่าที่นี่แผนการตลาดดีนะ แอบมาเปิดร้านห่างๆ จากหมู่บ้านเผื่อว่าจะมีพ่อบ้านใจกล้า แอบหนีเมียมาเที่ยวแน่ๆ เลย เมียจะได้ไม่ตามเจอ
ที่นี่ก็มีสาวเสริฟวัยรุ่นกันทั้งนั้น น่าตาน่ารักใช้ได้ มีทั้งคนไทยและพม่า บางคนก็พูดชัดเจนบางคนก็พูดไม่ชัด แต่ผมก็ต้องเก็บอาการของชายหนุ่มเอาไว้ เวลาอยู่ท่ามกล่างหญิงสาว เพราะว่าผมมากับแฟนยังไงแฟนก็ต้องสวยที่สุดอยู่แล้ว เราสั่งอาหารและเบียร์เย็นๆ นั่งจิบไปดูผู้คนไปอากาศก็เย็นสบาย ดูเวลาเดี๋ยวเดียวก็เกือบจะเที่ยงคืน แฟนเลยชวนกลับและหาที่พักก่อน เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางต่อ
Advertisement
Advertisement
ใจนึงผมก็ยังสนุก เพราะนานๆทีจะได้อยู่ท่ามกลางหญิงสาวน่ารักๆ แบบนี้ แต่ด้วยแฟนเราก็น่ารักใช่ย่อยผมก็เลยต้องยอมกลับ ก่อนออกจากร้านผมก็เลยถามเด็กที่ร้านว่า แถวนี้มีโรงแรมหรือรีสอร์ทบ้างไหม น้องก็ชี้บอกว่าให้ผมขับรถเข้าซอยหลังร้านนี้ไปจะทางแยกแล้วให้เลี้ยวขวา ไปอีกไม่ไกลจะเจอ พอถามทางเสร็จผมก็เอะใจว่า ทำไมน้องทำสีหน้าท่าทางแปลกๆ และน้ำเสียงเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก ผมกำลังจะถามว่าน้องเป็นอะไรหรือเปล่า น้องก็ก้มหน้าแล้วเดินเข้าร้านไป
พอผมขับรถออกจากร้านมาได้ไม่ไกล ผมมองกระจกหลัง แต่กลับไม่เห็นอะไร ไม่เห็นแม้แต่ร้านที่เราเพิ่งออกมา น่าจะมีแสงไฟบ้างแต่กลับมืดสนิท ส่วนแฟนผมก็นั่งเงียบตัวสั่น ผมก็เลยถามเธอว่า ไม่สบายหรือเปล่า เธอก็ไม่พูดอะไร เธอเอนตัวมาซบที่ไหล่ผม ผมคิดในใจเธอคงเมาผมก็ปล่อยให้เธอพักไปไม่อยากกวนใจเธอ พอถึงทางแยกผมกำลังเลี้ยวขาว ผมก็เห็นชายชรากำลังปั่นจักรยานไปทางที่ผมจะไป ผมจึงชะลอรถเปิดกระจกถามเพื่อความแน่ใจ
ผม : คุณลุงครับ รีสอร์ทไปทางนี้ใช่ไหมครับ
คุณลุง : ยิ้มบอกว่าแถวนี้ไม่มีรีสอร์ทหร็อกพ่อหนุ่ม ไปไหนกันมาล่ะ
ผม : พอดีผ่านมาแถวนี้ครับ จะหาที่พักครับ
คุณลุง : คุณลุงชี้ ไปทางด้านหน้า แล้วบอกว่าขับตรงไปอีกนิดแล้วให้ไปแวะถามตรงนั้นนะ
แล้วคุณลุงก็ดูท่าทางรีบร้อน แล้วปั่นจักรยานกลับไปอีกทาง ผมก็เลยขับรถไปตามที่คุณลุงบอก ก็เริ่มเห็นแสงไฟและมีบ้านคนอยู่ แต่ทำไมดูคนเยอะจังหรือมีงานอะไร ผมคิดในใจว่า ดีล่ะเข้าใกล้บ้านคนจะได้หาที่พักสักที ผมมาจอดรถตรงที่บ้านที่คิดว่ามีงานตั้งใจจะถามทาง ก็มี อส.หมู่บ้านที่กำลังมาโบกรถ
ทันใดนั้น แฟนผมก็เกาะแขนผมแน่น แล้วร้องให้โฮออกมาทันที ผมก็พยายามปลอบเธอว่าเป็นอะไร อส. คิดว่าอาการคงไม่ดีจึงเชิญเราเข้าไปข้างในก่อน ผมถามพี่ อส.ว่า ที่นี่มีงานอะไรครับ พี่ อส. บอกเพียงว่าเชิญเข้ามาก่อนครับแล้วจะเข้าใจเอง ผมก็ปลอบแฟนอยู่พักนึงเธอก็ยอมลงเดินตามกันเข้าไปในบ้าน
