อื่นๆ
29 ข้อคิด...แนวทาง"การเลี้ยงลูก"

ขอบอกเล่าประสบการณ์จริงและเรื่องจริงที่พบเจอในสังคมไทยแบบไม่โลกสวยกันเลยดีกว่านะคะ
เพื่อหลายคนจะได้ฉุกคิดทบทวนในสิ่งที่กำลังประสบพบเจออยู่ค่ะ
1) พ่อแม่หลายคนมักหวังให้ลูกได้เข้าเรียนที่ดี ๆ เรียนสูง ๆ จบมาได้ทำงานดี ๆ ไม่ลำบากเหมือนพ่อแม่
2) ไม่ใช่เรื่องผิดที่พ่อแม่คิดแบบนั้นเพราะพ่อแม่มักรักลูกและหวังดีกับลูกเสมอ
3) พ่อแม่บางคนยัดเยียดให้ลูกเรียนสาขานั้น มหาวิทยาลัยนี้ ทำอาชีพโน่น
4) ถามลูกหรือยังว่าอยากเรียนหรือเปล่า? และความจริงเขาชอบอะไร ถนัดด้านไหนกันแน่ คุณเคยรู้จักตัวตนของลูกคุณสักครั้งไหม?
5) หรือพ่อแม่หวังแต่เพียงต้องการสร้างตัวตนให้ลูก โดยไม่เปิดโอกาส ไม่มอบเส้นทางให้เขาตัดสินใจ หรือคิดหาคำตอบด้วยตัวเองบ้างเลย
6) พ่อแม่หลายคนมีปัญหาด้านการเงิน ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ไม่มีเงินส่งลูกเรียน แต่ยังไม่ยอมบอกเรื่องราวที่บ้านกับลูกตรง ๆ
Advertisement
Advertisement
7) แม้ลูกจะไม่เข้าใจในทีแรก แต่ถ้าคุณบอกอย่างน้อยลูกคุณจะเริ่มรู้ และเริ่มเห็น เริ่มเข้าใจปัญหาของที่บ้านมากขึ้นค่ะ
8) ถ้าเด็กที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงแบบตามใจมากนัก เขาจะคิดได้ คิดเป็น และหาทางช่วยพ่อแม่เองค่ะ
9) การออกมาทำงานช่วยพ่อแม่ ไม่มีเงินเรียนต่อ ไม่ได้หมายความว่าอนาคตลูกคุณจะหมดไป
10) เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน สุดท้ายจบมาก็ต้องเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่อยู่ดี
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay
11) ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเด็กเอง ไม่ใช่ชื่อเสียงของสถาบันดัง ๆ ที่คุณอยากให้ลูกเข้าไปเรียนแต่อย่างใด
12) ถ้าเด็กเขาขยัน มีวินัย มีความรับผิดชอบ รักพ่อรักแม่ ต่อให้ชีวิตไม่มีต้นทุนอะไรเลย ปากกัดตีนถีบมากแค่ไหน เขาจะพยายามฝ่าฝัน
หาทางเรียนจนจบให้ได้เอง
13) อย่าพยายามช่วยลูกคุณทุกอย่าง โอ๋ลูก ตามใจลูก เพราะนั่นคือการทำลายชีวิตลูกคุณทางอ้อมให้อนาคตเขาดับลงอย่างช้า ๆ
Advertisement
Advertisement
โดยไม่รู้ตัว
14) หัดให้ลูกทำงานหาเงินเองให้เป็นเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี อายุน้อยก็เริ่มได้ เด็กที่รู้ค่าของเงิน จะเติบโตและพบหนทางชีวิต เป้าหมายชีวิต และ
ความสุขของชีวิตได้เร็วกว่าเด็กทั่วไปที่ไม่เคยทำงานหาเงินอย่างแน่นอน
15) คนทำงานเร็ว มีเงินเก็บเร็ว คือ คนที่จะประสบความสำเร็จได้เร็ว กว่าคนที่เรียนจบเร็ว เงินเดือนสูงปรี๊ด แต่ไม่มีเงินเก็บ
16) ให้ลูกคุณลำบากบ้างเถอะ ต่อให้คุณจะทนเห็นลูกลำบากไม่ได้เลย ก็ต้องทนให้ลูกลำบาก เพราะความลำบากนี้ จะเป็นภูมิกันชั้นดี
ให้เขามีความอดทน สามารถอยู่ในสังคมสีเทานี้ได้อย่างมีความสุข มากกว่าเด็กที่เคยชินยึดติดอยู่กับความสบายจนเกินไป
17) อย่าประเคนให้ลูกทุกสิ่งทุกอย่าง เงินเกษียณคุณก็เก็บไว้ใช้เถอะ คุณต้องสอนวิธีจับปลาให้ลูก ไม่ใช่เอาแต่คอยโยนปลาให้ลูกกิน
อย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน
Advertisement
Advertisement
18) เพราะถ้าวันหนึ่งคุณไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ใครที่ไหนจะมามัวโยนปลา โยนเงิน ให้พวกเขากินใช้อยู่ล่ะ ไม่มีแน่นอน
นอกจากเขาต้องดิ้นรนหาปลามากินเอง
19) ลูกคุณดิ้นรนหาปลาเอง ในขณะที่คุณมีชีวิตอยู่ คุณยังมองเห็นเขา ยังคอยอยู่เป็นกำลังใจให้เขา ปลอบเขายามท้อ ยามร้องไห้
เป็นแรงผลักดันให้เขาสู้ไปจนสำเร็จ
20) อย่ารอให้คุณจากไป แล้วเขาไปดิ้นรน เพราะวันที่ลูกคุณล้มลง แล้วไม่เหลือใครมาปลอบ มาให้กำลังใจ มาคอยเป็นแรงผลักดันเขาเลย
นั่นจะกลายเป็นวันที่เลวร้ายมากที่สุดในชีวิตของลูกคุณทันที
