อื่นๆ
แอสโมเดียส(Asmodeus) ปีศาจราคะ

หน้าปก;https://bit.ly/2Rrw69C
แอสโมเดียส(Asmodeus) ปีศาจราคะ
เอสโมเดียส หรือ เอสโมเดอุส (Asmodeus) ปีศาจราคะ (Prince of lust) ตัวแทนของหนึ่งในบาปทั้ง 7 ของ ความเชื่อในศาสนาคริสต์ ราชาของปีศาจ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย จากการเผยแพร่ความรู้ทางศาสนา บทความหนึ่งของพระคัมภีร์ deuterocanonical book of Tobit (พระคัมภีร์คาทอลิก พันธะสัญญาเดิม) ชื่อ แอสโมเดียส เชื่อว่ามาจากภาษา Avesta(อะเวสตะ) อะเวสตะเป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุดของชาวอิหร่านโบราณ เและป็นภาษาที่กล่าวถึงความเชื่อทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดชองชนชาตินี้ ความหมายของชื่อถูกแยกออกเป็นสองประโยค นั่นก็คือเอสม่า (Asma) หรือเอสโม หมายถึง ความเกรี้ยวกราด ส่วน เดอุส(dues) หมายถึง เดมอน หรือปีศาจนั่นเอง
Credit by; https://bit.ly/2XrHiXt
เอสโมเดียสถือกำเนิดมาจาก Sucubus ตนหนึ่ง (ซัคคิวบัสเพศหญิง ปีศาจชนิดหนึ่งที่ชอบเข้าไปสมสู่กับมนุษย์ในความฝัน) ที่ชื่อว่า อากราท แบท มาลัท(Agrat Bat Mahlat) เธอได้ใช้มนต์ปีศาจล่อลวง กษัตริย์ เดวิด ให้มาสมสู่กันในความฝัน จนกำเนิดเอสโมเดียส ขึ้นมา
Advertisement
Advertisement
Credit by; https://bit.ly/3a0zcrl
ในหนังสือของ (Tobit 6:13) ได้กล่าวไว้ว่า ในยุคหนึ่งของ เอสโมเดียส เขาเกิดไปหลงรักมนุษย์สาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า ซาร่า บุตรสาวของ ลากุลเอล และล่อล่วงเธอให้มาหลงใหลในตัวเองโดยไม่เต็มใจ แถมยังไม่พอยังฆ่าคนที่จะมาเป็นสามีของซาร่า ในคืนวันแต่งงานทั้งหมดถึงเจ็ดคนอีกด้วย เอสโมเดียสจึงถูกเปรียบเทียบว่าเป็นปีศาจที่หลงใหลในรูปร่าง กามอารมณ์ และถูกเรียกกันต่อๆมานับจากนั้นว่าปีศาจราคะ(Lust) นั่นเอง แต่พลังของปีศาจราคะตนนี้ เขากลับเก็บไว้ใช้สำหรับซาร่าเท่านั้น เพราะเอสโมเดียส รักซาร่า เขาจึงล่อลวงเพียงแต่เธอคนเดียว และไม่เคยล่อลวงหญิงใดอื่นอีกเลยในช่วงเวลาดังกล่าว
เอสโมเดียส เก่งในเรื่องการใช้ไหวพริบ และเรื่องของความโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ตามตำนานที่บันทึกไว้ ของปีศาจราคะตนนี้ รูปลักษณ์ภายนอกของมันไม่ได้มีความเย้ายวนหรือน่าหลงไหลเลยสักนิด ในทางตรงกันข้ามกลับอัปลักษณ์เสียด้วยซ้ำ เพราะแท้จริงแล้วรูปร่างมันเหมือนสัตว์ประหลาดสามหัวที่มีตัวเป็นมนุษย์ หัวที่หนึ่งคล้ายกับแพะ หัวที่สองลักษณะคล้ายกับวัวกระทิง หัวที่สามคล้ายกับมนุษย์ผู้ชายแก่ แต่กลับมีหูที่ยื่นยาวออกมาผิดปกติ เสียงแหบซ่าน ฟันแหลมคม และยังมีลมหายใจที่เปล่งออกมาเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนในนรกอีกด้วย
Advertisement
Advertisement
Credit by; https://bit.ly/2y1ZVGN
พลังของเอสโมเดียส คือ สามารถหยั่งรู้อนาคตและสามารถสร้างมนต์สะกด ควบคุมผู้หญิงรอบตัวเขาให้มาหลงใหล จนสร้างความสับสนในตัวผู้หญิง ให้ไร้สติ เพื่อเข้าครอบงำได้อย่างง่ายดาย จนช่วงในยุคกลางตอนต้นก่อนคริสตร์ศักราช ลิลิธ (Lilith) เทพีแห่งความตาย หนึ่งในสตรีและเป็นปีศาจอีกตนหนึ่งที่โหดเหี้ยมมากที่สุด ได้หลงใหลในตัวแอสโมเดียส จนถึงขั้นต้องเปิดเผยตัวตนของเธอเองในตำแหน่งราชินีของปีศาจราคะตนนี้ ซึ่งตอนนั้นแอสโมเดียส ถูกกล่าวขานว่าเป็นราชาของปีศาจไปแล้ว ดังนั้นลิลิธจึงได้ครองตำแหน่งราชินีของปีศาจทั้งปวงไปโดยปริยาย และร่วมกันกระทำความชั่วด้วยกันมา อีกหลายเหตุการณ์นับครั้งไม่ถ้วน จนทั้งปีศาจสองตนนี้ ค่อย ๆ หายไปจากโลกมนุษย์ และนาน ๆ ทีถึงจะโผล่ขึ้นมาป่วนโลกมนุษย์เป็นครั้งคราว แต่ทุกครั้งมักจะโผล่ขึ้นมาในลักษณะของคนดี เพราะต้องการใช้รูปลักษณ์ภายนอกหลอกลวง และทำร้ายมนุษย์ทุกรูปแบบที่สามารถทำได้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา.
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
ข้อตกลงและเงื่อนไข|Copyright © True Digital & Media Platform Company Limited. All rights reserved