ฟังก่อนพูด จบทุกดราม่า

07 ก.ค. 2022|3 min read

อ่านบทความอื่นจาก In-Trend Creator

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

หลายครั้งในชีวิต สังเกตมั๊ย ถ้า " ฟังก่อนพูด " เท่านั้นแหละ ทุกอย่างสวยงามเลย ที่ร้อนก็ผ่อนเย็น ที่แรงก็นุ่มนวล แต่ที่เป็นเรื่องกันหนักๆทุกวันนี้ เพราะทุกคนเอาแต่พูดไม่ฟังกัน ลองมาอ่านประสพการณ์ฝ่ายบุคคลจำเป็น ที่จะเล่านี้ดูค่ะ จะยิ้มออกเลย แค่เราหยุดฟังคนอื่นเท่านั้น ทุกปัญหาจะคลีคลายลงทันที

เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว ตอนยังเป็นพนักงานตัวเล็กๆ ตำแหน่งน้อยๆ ของบริษัทใหญ่ระดับประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศไทย ก็ไม่ได้อยู่ฝ่ายบุคคล หรือ ฝ่าย รปภ. อะนะ ... อยู่ฝ่ายรับสินค้า มีหน้าที่ดูแลกระบวนการรับสินค้าของฝ่ายรับสินค้าทุกสาขาทั่วประเทศไทย

วันนึง ผลั๊ว!! ท่าน ผอ.ฝ่ายเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น กล่าวว่า "ให้เวลา 2 วัน แล้วรีบเดินทางลงสาขาภูเก็ตด่วน ให้เบิกเงินทดลองการเดินทางที่ฝ่ายบัญชีตอนนี้ และไปพบ ผอ.ฝ่ายบุคคลใหญ่ เดี๋ยวนี้... @*@ งงดิ!เรา เกิดรัยขึ้น?

แหลมพรหมเทพ ก็ไปทำเรื่องเบิกเงินทดรองที่ฝ่ายบัญชีเสร็จแล้วก็ตรงไปพบ ผอ.ฝ่ายบุคคลใหญ่ของกลุ่มบริษัทฯ ฟังการ Brief ข้อมูลการเดินทางครั้งนี้ ทราบว่า ที่สาขาภูเก็ตมีพนักงานระดับปฏิบัติการตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ข่มขู่ผู้จัดการสาขา และผู้จัดการฝ่าย ว่าจะฆ่าเผานั่งยาง จะยิงให้ตายเสีย

ฉันตกใจ!! +_+" : อ้าว!วววพี่ แล้วเรื่องพนักงานก็ต้องฝ่ายบุคคลสิ เกี่ยวอะไรกับฝ่ายรับสินค้าอะ ฝั่งตรงข้ามสาขาก็เป็นที่ตั้งของธุรกิจใหญ่ของกลุ่มบริษัท มิใช่หรือ ทำไมบุคคลที่นั่นไม่จัดการ ทำไมต้องให้คนจากสำนักงานใหญ่ต้องลงไปเคลียร์ และทำไมต้องเป็นฉัน

-_- ท่าน ผอ.ไม่ตอบก้มหน้า ไม่พูด -_- ฉันพกความสงสัย ตรงไปพบ ผอ.ฝ่าย รปภ.ใหญ่ถามว่าทราบเรื่องที่สาขาภูเก็ตมั๊ย

ผอ.ฝ่าย รปภ.ใหญ่ ตอบว่า "ทราบ"

ฉันถามว่า อ้าว!!!แล้วทำไม คนในสังกัดพี่ไม่ดำเนินการเองหล่ะ

ผอ.ตอบว่า : "รปภ. ก็ตายเป็นเหมือนกัน"

ฉันร้อง "อ้าววววววว แล้วเกี่ยวกับฉันตรงไหน ฉันอยู่คนละฝ่าย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ทำไมผู้ใหญ่สั่งฉันลงไปเคลียร์เรื่องนี้" ผอ.ฝ่าย รปภ.ใหญ่ เงียบ ???

พระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ วันเดินทาง แน่นอนกลัวดิ!! +*+ เพราะตามข้อมูลคนที่ต้องไปเคลียร์ที่ภูเก็ต เป็นผู้ชายที่อยู่แก็งค์รถฮาเล่ย์ของท้องถิ่น และเป็นร่างทรงในเทศกาลกินเจที่ภูเก็ต แถมข่มขู่ใครไปทั่ว จนเป็นที่เล่าขานความน่าสะพรึงกลัวปากต่อปาก มาถึงหูผู้ใหญ่ และตกมาถึงฉันนี่งัย ที่ถูกสั่งมาเคลียร์จัดการให้ออก

