รีวิวชีวิต!!! แต่งงานตั้งแต่อายุ18

280

zara

08 ก.ค. 2021|3 min read

อ่านบทความอื่นจาก zara

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย ชีวิตพังจริงหรือ?

ขอเกริ่นนำก่อนนะคะ ว่าตัวผู้เขียนบทความเองเป็นหนึ่งในคนที่แต่งงานตั้งแต่อายุ18 ซึ่งในสังคมปัจจุบันถูกมองว่ายังเด็กมากๆ วันนี้จึงอยากมารีวิวชีวิตหลังแต่งงาน ว่าแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น มีข้อดีข้อเสียยังไง เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจกำลังจะแต่งงานอยู่

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเรากับแฟนคบกันตั้งแต่เรียนตอนม.ต้น โดยที่แฟนเราอายุมากกว่าเราสามปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกันมาแฟนเราก็แสดงความจริงใจและให้เกียรติกับครอบครัวตลอดมา ไม่เคยแม้แต่จะจับมือหรือไปเที่ยวด้วยกันสักครั้ง มีเพียงแค่การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น และเมื่อถึงเทศกาลวันสำคัญเช่นวันเกิดเรา แฟนเราก็จะซื้อของขวัญวันเกิดมาให้แต่ก็จะเป็นการให้ที่ฝากแม่ของเรามา เรียกได้ว่าความรักของเราอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอดมา จนกระทั่งเราเรียนจบ ม.6 เราตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในตอนนั้น เพราะเราอยากทำงาน อยากมีเงินใช้ อยากมีเงินให้พ่อแม่ จนเราได้ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งได้ประมาณสามเดือน การสู่ขอเราเพื่อแต่งงานจึงเกิดขึ้น แม้ว่าในตอนนี้ทั้งเราและแฟนจะมีงานทำแล้วทั้งสองคน และแม้ว่าที่ผ่านมาความรักของเราจะอยู่นสายตาของผู้ใหญ่ตลอดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะราบรื่น ด้วยความที่เราเป็นน้องคนสุดท้อง และชีวิตคู่ของพี่เราก็ไม่ค่อยจะเป็นไปในทางที่ดีสักเท่าไร นั่นเป็นเหตุผลที่แม่เราค้านขาดใจ บวกกับความที่เราเพิ่งจะอายุ18 ในสายตาของแม่มองว่าเรายังเด็ก ยังมีโอกาสที่ดีกว่านี้ แต่ในความคิดของเราตอนนั้นคือ การแต่งงานเป็นการเริ่มต้นอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิต เราอยากจะใช้ชีวิตกับคนที่เรารักให้มันถูกต้อง อยู่ในแนวทางที่ควรจะเป็น ซึ่งตอนนั้นแม่เราก็ถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าจะแต่ง" "คิดดีแล้วใช่มั้ย?" คำตอบของเรายังคงหมือนเดิมและหนักแน่น เรายืนยันกับแม่ไปว่ายังไงเราก็จะแต่ง ในที่สุดเรากับแฟนก็ได้แต่งงานกัน