พอเข้าไปถึงบ้านเท่านั้นแหละครับ แฟนผมขาอ่อนทรุดลงทันที ผมเองก็แทบจะลมลงตรงนั้นให้ได้ ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นภาพที่ผมไม่คาดคิดและไม่เคยคิดว่าจะโดนกับตัวเองจังๆ เป็นภาพหญิงสาว 2 คนพี่น้องที่อยู่บนขาตั้งและมีดอกไม้ประดับสวยงาม มีแสงไฟกระพริบเป็นการประดับครั้งสุดท้ายให้แก่เธอ เคล้าคลอกับเสียร้องให้อันเศร้าโศก ของบุคคลซึ่งเป็นที่รัก เธอจากไปแบบไม่หวนกลับมา
แฟนผมฟื้นขึ้น บนตักของผมหลังจากที่เธอหมดสติไปได้ประมาณเกือบสองชั่วโมง ผมเองก็ยังรู้สึกเบลอๆ แต่ต้องเข้มแข็ง คุณยายที่อยู่ตรงนั้นก็เริ่มถามขึ้นมาว่า เป็นยังไงมายังไง ถึงมาถึงที่นี่ ผมเลยเล่าให้ฟังว่า ผมแวะร้านอาหารริมทางและกำลังจะหาที่พัก เด็กที่ร้านแนะนำให้มาทางนี้ผมเลยว่าจะมาถามทาง
คุณยายบอกว่า ตั้งแต่วันนั้น มีมาทุกวัน คุณยายเล่าให้ฟังว่า สองคนพี่น้องที่อยู่ในรูปนี้ ไปทำงานเสิร์ฟที่ร้านตรงหน้าปากซอยนั้น แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งมาชอบ มาติดน้องมาตามน้อง แต่ภรรยาเค้าจับได้ เลยตามมายิงถึงที่ร้าน ยิงเด็กที่ร้านทั้งหมด 4 คน อีก 2 คนหนีรอดไปได้ ส่วนผู้ชายหนีเข้าป่าแล้วภรรยาก็ยิ่งตัวตายตาม ส่วนร้านอาหารร้านนั้นก็ไม่มีใครกล้าผ่านไปใกล้อีกเลย กลางคืนใครผ่านไปผ่านมา ก็ดูเหมือนร้านยังเปิดให้บริการอยู่ บางวันคนแถวนั้นก็ยังได้ยินเสียงปืนและเสียงคนร้องตามมา
พอฟังจบผมเองก็พูดไม่ออก แฟนผมร้องโฮขึ้นมาอีก คุณยายบอกว่า ให้พักที่นี่ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ แฟนผมอยากออกมาจากตรงนั้นทันที แต่วินาทีนี้อยู่ในคนหมู่มากจะดีที่สุด ผมกับแฟนก็เลยนั่งหลับอยู่ตรงนั้น
รุ่งเช้า ผมจึงขอให้คนที่นั่นช่วยขับรถมาส่งอีกทาง เพราะผมกับแฟนเองก็ไม่กล้าที่จะผ่านตรงนั้นอีก เพราะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนยังขนลุกไม่หาย เรา ดื่ม เรากิน เราสนุก กับสิ่งที่ไม่ใช่คน แต่เป็นดวงวิญญาณที่ยังวนเวียนไม่ไปไหน พอถึงปากทางผมรีบบึ่งรถเข้ากรุงเทพโดยเร็ว แฟนผมก็หลับไม่ลง เราต่างคนต่างไม่กล้าคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่กันในบรรยากาศอึมครึมๆ
พอถึงกรุงเทพแล้วเราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ทางบ้านฟัง คุณพ่อคุณแม่จึงพาไปอาบน้ำมนต์ พอจิตใจแฟนผมดีขึ้น เล่าให้ผมฟังอีกว่า เค้าเห็นเด็กผู้หญิงร่างกายเปื้อนเลือดไปทั้งตัว ตาแดงกล่ำแต่เค้ากลับบอกกับผมไม่ได้ ตอนที่ถามทางเค้าเห็นทุกอย่าง เละไปหมดแต่บอกอะไรกับผมไม่ได้และเธอก็กลัวมาก หลังจากนั้นผมกับแฟน ก็ไม่กล้าเดินทางกลางคืนกันอีกเลย ถ้าจะไปทำงานก็จะเดินทางกลางวันและถ้างานไม่เยอะ จะเลือกนั่งเครื่องบินไป
เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยลืม เพราะลืมไม่ลงจริงๆ ภาพนั้นยังติดตา ภาพของสาวน้อยในร้านคาราโอเกะ...
ความคิดเห็น