เมื่อถึงสาขา ฉันยังไม่ยอมคุยกับน้องผู้ชายคนนั้น พนักงานสาขาพาฉันไปนั่งทำใจชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ และปลอบว่า "พี่ คุยกับน้องผู้ชายคนนี้เถอะ เขานับถือพี่มากนะ" ฉันเตรียมตัวนัดกับเพื่อนที่มาด้วยกันว่าจะคุยวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับและวางแผนการหนีอย่างรอบคอบหลังจากคุยด้วยความกลัว จะตรงไปขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ทันทีหลังคุยเสร็จ

คุยกับน้องผู้ชาย เช้าวันสุดท้ายก็มาถึง ฉ้นให้พนักงานสาขาเรียกน้องผู้ชายเข้าพบ เมื่อน้องผู้ชายเข้ามา สวัสดีฉัน ฉันถามว่า : "ว่าไง ! เธอมีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังไหม" จากนั้น ฉันฟังน้องผู้ชายเล่าตลอดราว 15 นาที โดยไม่พูดอะไร ฟังอย่างเดียว เมื่อฟังจบ ฉันยิ้มกว้างและ

บอกกับน้องผู้ชายว่า : "รู้ตัวมั้ย คนกลัวเธอทั้งเครือบริษัท ไม่มีใครกล้าคุยเพราะเล่าขานไปถึงกรุงเทพฯ ว่าเธอขู่ฆ่า เผานั่งยาง ลอบยิง ผู้จัดการสาขา และ ผู้จัดการฝ่าย ทุกคนกลัวลงความเห็นส่งฉันมาทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง จริงๆ แล้ว ต้นเหตุมาจากไม่ฟังกัน คิดกันไปเอง ทุกฝ่ายพูดอย่างเดียวไม่ยอมหยุดฟังกันและกันเลย เอาหล่ะ..... ฟังพี่นะ ที่เธอเป็นห่วงสวัสดิการและสวัสดิภาพของลูกน้องเธอ พี่บอกเธอตรงนี้เลย เพราะพี่เป็นคนทำสัญญานี้เอง ลูกน้องของเธอได้รับสวัสดิการทุกอย่างจาก Sub-Contract ซึ่งทางบริษัทมีสัญญาครอบคลุมไว้แล้ว ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นหน้าที่ของต้นสังกัดของเขา แต่ตัวเธอสังกัดตรงกับบริษัทฯ สวัสดิการจึงแยกกัน เธอ man มากนะที่ปกป้องลูกน้อง แต่ถ้าจะให้ดี ครั้งหน้าฟังให้มากกว่าพูด และฟังก่อนพูด

ฉันกับพนักงานสาขา ฉันก็เรียกพนักงานสาขามาอธิบายถึงสวัสดิการและเรื่องที่เกี่ยวข้อง ทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกัน "อ้อ เพิ่งทราบจากพี่นี่แหละ" ฉันจึงสรุปว่าขอให้ทุกฝ่ายฟังกันให้มากกว่าพูด ปากต่อปากเรื่องราวเลยไปไกลจนเป็นดราม่าสยองขวัญเลยนี่ เมื่อปรับความเข้าใจได้แล้ว แค่ฟังครั้งเดียวก็จบทุก DRAMA แล้วฉันโทรไปสรุปให้ ผอ.ฝ่ายที่สำนักงานใหญ่ฟัง

ผอ.ฝ่ายที่สำนักงานใหญ่ร้องว่า : "เอ๊า!! ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ แค่คุณพูดทุกอย่างจบเลยเหรอ"

ใช่ค่ะ ก่อนพูดต้องฟังให้มากก่อน แล้วมาจับประเด็นปัญหาแล้วค่อยเคลียร์ทีเดียว ทุก DRAMA จบเลย ต้องเริ่มต้นที่

1. ทุกคนต้องฟังกัน เมื่อเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายขัดข้องสงสัย จะทราบได้ทันทีว่าเราต้องแก้ไขและพูดอย่างไร ถ้าไม่ฟังกันเหมือนเรื่องนี้ ต่างฝ่ายเอาแต่พูด เล่าปากต่อปาก ขยายความกันไป ปากคนเติมแต่งระบายสี จากแค่อยากถามหาสวัสดิการให้ลูกน้องตัวเอง ถ้าฟังก่อน แล้วค่อยพูดอธิบาย จะไม่เกิดเรื่องเลย

2. จากเรื่องแค่นี้ลือปากต่อปากไปเป็น ก้าวร้าวขู่ฆ่า , เผานั่งยาง , ลอบยิงทิ้ง แค่บินมาฟังปัญหาน้องผู้ชายที่สาขา แล้วค่อยอธิบายให้เข้าใจ เท่านั้นเลย ทุกอย่างจบดราม่า

แล้วเรื่องราวก็กลับคืนสู่การดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อทุกคนเข้าใจกัน

ภาพประกอบบทความ ถ่ายและสร้างโดย MingChen

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*
ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`