แต่กว่าจะได้แต่งก็มีเสียน้ำตากันไปบ้าง เรียกได้ว่าอุปสรรคค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จนปัจจุบันนี้เราแต่งงานมาได้เกือบ ๆ จะสองปีแล้ว มันก็มีเรื่องราวมากมายที่เข้ามาทดสอบชีวิตคู่ของเรา ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยคือช่วงโควิดรอบแรก ทำให้เราตกงาน ชีวิตก็เป๋เหมือนกันนะ พอไม่มีงานก็ขาดรายได้ ในขณะที่เราฟุ้งซ่าน เครียดมาก ๆ ในทางกลับกันแฟนเราสงบมาก ให้ข้อคิดและกำลังใจทำให้เราเรียนรู้ที่จะนิ่งกับสถานการณ์ต่างๆมากขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้ในการฝึกฝนควบคุมสติไม่เตลิดไปกับปัญหาต่าง ๆ หากให้เรารีวิวชีวิตหลังแต่งงาน สำหรับคู่ของเรา เรารู้สึกว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้น และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เรากับแฟนค่อนข้างให้เกียรติซึ่งกันและกันมากพอสมควร ไม่ถึงกับว่า เราเป็นช้างเท้าหลัง แต่เรารับฟังซึ่งกันและกันมากกว่า และเราสองคนมักใช้เหตุผลในการคุยกันเสมอ อาจมีไม่เข้าใจกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเราจะไม่พูดอะไรที่สิ้นคิดออกไปที่มันจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีเพราะคำพูดที่แย่ ๆ มันจะนำมาซึ่งความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้น หากไม่เข้าใจ หรือโมโหหนัก ๆ เข้า เราสองคนจะแยกย้ายกันไปสงบสติอารมณ์คนละมุม พอใจเย็นขึ้นก็ค่อยมาคุยกันว่าจะทำยังไงกับปัญหานี้ แต่บางเรื่องมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ใจเราหวังหรือต้องการซะทุกอย่างหรอก เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับมันและอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างในชีวิตคู่คือ การรู้จักหน้าที่ของตัวเอง เราว่าข้อนี้สำคัญมากทีเดียว เพราะเมื่อไรที่เรารู้จักบทบาทและหน้าที่ของตัวเองและทำปฏิบัติหน้าที่นั้นอย่างดี มันช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาในชีวิตคู่ได้เยอะเลย ตั้งแต่เราตกงานในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราได้มีการพูดคุยปรึกษาและแบ่งหน้าที่กัน โดยที่สามีเราจะเป็นคนออกไปทำงานหาเงินมาดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เอง ส่วนเราก็ให้ทำงานบ้าน ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างในบ้าน อาจมีบางครั้งที่เรารับออเดอร์ขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือขายของออนไลน์นิด ๆ หน่อย ๆ ไว้เป็นเงินส่วนตัว และแน่นอนว่าเราต่างคนก็ต่างปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แฟนเราออกไปทำงานในทุก ๆ วัน กลับบ้านมาก็มีอาหารอร่อย ๆ ทาน มีเสื้อผ้าหอม ๆ ให้สวมใส่ มีห้องน้ำที่สะอาดให้ใช้ แค่นี้ก็ทำให้ความสุขในชีวิตคู่ก็เกิดขึ้นแล้ว แต่หากมองในทางกลับกัน ถ้าต่างคนต่างไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง สามีก็เอาแต่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ดูแลรับผิดชอบอะไรเลย ส่วนภรรยาก็ไม่ได้ดูแลบ้านช่องให้มันสะอาด ให้มันน่าอยู่ แน่นอนว่านานวันเข้าก็ขัดแย้งกัน เกิดการทะเลาะกันและนำไปสู่การเลิกรากันในที่สุด

ภาพโดย <a href= mohamed Hassan จาก Pixabay" />ดังนั้นการแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยสำหรับเรามันไม่ได้แย่ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและตัวคุณเองเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าคุณพร้อมแล้วหรือยัง ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไร หากคุณมีความพร้อมที่จะแต่งงานก็ถือเป็นสิ่งที่ดี ความพร้อมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความพร้อมทางด้านการเงินเท่านั้น แต่รวมไปถึงความพร้อมในการรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความพร้อมในการรับผิดชอบต่ออารมณ์และความรู้สึกด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดนี้ไม่ว่าคุณกำลังตัดสินใจในเรื่องใดอยู่ก็ตาม ขอให้ใช้สติในการตัดสินใจ หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสำหรับใครที่มีคู่ก็ขอให้มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่นะคะ ส่วนใครที่ยังโสดก็ขอให้เจอคู่ชีวิตที่ดี เจอคนที่จะทำให้คุณมีสติกับทุกปัญหาในชีวิตค่ะ