ไลฟ์แฮ็ก

Nine to nice life : 9 ความจริงที่ชีวิตต้องเข้าใจ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
Nine to nice life : 9 ความจริงที่ชีวิตต้องเข้าใจ

หลายครั้งมาก ที่เรามักจะมองหาหนังสือสักเล่มสองเล่ม สามเล่มสี่เล่มหรือห้าเล่ม ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้มีความสุข

หลายครั้งมากที่เรามักเดินเข้าร้านหนังสือ แล้วเห็นหนังสือวางเรียงรายเยอะเเยะมากมาย จนไม่รู้ว่าจะหยิบเล่มไหนก่อนดี

หลายครั้งมากที่เรามักจะโลภมาก ซื้อหนังสือครั้งละหลายๆเล่ม โดยไม่สนใจว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น .. ไม่สนใจเลยว่า จะเอาเวลาไหนไปอ่านมัน

แค่ได้ซื้อ ก็รู้สึกสบายใจ... เราต่างก็มีความสุขในแบบที่เราเป็น แต่ความจริงในชีวิต ที่ว่าชีวิตจริงไม่ได้สวยงามเสมอไป มันมีจริงนะ ชีวิตที่เราต้องยอมรับว่ามันไม่ได้จบแบบสวยๆ เหมือนในละครหลังข่าว เราลองมาดู 9 ข้อ ที่ชีวิตเราต้องทำความเข้าใจกันใหม่ดูนะ

1. ร้องไห้บ้าง ชีวิตนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อหัวเราะเพียงอย่างเดียว

ครั้งแรกที่เราเกิดมา เราแหกปากร้องไห้ลั่นห้องคลอดเลยจำได้ไหม .. แรกเกิดเรายังร้องไห้ได้ แล้วทำไมเราจะร้องไห้อีกร้อยๆครั้งไม่ได้ล่ะ ในชีวิตนี้ เรื่องบางเรื่องมันก็โครตบั่นทอนหัวใจ เกินกว่าจะที่ฝืนยิ้ม ...ร้องไห้เถอะ .. มันไม่ได้เสียหายอะไรเลย

Advertisement

Advertisement

ร้องไห้บ้างเถอะนะ

ภาพโดย Victoria_Borodinova จาก Pixabay

2. หัดอยู่คนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง ชีวิตนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา

จริงอยู่ว่าบนโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราคนเดียว ยังมีคนอื่นๆอีกมากมาย จริงอยู่ที่ว่าเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน แต่ในบางเวลาก็ต้องรู้จักช่วยเหลือตัวเองบ้าง ลองออกไปกินข้าวคนเดียวบ้าง จานข้าวตรงหน้ากับน้ำแก้วนึง ก็เพียงพอล่ะมั้ง เราต้องฝึกการอยู่คนเดียวให้ได้ แม้ในเวลาที่มีผู้คนรอบกายก็ตาม

ไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง

3. ดูแลตัวเองซะบ้าง ชีวิตนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อให้คนอื่นดูแลซักหน่อย

" รักตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะไปรักคนอื่น " คำนี้ก็ฟังกันจนชินหู แต่ก็ไม่ค่อยปฏิบัติกันเท่าไหร่นัก เพราะเรามักจะทุ่มเทให้คนอื่นเสียจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น .. ละมาลืมตาขึ้นก็ตอนที่โดนทิ้งไปอ่ะแหล่ะฉะนั้น รักคนอื่นได้ แต่ก็ต้องรักตัวเองด้วย  คนฉลาดเขาทำกัน .. ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ เราก็แค่ Safety ตัวเองไว้ก่อน (ปลอดภัยไว้ก่อนงี้) รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ... แล้วค่อยไปดูแลคนอื่น รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ... แล้วพระเจ้าก็จะส่งคนดี ๆ มาดูแลเราเอง

