อยากให้ลูกโตมาเป็นคนเก่ง ทำยังไงดี ?

wilamint

04 ก.ย. 2021|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก wilamint

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

ก็มันแน่อยู่แล้วใช่มั้ยคะ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนก็ต้องหวังอยากให้ลูกของตนนั้นโตมาแล้วกลายเป็นคนเก่ง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จะเลือกเส้นทางไว้ให้ก็กลัวลูกไม่ชอบยิ่งดื้อจะยิ่งต่อต้าน แต่ถ้าตามใจหมดทุกอย่างลูกก็จะเหลงต่อไปก็จะไม่เชื่อฟัง แหม!การเป็นพ่อแม่คนนี่มันไม่ง่ายจริงๆเลยนะคะ แต่ในวันนี้เราได้สรุปวิธีเล็กๆน้อยๆให้ท่านผู้อ่านให้ลองนำไปคิดและปรับใช้ดูกันนะคะ เริ่มกันที่

1.การเลี้ยงลูกให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

เนื่องจากเด็กนั้นมีประสบการณ์ที่น้อยกว่าพวกเราอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงมักจะคิด จินตนาการ และตั้งคำถามกับเรื่องราวต่างๆที่เขานั้นไม่เข้าใจ จากความคิดของเขา เขาอาจจะตั้งคำถามเยอะจนเรารำคาญและตอบได้ไม่หมดยิ่งตอบก็ยิ่งถาม อาจจะใช้วิธี การเปิดสารคดีเรื่องราวนั้นๆให้เค้าดู ซื้อหนังสืออ่านให้เขาฟังหรือให้เขาเปิดหนังสือดูไปเพลิน วิธีนี้ก็สามารถหยุดคำถามไปได้สักพักเลยแหละค่ะ การที่เด็กได้คิด จินตนาการ ตั้งคำถาม นี่แหละค่ะที่แสดงให้เห็นว่าลูกของเรามีความคิดสร้างสรรค์ค่ะ

ให้การสนัสนุน 2.ให้การสนับสนุน

เราควรที่จะสนับสนุนความคิดของเขาถึงแม้ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม อะอ๊า!!แต่ก็ควรที่จะอธิบายให้ลูกได้เข้าใจด้วยนะคะ และไม่ควรไปหลอกเด็กเขานะ ไม่งั้นเด็กเค้าจำไปจนโตเลยแหละค่ะ การสนับสนุนความคิดอย่างเช่น การเปิดดูสารคดีต่างๆ การซื้อหนังสือให้ลูกได้เปิดอ่านเปิดดู การซื้อของเล่นเพิ่มจินตนาการ เช่น สมุดวาดภาพระบายสี ดินน้ำมัน การหากิจกรรมมาเล่นกับลูก หรือการพาลูกไปเจอสังคมนั้นๆที่เขาชอบ เช่นเขาชอบเกี่ยวกับดาราศาสตร์ เราก็พาเขาไปดูท้องฟ้าจำลอง เขาชอบดนตรีเราก็พาเขาไปลองเรียนดนตรี เป็นต้น ซึ่งมันจะให้ลูกได้คิดและลงมือทำในสิ่งที่ชอบและสนใจ และเขาจะรู้สึกปลอดภัยเวลาที่เขาได้คิดแล้วมีพ่อแม่คอยสนับสนุน ไม่ดุด่า หรือพูดให้เสียใจ การที่เราสามารถทำให้ลูกไว้ใจเรา ปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกมากๆเลยนะคะ

เลี้ยงลูกกึ่งปล่อยกึ่งควบคุม 3.การเลี้ยงลูกแบบกึ่งปล่อยกึ่งควบคุม

การที่เราจะเลี้ยงลูกให้โตไปได้อย่างมีคุณภาพหลัก ๆ เลยก็คือ คน คน นั้นจะต้องเป็นคนที่มีวินัย หากเขามีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี ได้รับการสนับสนุนในทุก ๆ เรื่องและทุก ๆ อย่าง อาจจะทำให้เขาเหลิงและได้ใจมากเกินไป แต่หากเราใช้การบังคับมากเกินไป เช่น อันนี้อย่าทำนะ ต้องอ่านหนังสือนะ ต้องไปเรียนพิเศษนะ ต้องสอบให้ได้คะแนนเยอะ ๆ นะ แบบนี้ก็อาจจะส่งผลให้เขาเกิดความเครียด เกิดความคิดที่ต่อต้าน ดังนั้นทางที่ดีคือเราควรจะสร้างกฎระเบียบที่มีความยืดหยุ่น และเป็นการเชิญชวน ชักชวนให้เขาเกิดความคิดความรู้สึกที่อยากทำ ยกตัวอย่างการเลี้ยงลูกของ แม่พลอยชิดจันทร์ ในเรื่องการเงิน คือ แม่พลอยจะไม่ให้เงินค่าขนมเป็นรายวันอีกต่อไป แต่จะให้เงินทุกครั้งที่คุณลูกช่วยคุณแม่ทำงาน และให้คุณลูกบริหารเงินในการใช้จ่ายแต่ละวันเอง และจะสอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปันโดยการชักชวนให้ลูกนำเงินส่วนหนึ่งจากการเก็บไปร่วมบริจาคหรือการนำของเล่น ของใช้ เสื้อผ้า ที่ยังมีสภาพดีแต่ไม่ใช้แล้วไปบริจาค มันเป็นการชักชวนให้ลูกเกิดความคิดที่จะบริหารเงินที่ได้มาจากการทำงาน ได้มองเห็นและรู้จักคุณค่าของเงินมากขึ้น และทำให้ลูกเองรู้จักที่จะแบ่งปันในยามที่เรามีอีกด้วย ถือเป็นการสอนลูกที่ดีมากๆเลยแหละค่ะ

ลูกจะโตไปเป็นคนเก่ง ได้หรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเพียงอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับการสอน ดูแลเอาใจใส่ ความอบอุ่น ความปลอดภัย จากบุคคลสำคัญอย่างผู้เป็นพ่อและแม่ด้วยนะคะ ^^
เครดิตภาพ : ภาพปก โดย skalekar1992 จาก pixabay