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay
21) ทั้งที่ในโลกแห่งความจริง มีหลากหลายอาชีพ ไม่จำเป็นต้องใช้เกรดเฉลี่ย ไม่จำเป็นต้องจบม.ปลาย หรือป.ตรี ก็สามารถทำงานมีชีวิตที่ดี
ได้เหมือนกัน
22) ไม่ว่าลูกคุณจะเลือกอะไร ขอแค่เป็นอาชีพที่เขารัก เขาถนัด สุจริต และหาเงินเลี้ยงปากท้องตัวเองได้ มีเงินกิน เงินใช้ เงินเก็บ และใช้ชีวิต
อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ
23) อย่าเอาเกรดมาตัดสินชีวิตเด็ก อย่าเอาชื่อเสียงสถาบันมาตัดสินอนาคตใคร
24) เด็กดีก็เปลี่ยนเป็นเด็กไม่ดีได้ในชั่วพริบตา หากขาดสติ ไม่ยับยั้งชั่งใจ
25) เด็กเกเร ก็กลับกลายเป็นเด็กดีมีอนาคตได้ แค่คุณให้โอกาสเขา เข้าใจเขา และรับรู้ให้ได้ว่าตัวตนของลูกคุณจริง ๆ แล้ว เขาคือใคร
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว กับการทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่ดี
26) วิธีการวัดว่าใครประสบความสำเร็จมากกว่ากัน คือ ปริมาณความสุขที่มี ไม่ใช่จากเกรดเฉลี่ย หรือสถาบันที่อยากให้ลูกคุณเรียน
27) อย่าโทษตัวเอง ถ้าไม่มีเงินส่งลูกเรียน มีหลายทางที่ลูกคุณจะสามารถเรียนต่อได้แบบเด็กคนอื่นเขา และมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย
ประสบการณ์ทำงานระหว่างเรียน แทนที่จะเรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว
28) การให้ลูกออกไปเผชิญสังคมการทำงานจริง เร็วเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อตัวลูกของคุณเอง
29) เพราะประสบการณ์เหล่านี้ ไม่มีใคร สถาบันใด โรงเรียนไหน หนังสือเล่มใด จะสามารถสอนลูกคุณได้ดีเท่าประสบการณ์จริง และสังคมจริง
ที่ลูกคุณต้องเจอ! จบม.3 ก็ต่อ มสธ. จบป.ตรี ได้ จบม.3 ก็เรียนพรีดีกรี ม.รามฯ จบป.ตรีได้ พอเรียนจบกศน. เทียบเท่าวุฒิม.6 ค่อยเอาไป
เทียบเป็นป.ตรีเต็มตัว
====================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Frantisek Krejci จาก Pixabay
แอดเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะเคยไปโรงเรียนหนึ่ง เจอเคสที่ผู้ปกครองหลายคน กำลังเครียดไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูก
จนลูกถูกตัดชื่อออกจากโรงเรียนไม่ให้เรียนต่อ แอดจึงคิดว่าถ้าพ่อแม่ลูกหันหน้าคุยกันได้ ว่าพ่อแม่มีปัญหาการเงิน ลำบากอย่างไรบ้าง
แอดเชื่อว่าอย่างน้อยลูกคุณเข้าใจค่ะ อย่าพยายามติดหนี้เพราะลูก และอย่าให้ลูกติดหนี้เพราะเรียนต่อเลยค่ะ
โดยเฉพาะอาชีพที่เป็นหนี้มากที่สุด คือ อาชีพครู เพราะมีให้กู้สารพัดแบบ อย่าหวังแค่ให้ครูเป็นต้นแบบที่ดีของลูกของคุณเสมอไป
เพราะต้นแบบที่ดี โดยเฉพาะไม่มีหนี้สินรุงรัง มีหลากหลายอาชีพค่ะ "หนี้" จะเป็นตัวฉุดอนาคตของเด็กที่ร้ายแรงมากที่สุด ชีวิตเรามี
หลายทางเลือกค่ะ ไม่ได้มีแค่ทางเลือกเดียวที่คุณเห็น แค่ในวันนี้คุณเริ่มมองหาทางที่จะพยายามออกมาให้ได้หรือยังแค่นั้นเอง
อาจมีคนไม่เห็นด้วย แต่นี่คือเรื่องจริงของใครหลายคน ในสังคมจริง! ที่คุณอาจยังไม่รู้ ถ้าคุณยอมรับความจริงได้ คุณจะไปต่อได้ค่ะ
ถ้าคุณยอมจมลงได้ ทั้งพ่อแม่ และตัวเด็กเอง ก็มีหนทางให้พุ่งกระโดดสูงขึ้นจากน้ำไปได้อีกไกลเลยค่ะ ยอมลำบากวันนี้ เพื่อสบายวันหน้า
อย่าให้ลูกคุณสบายวันนี้ แต่ต้องลำบากวันหน้าเลยนะคะ ถ้าพ่อแม่มีให้เขาได้ตลอด เด็กอาจติดนิสัยความสบาย และไม่ยอมลำบากทำอะไร
เองบ้างเลยค่ะ เมื่อถึงวันที่คุณหมดตัว หรือมีปัญหาด้านการเงิน วันนั้นลูกก็ไม่เข้าใจคุณแล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาคุณมีให้เขาตลอด แล้วอยู่ ๆ
คุณไม่มีให้เขาเหมือนเดิม เด็กจะยิ่งไม่เข้าใจและอาจเตลิดไปมีชีวิตที่ไม่ดีได้ค่ะ
=====================================
Blockdit : https://www.blockdit.com/neemmy.bk
ความคิดเห็น






