อื่นๆ

หัวของผู้ชายคนนั้นหายไปไหน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
หัวของผู้ชายคนนั้นหายไปไหน

สวัสดีนักอ่านผู้แสวงหาความเร้นลับทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์เร้นลับที่เคยพบจบสมัยเด็ก เพราะผมยังสงสัยว่าเรื่องที่ผมเจอมานั้นมันเป็นคนหรืออะไรกันแน่

ย้อนไปในสมัยที่ผม​ เรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ผมได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนกับเพื่อนอีก 2 คน ไปเข้าค่ายจิตอาสาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่อำเภอคลองวาฬ ซึ่งในระหว่างการไปเข้าค่ายนั้นมีคุณครู 2 คนที่ไปดูแลพวกผมที่ค่ายด้วย

ถนนการเดินทางภาพโดย​ Free​ - Photos​ จาก​ pixabay

ในการเข้าค่ายนั้นผมมีความสุข สนุกและได้เพื่อนเพิ่มอีกหลายคนในเข้าค่ายนั้นด้วย ซึ่งเรื่องที่ทำให้ผมต้องจดจำมาจนทุกวันนี้นั้นเกิดตอนเดินทางกลับสุพรรณบุรี หลังจากพิธีปิดการเข้าค่ายนั้นจบ คุณครูและพวกผมก็ขึ้นรถกระบะของคุณครูเพื่อเดินทางกลับซึ่งเวลานั้นก็ประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว เพื่อน 2 คนนั้นนั่งข้างหลังคนขับและข้างหลังเบาะข้างคนขับ ส่วนผมนั้นนั่งตรงกลาง ซึ่งระหว่างการเดินทางผมมองทางแทบตลอดเวลาเพื่อจะดูว่า ผมถึงไหนแล้ว และแล้วผมก็มองเห็นป้ายโรงเรียนกุยบุรี ซึ่งถนนเส้นนี้กำลังก่อสร้างใหม่ ถนนเส้นนี้เป็นดินลูกรังยาวหลายกิโล มีหลอดไปสีขาวตั้งเป็นระยะ ๆ หลังจากคุณครูขับรถผ่านหน้าโรงเรียนกุยบุรีไปได้ไม่ไกล

Advertisement

Advertisement

เงาโบกมือภาพโดย​ KELLEPICS  จาก​ pixabay

ผมก็มองเห็นผู้ชายคนหนึ่ง เขายืนโบกรถอยู่ไกล ๆ ดูคล้าย ๆ เหมือนว่าเขานั้นจะขอติดรถไปด้วย ผมเห็นผู้ชายคนนั้นมีลักษณะเหมือนคนชายวัยกลางคน ผิวสีดำค้ำ ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว ใส่กางเกงขาสั้นสีดำคล้าย ๆ กางเกงนักเรียน แต่สิ่งที่ผมมองไม่เห็นนั้นคือ หัวของผู้ชายคนนั้น ซึ่งตอนแรกที่ผมเห็นนั้นผมคิดว่า อาจเป็นเพราะระยะห่างจากรถและผู้ชายคนนั้นอยู่ไกลกันเลยทำให้มองไม่เห็นหัวของเขา

มือคนภาพโดย​ Simonwijers  จาก​ pixabay

แต่พอคุณครูขับรถเข้าไปไกล้เรื่อย ๆ ผมก็พยายามมองดูส่วนหัวของผู้ชายคนนั้น แต่แล้วก็ยังมองไม่เห็นและเมื่อคุณครูขับรถผ่านผู้ชายคนนั้น ผมจ้องมองไปที่ผู้ชายคนนั้นอย่างตั้งใจแต่ก็มองไม่เห็นหัวผู้ชายคนนั้น ผมตกใจแต่ก็ยังหันหลังมองตามจนรถขับผ่านไปไกลจนมองไม่เห็นชายคนนั้น ผมนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากถามเพื่อนทั้ง 2 คนว่าเห็นผู้ชายคนเมื่อกี้มั้ย เขาโบกมือเรียกขอขึ้นรถมาด้วย เพื่อนทั้ง 2 คนตอบว่าไม่เห็นมีใครโบกรถเลยนะ คุณครูหันมาถามว่า เองเห็นใครเหรอ ครูขับรถก็ไม่เห็นมีใครโบกมือเรียกเลยนะ ผมก็บอกคุณครูไปว่า เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีขาวใส่กางเกงสีดำ ยืนโบกรถอยู่ข้างทาง แต่ว่าเขาไม่มีหัว คุณครูบอกกับผมว่า เองตาฝาดแล้ว แล้วคุณครูก็ขับรถต่อไปจนถึงโรงเรียน เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ พ่อแม่ของเพื่อนและของผมก็มารอรับกลับบ้าน แต่ผมก็ยังคาใจกับสิ่งที่ผมเห็นเมื่อตอนนั่งรถว่า ผู้ชายคนนั้น หัวของเขาหายไปไหน ทำไมถึงมองไม่เห็นหัวของเขา

Advertisement

Advertisement

เช้าวันจันทร์ที่ห้องเรียนภาพโดย​ Pexels​ จาก​ pixabay

เช้าวันจันทร์ เป็นวันที่ผมไปเรียนวันแรกหลังจากไปเข้าค่ายมา 1 สัปดาห์ ผมก็เอาเรื่องที่ผมเห็นไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง หลายคนบอกว่าผมบ้า บางคนบอกผมตาฝาด บางคนบอกผมโกหกแต่งเรื่อง ซึ่งผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้เพื่อนเชื่อเรื่องที่ผมเห็นว่าผมเห็นผู้ชายคนนั้นจริง ๆ ผมไม่ได้ตาฝาด ผมไม่ได้แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา

และผมก็ยืนยันกับทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ว่า ผมไม่ได้แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ผมเห็นผู้ชายคนนั้นจริง ๆ !!

จนเรื่องไปถึงคุณครูประจำชั้น​ จนคุณครูวิ่งมาบอกผมเเละเพื่อน​ ๆ​ ให้ฟังว่า  นั่นอาจจะเป็นดวงวิญวาญของนักเรียนอาชีวะที่โดนรถชน​ที่นั่น​ ซึ่งหลายปีก่อนมีข่าวนักเรียนถูกรถชน​ สิบล้อทับหัวขาด​ เละ​ สยดสยองมาก​ ทางถนนจึงมาทำบุญครั้งใหญ่ทีเดียว​ เเต่ชาวบ้านที่บอกคุณครูมาก็บอกว่าไม่มีใครพบดวงวิญญาณของคนนั้นเลย​ อาจารย์บอกผมมาเท่านี้​ เเต่ผมก็สงสัยว่าผีตนนั้นมาปรากฏตัวให้ผมเห็นเพื่อต้องการอะไรกันเเน่​ ?

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์