ไลฟ์แฮ็ก

ชินดิน กับการรักษาไสยเวทย์

337
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ชินดิน กับการรักษาไสยเวทย์

(บทความนี้มีเรื่องของความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง โปรดใช้วิจารณญาณ)

ส่วนตัวผมมีโรคปวดหลังเรื้อรังติดตัวมานับสิบปี เหตุด้วยยกของผิดท่า ยิ่งโตอาชีพด้านการเขียนนำพาให้เดินทางบ่อย อาการปวดหลังจึงไม่หายไปไหน กินยาก็แล้ว นวดแผนโบราณก็แล้ว ก็ได้แค่ทุเลา เพราะการเดินทางแต่ละครั้งต้องสะพานกล้อง สะพายกระเป๋า นั่งรถก็นาน โรคปวดหลังจึงไม่หายสักที แม่ผมซึ่งมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หมอผี หมอมด จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาลุงหมอไสยเวทย์ประจำหมู่บ้าน ได้ความว่า “เพราะผมเคยประสบอุบัติเหตุ จักรยานยนต์ล้มริมถนน เลือดตกพื้น ผีดิน จึงเกาะเกี่ยวไว้ โรคถึงไม่หายสักที ให้ผมรีบเข้าพิธีปัดรังควาญ ขจัดผีดิน หรือทางชายแดนใต้เรียก “ชินดิน” ออกไป”

ผมคนรุ่นใหม่ เชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์มากกว่า แต่ยอมทำตามคำแนะนำของแม่และหมอผีโดยดี นั่นไม่ใช่เพราะปวดหลังหรอก แต่ด้วยรักษาน้ำใจผู้เป็นแม่มากกว่า หากผมไม่รักษาด้วยไสยศาสตร์ แม่คงกังวลใจไม่หาย ซึ่งไม่เป็นผลดีแน่ และเมื่อได้เข้าพิธีไล่ชินดิน ผมจึงพบกับเรื่องน่าสนใจ

Advertisement

Advertisement

พระพิฆเนศวร์ภาพโดยผู้เขียน

การจะให้ชินดินออกไปจากตัวต้องนำของกินมาเลี้ยงมัน เมื่อมันได้กินแล้วจะเลิกรังควาญเรา ฉะนั้นสิ่งที่ผมต้องเตรียมก็มี 1. ข้าวปากหม้อ 2. ไข่ดิบ และ 3. ดิน บริเวณที่ประสบอุบัติเหตุจำนวน 3 หยิบมือ พร้อมพูดชวนผีว่า “มากับกู เขาจะทำให้มึงกินแล้ว” ต่อจากนั้นเมื่อได้เวลา 5 โมงเย็น จึงนำสิ่งเหล่านั้นไปให้หมอทำพิธี ช่วงทำพิธีมีการไหว้ครู ต้องเสียค่าครู 220 บาท เมื่อหมอไหว้ครูเรียบร้อย ผมต้องไปนั่งยื่นขาหันปลายเท้าออกนอกประตูบ้าน แล้วหมอก็ร่ายคาถา ถ้อยคำตรงๆ ผมจำไม่ได้ แต่สรุปได้ดังนี้

“กูมีมือใหญ่เท่าฟ้า มีตาแดงและร้อนเท่าดวงอาทิตย์ ขอให้มึงออกไป กินของเซ่นแล้วจงไป หากไม่ออกกูจะขึ้นไปฟ้องพระพรหม พระอิศวรบนฟ้า แล้วทีนี้มึงจะเดือดร้อน”

ว่าเสร็จแล้วก็เอาของเซ่นไปฝังดินใต้ต้นไม้ พร้อมกำกับคาถาไว้ เป็นอันเสร็จพิธี ต่อแต่นี้ผมก็จะรักษาอาการปวดได้ราบรื่นไม่มีผีรังควาญอีก นี่แหละคือสิ่งที่ผมบอกว่า น่าสนใจ คาถาไล่ผี จะเห็นว่าเป็นคำง่ายๆ เริ่มจากอวดศักดาว่าตัวหมอนั้นเก่งกาจขนาดนั้น แต่ถ้ายังไม่กลัวอีก หมอจะไปฟ้องพระพรหมแล้วนะ ทีนี้เจ้าผี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่ คาถานี้ชี้ให้เห็นว่า หลักความเชื่อเรื่องไสยเวทย์ในชีวิตจริง สวนทางกับหนังกับละครมาก ที่ร่ายคาถาอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่ออก และคาถาลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นได้ชัดเจนว่า ก่อนที่ทั้งพุทธ และอิสลามจะเข้ามามีบทบาทในพื้นที่ชายแดนใต้ ศาสานาพราหมณ์มีอิทธิพลอยู่ก่อนแล้วทั้งความเชื่อ และวัฒนธรรม

Advertisement

Advertisement

จากเหตุการณ์นี้ผมนำเรื่องชินดิน ไปสนทนาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ หลายคนทั้งพุทธและมุสลิม ได้ความว่า “ชิน” ตรงกับคำเรียกวิญญาณร้ายของอิสลาม คือ ญิน (Jinn) ซึ่งมีญินดิน ญินฟ้า ญินไฟ ญินลม เช่นเดียวกัน

หาบเกี้ยวภาพโดยผู้เขียน


การรักษา หรือปัดรังควาญชินทั้ง 4 ตามแนวไสยศาสตร์ อาจดูงมงาย สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สามารถย่อโลกด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แต่ผมได้สอบถามปราชญ์ชาวบ้าน ได้ความว่า ไสยศาสตร์ตามแบบคนโบราณแล้ว เขารักษาด้วยวิทยาศาสตร์ เพียงแต่คนรุ่นใหม่เห็นว่าพอมีคาถาเข้ามา ก็ตั้งต้นไม่เชื่อก่อนแล้ว ไม่ยอมเปิดรับ พร้อมยกตัวอย่างกรณีรักษา ชินฟ้า (โรคภัยที่เกิดจากผีที่มากับฟ้าผ่า) ว่า...

“พวกชินทางพุทธเรียกอีกอย่างว่าอุบาทว์ มีอุบาทว์ดิน อุบาทว์ฟ้า อุบาทว์ลม อุบาทว์ไฟ กรณีอุบาทว์ฟ้า จะยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด เพราะเวลารักษาอุบาทว์ฟ้า ต้องนำหินขวานฟ้ามาประกอบด้วย อาการของคนโดนชินฟ้า ส่วนมากจะไปหกล้มเกิดแผลบริเวณที่ฟ้าเคยผ่า ซึ่งความเร็วของฟ้าจะทำให้อากาศธาตุบริเวณนั้นแตกตัวเป็นรังสีแกรมม่าขึ้น แผลจึงไม่หายสักทีเพราะมีรังสีแกมม่าผสม ฉะนั้นต้องนำหินขวานฟ้ามาดูดซับรังสีออก จึงจะรักษาด้วยยาปกติหายได้”

Advertisement

Advertisement

พระพิฆเนศวร์ภาพโดยผู้เขียน


เห็นไหมครับว่า เรื่องบางเรื่องหากเราเปิดใจกว้างยอมรับฟังเหตุผล ก็จะได้เพิ่มเติมองค์ความรู้ได้ดีทีเดียว อย่างชินดินกับการรักษาไสยเวทย์นี่ไง กลายเป็นเรื่องสนุกๆ ที่หลากหลายเลย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
AnusornSrikhamkhwan
AnusornSrikhamkhwan
อ่านบทความอื่นจาก AnusornSrikhamkhwan

ชอบเล่าเรื่องผ่านงานเขียน

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์