ไลฟ์แฮ็ก

วิธีออกจากความคิดที่เป็นทุกข์

153
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วิธีออกจากความคิดที่เป็นทุกข์

           การออกจากความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ เป็นการดำเนินชีวิต โดยไม่เข้าใจ ว่า สุข และทุกข์ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับโลก เป็นเรื่องธรรมดา ที่ผู้คนต้องพบเจอ 

           การหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่เป็นทุกข์ ทำให้เวลาในชีวิตหมดความสุขที่แท้จริงไปโดยเปล่าประโยชน์ นั่นเท่ากับว่า กำลังทำลายสุขภาพจิตใจไปโดยไร้คุณค่า ความทุกข์ทางร่างกายกับความทุกข์ทางจิตใจ เป็นความทุกข์ที่แยกกันได้ ด้วยตัวกลาง คือความรู้สึกนึกคิด  แต่ผู้คน   ส่วนใหญ่ ยังเผชิญอยู่กับความเชื่อที่ว่า ความทุกข์ คือ สิ่งที่อยู่ติดตัวเรามาแต่กำเนิด ไม่สามารถตัดทิ้งออกไปได้ เพราะเราต่างเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ใช่ผู้บรรลุธรรม  

เครดิตภาพ โดย qimono จาก https://pixabay.com/thถ่ายภาพโดย qimono จาก pixabay              

           ในทางพระพุทธศาสนา มีคำสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อความคิดที่หมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ โดยใช้สติกำหนดรู้อยู่กับปัจจุบัน คือ การมีสติอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน หากผู้ใด มีสติรับรู้ รู้สึกนึกคิดต่อสิ่งที่ทำอยู่ ก็สามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ คำสอนวรรคหนึ่งของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) กล่าวว่า "ความทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ได้มีไว้ให้เป็น" นั่นสะท้อนให้เห็นว่า เราสามารถจัดการกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้จากสาเหตุ คือ ต้นตอทางความรู้สึกนึกคิด

Advertisement

Advertisement

วัดโบราณ จังหวัดสงขลา ภาพถ่ายโดยผู้เขียนถ่ายภาพโดยผู้เขียน      

         วิธีออกจากความคิดที่หมกมุ่นอยู่ในความทุกข์ พระพุทธองค์สอนไว้ 5 ระดับด้วยกัน ได้แก่

          ระดับที่ 1 เริ่มต้นจากระดับแรก คือ เมื่อคิดถึงสิ่งที่ไม่ดีอยู่  ให้กลับความคิดไปคิดถึงสิ่งที่ดีงามแทน เช่น เมื่อโกรธ ให้ดึงสติแล้วคิดเมตตาให้อภัยแทนการคิด จะทำร้ายกัน

         ระดับที่ 2 หากยังจัดการความคิดนั้นไม่ได้ให้ดำเนินการในระดับที่สอง คือ คิดถึงโทษความไม่ดีของการคิดที่ไม่ดีนั้นว่า มีประโยชน์อะไรบ้าง นอกจากจะทำร้ายตนเองและอาจไปพาลทำร้ายคนอื่น

          ระดับที่ 3 แต่หากยังระงับความคิดนั้นไม่ได้อีก ให้ดำเนินการในระดับที่สาม คือ ลองหักดิบ เลิกคิดถึง  สิ่งไม่ดีนั้น หรือไปทำอย่างอื่น เพื่อเบนความสนใจจาก  การหมกมุ่นในความคิดนั้น

          ระดับที่ 4 หากยังไม่สามารถระดับความคิดนั้นได้ ให้ดำเนินการในระดับที่สี่ คือ คิดหาสาเหตุ ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราจมอยู่กับความคิดที่เป็นทุกข์นั้น เมื่อเจอสาเหตุแล้วก็ให้คิดแก้ไข   ก็จะสามารถหยุดความคิดนั้นไว้ได้

Advertisement

Advertisement

          ระดับที่ 5 หากว่า ยังไม่สามารถระงับความคิดไม่ดีนั้นได้ให้ดำเนินการในระดับที่ห้า คือ ดึงสติ โดยการเตือนทางร่ายกาย เช่น หยิกต้นขาตัวเอง เอามือตีแขน เพื่อดึงสติให้สามารถครองจิตใจให้หลุดออกมาจากความคิดที่หมกมุ่นในความทุกข์นั้น 

เครดิต: ภาพโดย skeeze ที่มาจาก https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9-%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B0-%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-1364314/

เครดิต: ภาพโดย skeeze จาก pixabay

          วิธีออกจากความคิดที่หมกมุ่นในความทุกข์ สำหรับผู้เขียนแล้ว จะบรรเทาความรู้สึกที่คิดมาก หรือกังวลในเรื่องต่าง ๆ ด้วยการหักดิบ เพราะมองเห็นว่าการจ่อมจมอยู่ในความคิดที่เป็นทุกข์ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แล้วไปหากิจกรรมบางอย่างที่ชอบกระทำ เช่น การอ่านหนังสือ การเขียนบทความ และการดูหนัง การดูกีฬาฟุตบอล หรือชมสารคดี เพื่อตัดความคิดกังวลให้ออกไปจากจิตใจ ดังนั้น การรักษาสุขภาพจิตใจ จึงเป็นมิติสำคัญของการรักษาสมดุลในชีวิตให้มีความงดงาม ซึ่งมีวิธีการที่ผู้รู้ทางศาสนาได้พร่ำสอนไว้แล้ว ลองนำมาใช้ปฏิบัติดูนะครับ 

Advertisement

Advertisement

เครดิตภาพปก โดยผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์