Advertisement

Advertisement

ดูแลตัวเองบ้างนะภาพโดย goodinteractive จาก Pixabay

4. หมั่นอ่านหนังสือ หาความรู้ใส่ตัวบ้าง สวยใสไร้สมองมันช่วยอะไรไม่ได้

การอ่านหนังสือ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เราเปิดความคิดได้ หนังสือยังถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะจะบอกให้ มีดร.ชาวซูนดานคนนึง ได้ถามกับนักศึกษาว่า "พวกคุณรู้ไหม ว่าเพื่อนคนไหนที่ไม่เคยทิ้งพวกคุณไปไหนเลย ?" นักศึกษาต่างก็หันหน้ามองกันเพื่อจะหาคำตอบ ทันใดนั้น ดร.ก็ได้ยกหนังสือขึ้นมา " มันคือสิ่งนี้ต่างหาก มันคือหนังสือต่างหาก " ใช่เเล้วล่ะ ดร.พยายามจะบอกว่า ให้เราศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวให้เยอะ ๆ อ่านหนังสือให้เยอะ ๆ ให้เยอะกว่านั่งเขี่ยโทรศัพท์ไปวันๆ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะอยู่กับเรา ไม่ใช่เพื่อนข้าง ๆเรา ไม่ใช่เพื่อนที่กินข้าวกับเรา .. แต่มันคือหนังสือ มันคือความรู้ ที่จะติดตัวเราไป ความสวย เข้าเลขหกเลขเจ็ดก็เริ่มหายไป แต่ความรู้ ถึงเเม้ไม่ตายก็ยังคงอยู่ ...

Advertisement

Advertisement

หาเวลาว่างๆ อ่านหนังสือบ้าง

5. หมั่นตรวจสอบความฝันของตัวเองอยู่บ่อยๆ มีความฝันไหนบ้างที่เป็นจริงแล้ว

เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝัน แต่ก็มีไม่กี่คนนักที่จะพยายามดิ้นรนทำฝันให้เป็นจริง เมื่อเรามีความฝัน สิ่งที่ต้องทำก็คืออย่าลังเล ลงมือทำซ่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันการเอา มีพี่ชายคนนึงได้บอกไว้ว่า...

" ถ้าเรามีความฝัน ก็รีบลงมือทำมันให้เป็นจริงซะ ถึงแม้มันจะไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำมัน"

ความฝันของเรา อาจจะดูเล็กน้อยสำหรับคนอื่น อย่าไปสนใจ ... เพราะมันคือ ความฝัน " ข อ ง เ ร า "มันคงเป็นไม่ได้ที่เราฝันคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะกองอยู่ตรงหน้า

ถ้าเป็นอย่างนั้น ประวัติศาสตร์บนหน้าแผ่นดิน คงไม่มีอะไรที่จะต้องจารึกความฝันมันไม่มีวันหมดอายุ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจและจงอย่าทิ้งความฝันไว้ โดยที่ไม่มีใครดูแลมัน

จงดูแลความฝัน อย่าปล่อยใหมันลอยนวล

ภาพโดย black.salmon จาก Freepik

6. ออกเดินทางไปเที่ยวบ้าง จะได้เห็นว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่ต้นเฟื่องฟ้าหน้าบ้าน

บางคนเป็นคนติดบ้าน สิงอยู่ในห้องได้ทั้งวันทั้งคืน ออกจากห้องก็แค่สามเวลาอาหารต่างจากบางคนที่เมื่อได้ออกจากบ้านเมื่อไหร่ เหมือนกลายเป็นคนละคนออกเดินทางบ้าง ไปไหนก็ได้บนโลกนี้ที่ไม่ใช่หน้าบ้าน เราจะเห็นว่าโลกนี้มีต้นไม้อีกหลายสายพันธุ์ ที่ไม่ใช่แค่ต้นเฟื่องฟ้าหรือต้นดาวเรืองข้างหน้าบ้านเท่านั้น เราต้องหาเวลาสักช่วงนึง วางแผนเดินทาง แล้วลองออกเดินทางเองดูบ้างเวลาเดินทางมันเหมือนเป็นการได้อยู่กับตัวเอง ได้ทบทวนตัวเอง เผลอ ๆ ได้ค้นพบตัวเองอีกด้วย อีกทั้งการเดินทาง ทำให้เราพบเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ เจอมิตรสหายใหม่ ๆ ยิ่งเรามีมิตรทั่วทุกสารทิศ โลกนี้ก็เหมือนบ้านดีดีของเรานี้เอง....

