ไลฟ์แฮ็ก
เคล็ดลับการนอนหลับเพื่อสุขภาพที่ดี
การนอนหลับให้ตรงเวลาพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญ คนที่พักผ่อนน้อยก็ย่อมส่งผลเสียต่อการทำงานของร่างกาย
บางคนทำงานหนักจนลืมเวลาพักผ่อน บางคนทำงานเป็นกะ เช้า กลางวัน กลางคืน นาฬิกาชีวิต ของคนเราบางทีก็ไม่เหมือนกัน บางคนนอนน้อยก็อาจเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรืออ่อนเพลียส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอได้
มีคุณหมอท่านหนึ่งบอกกับผมว่า เราควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 6 ถึง 8 ชั่วโมง
ถัาคุณป่วยเป็นไข้หวัด หรือปวดหัว คุณก็เพียงแค่นอนหลับให้เพียงพอเท่านี้คุณก็แทบจะไม่จำเป็นต้องกินยาพาราเซตามอลอะไรเลย อาการปวดหัวเป็นไข้เล็กน้อยจะหายได้เอง เพราะยาร้อยชนิดก็ไม่สู้การนอนหลับพักผ่อน
ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-sleeping-935777/
สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้านอนคือ ช่วง 5 ทุ่มถึง ตีหนึ่ง เพราะเป็นช่วงที่ถุงน้ำดีทำงานได้ดี ถุงน้ำดีจะเก็บน้ำดีที่ได้จากตับและส่งน้ำดีมาช่วยย่อยไขมันที่ลำไส้เล็ก ไขกระดูกจะเริ่มต้นสร้างเลือด และซ่อมแซมร่างกาย การหลั่งของถุงน้ำดีจะส่งผลทำให้สมองโล่ง ปลอดโปร่ง และแจ่มใส คุณเคยสังเกตุไหมว่า ถ้าคุณยังทำงานในช่วงเวลาห้าทุ่ม คุณจะรู้สึกว่าสมองปลอดโปร่งขึ้นมาช่วงนึง
Advertisement
Advertisement
มาถึงช่วงเวลาที่เรานอนหลับสนิทไปแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของ"ตับ" ในช่วงเวลาที่เรานอนหลับสนิท เลือดจะไหลเวียนมาที่ตับ ตับจะกำจัดสารพิษในร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด และสร้างน้ำดีมาเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ช่วงที่หลับสนิทร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินได้สูงสุด
("เมลาโทนิน" เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดการนอนหลับลึก ช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนการเจริญเติบโต) ตับจะเก็บกักเลือด สลายเซลล์เม็ดเลือดแดง แล้วนำเลือดใหม่ส่งไปยังปอด ถ้าเรานอนหลับลึกในช่วงเวลานี้คือตั้งแต่ตี 2 - 7 โมงเช้า ระบบหายใจของเราจะทำงานได้เต็มที่ พอตื่นเช้าขึ้นมาจะมีใบหน้าที่สดใส รู้สึกสดชื่น แจ่มใส
แล้วท่านอนล่ะ?..อันนี้ไม่ได้บังคับหรอกครับ ตอนนอนหลับท่าหนึ่ง แต่พอตอนตื่นขึ้นมาเป็นอีกท่าหนึ่ง ซึ่งบางทีเปลี่ยนท่านอนก็ไม่รู้ตัวหรอกครับ แต่ถ้าเรานอนตะแคงข้าง และขดตัวคล้ายกับรูปคันธนู ไปพร้อมกับหันตะแคงหน้าไปทางขวามือ ก็จะช่วยให้หัวใจเราทำงานได้สะดวกขึ้น เพราะหัวใจจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระน้ำหนักตัวของทางฝั่งขวามากดทับตอนเรานอนตะแคงซ้าย
Advertisement
Advertisement
หิวจังกลางดึก...ก่อนนอนหรือตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะความหิวเราจะกินอะไรได้ไหม?..
ตอบ..กินได้.. นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งว่าทำไมตู้เย็นต้องมีหลอดติดไฟในตู้เย็น..
ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-wearing-pink-knit-top-opening-refrigerator-1458687/
มันเกิดจากการกินไม่เป็นเวลา ความเครียด รวมไปถึงการกินจุบจิบตอนดึกมากๆ คุณอาจมีพลังงานไม่พอที่จะประคับประคองระบบต่างๆ ของร่างกายขณะนอนหลับก็เลยหิวขึ้นมา ของกินรอบดึกควรเป็น ผักผลไม้ โปรตีน และไฟเบอร์ จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดเสถียรคงที่ ลดโอกาสที่จะทำให้รู้สึกหิว เช่น ฝรั่ง, สาลี่, แอปเปิ้ล, ข้าวโพด, ไข่ต้ม, ไข่ตุ๋น, น้ำเต้าหู้, อกไก่ต้ม, นมจืด, โยเกิร์ต
อย่ากินพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมซอง ขนมปัง ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆ อาหารที่ปริมาณแป้งขัดขาวสูง จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้สึกอิ่มในตอนแรก แต่ไม่นานก็จะกลับมาหิวโหยเช่นเดิม
Advertisement
Advertisement
"พอตื่นเช้ามาเวลานี้เราควรจะดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีขึ้น"
ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/photo-of-person-holding-alarm-clock-1028741/
อย่างไรก็ตามในยุค 4.0 นี้หลายคนติดโทรศัพท์มือถือ ต้องท่องโลกโซเชียลก่อนนอนยิ่งไถหน้าจอไปเจอรูปอาหารหน้ากิน ก็ยิ่งหิวรอบดึกไปกันใหญ่ ซึ่งแน่นอนแสงจากโทรศัพท์อาจจะทำให้คุณนอนไม่หลับ "หลับยาก" ก็ไม่ควรเล่นมือถือก่อนนอน หลังจากปิดโทรศัพท์แล้วก็นำโทรศัพท์มือถือออกห่างจากตัว เพราะคลื่นสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์มือถือจะมารบกวนโสตประสาทสมองคุณ ในขณะที่คุณนอนหลับ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานกะดึก หรือตอนเช้าก็ตาม ควรจะมีช่วงเวลาการนอนหลับพักผ่อนที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันและร่างกายของคุณ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโรคภัย
...นอนหลับฝันดี และ ราตรีสวัสดิ์...
บทความ โดย : กัมบี้บ็อกซ์
ขอบคุณภาพประกอบจาก :
https://www.pexels.com/search/sleep/
ความคิดเห็น