เที่ยวบ้างเหอะน่าาา

7. รู้จักออมเงินซะบ้าง เราไม่จำเป็นจะต้องซื้อของรางวัลให้ตัวเองบ่อยนักก็ได้

เวลาเรามีเงิน สิ่งที่เราคิดคือต้องซื้อรางวัลให้กับตัวเองก่อนเลย เรื่องเก็บค่อยว่ากันอย่าให้รอถึงอายุเข้าเลขหกเลขเจ็ด ถึงจะคิดออมเงิน ถึงวันนั้นเราอาจจะออมเงินไว้เพียงแค่ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หมอก็ได้ สิ่งจำเป็นจริง ๆ เราก็ซื้อ.. แต่ต้องจำเป็นจริง ๆนะก่อนซื้อก็ต้องชั่งกันหน่อย ความจำเป็น กับ ความอยากได้ .. อันไหนหนักกว่ากัน ถ้าความจำเป็นหนักกว่า ก็ซื้อได้ แต่ถ้าความอยากได้หนักกว่า .. อันนี้ก็ต้องคิดกันซะหน่อย แต่บางอย่างก็เป็นความสุขทางใจ.. ต้องเสียเงินเท่าไหร่ฉันก็สู้  ถ้าอย่างนี้ก็แล้วแต่อ่ะนะ ... เอาที่คุณสบายใจไปเลย

เก็บเงินบ้าง จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน

ภาพโดย jofreepik จาก Freepik

8. ฝึกให้ตัวเองมองโลกในแง่ดีบ้าง เราจะมีความสุขก็เพราะความคิดเรานี้แหล่ะ

พยายามพาตัวเองเข้าไปในสังคมของคนที่คิดบวก คนพวกนี้จะเป็นพลังบวกให้กับเราได้ คนที่มองโลกในแง่ดี คิดบวกหรือ Positive Thinking กับ คนโลกสวย มันต่างกันนะ หลายครั้งเรามักได้ยินคนที่มองโลกในแง่ดีมักจะถูกตราหน้าว่า "คนโลกสวย " อยู่เสมอ เอาจริง ๆ แล้วคนประเภทนี้ ก็มักจะโดนย่ำยีหัวใจมาไม่น้อย จนเกิดความปลง ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลในตัวของมันเอง ..  เราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หรือ จะใช้ชีวิตอย่างคนอมทุกข์  มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองโลกยังไง ความคิดเราเป็นแบบไหนมากกว่า แต่ใช่ว่าจะเป็นการหลอกตัวเองซะละ ความจริง ก็เอาให้มันสมเหตุสมผล ..ชีวิตไม่ได้สวยงาม แต่ก็ไม่ได้เลวทรามเช่นกันนี้ อยู่กับความจริง ... ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งดี ๆ ก็เก็บเป็นความทรงจำ สิ่งไม่ดีก็เก็บมันเป็นบทเรียน ชีวิตไม่ได้มีอะไรยาก ... ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล คิดบวกไว้ ชีวิตจะได้มีความสุข

คิดบวกเข้าไว้

ภาพโดย h9images จากFreepik

9. พาตัวเองไปเยี่ยมเยียนสุสานบ้าง จะได้เข้าใจว่าชีวิตบนโลกนี้ มันไม่ได้ยืนยาว

เราเป็นคนหนึ่งที่เวลามีปัญหาหนัก ๆ มักจะขับมอเตอร์ไซต์ออกไปแถว ๆ สุสาน อย่าว่าโรคจิตอย่างนี้อย่างนั้นเลย .. มันช่วยได้จริง ๆ นะ ปัญหาที่เกิดขึ้น มันไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลยถ้าเทียบกับภาพตรงหน้า โลกหลังความตายนี้สิ .. น่าคิดกว่าเยอะเลย จงเข้าใจและยอมรับซะ ว่าชีวิตบนโลกนี้ มันไม่ได้ยืนยาวอย่างที่เราตั้งใจ เมื่อวานคนข้างบ้านเพิ่งเสียไป จะมีอะไรมาการันตีว่าวันนี้ จะไม่ใช่เรา ?มีอะไรจะทำก็รีบทำ .. มีอะไรจะสร้างก็รีบสร้างอย่าลืมทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมด้วยล่ะ ตายไปจะได้มีคนคิดถึง..

วาระสุดท้ายของชีวิตภาพโดย luis_molinero จาก Freepik

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์