อื่นๆ
พรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ยังขึ้นอยู่
ชีวิตคนเราทุกคนล้วนเกิดมาแตกต่างกัน บางคนเกิดมารวยมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ บางคนเกิดมาจนแทบจะไม่มีกินครอบครัวแตกแยก สิ่งเดียวที่ทำให้คนเหล่านั้นอยู่ต่อสู้ได้ก็คือคำว่า "สู้" อย่างเดียวเท่านั้น ชีวิตคนเราไม่ได้มีอะไรที่แน่นอนและไม่ได้แย่ไปตลอด บางคนอาจจะเคยล้มลุกคลุกคลานมาในอดีตแต่ปัจจุบันกลับยืนได้ เลี้ยงครอบครัวได้ บางคนอาจจะเจอเรื่องที่แย่ๆมาในชีวิตไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่แยกทางกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันในพี่น้องและหลายๆเรื่องราวอีกมากมาย
ผมก็เช่นกันชีวิตที่ใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบมาตลอด อยากได้อะไรก็ได้ อยากกินอะไรก็ได้กินเพื่อนมีอะไรผมก็มีเหมือนกัน แต่ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆผมโตมาจนถึงอายุ 30 ปีไม่เคยคิดเลยว่าเหตุการณ์ในชีวิตจะเกิดขึ้นในช่วงที่ผมอายุ 30 ปีผมเจอเรื่องร้ายๆมามากมาย เหตุการณ์ที่หนักสุดคือพ่อแม่ผมเลิกกันโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ไม่ได้โกรธทั้งคู่และก็ไม่ได้ถามเหตุผล ถามว่าเสียใจไหม ตอบเลยว่ามาก แอบนอนร้องไห้ทุกคืนได้แต่เก็บความเสียใจไว้ภายในไม่แสดงออกให้ใครเห็น หลังจากที่พ่อแม่เลิกกันได้ประมาณ 1 เดือนจนผมเริ่มทำใจรับกับมันได้ ผมต้องมาเจอกับเหตุการณ์อีกอย่างก็คือแฟนที่คบกันมา 4 ปีบอกเลิกโดยไม่มีสาเหตุซึ่งช่วงนั้นผมบอกตรงๆว่าในสมองมันมืดไปหมด มีความคิดว่าแวบหนึ่งขึ้นมาในหัวคืออยากจะตาย ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะได้จบ ช่วงเวลาหนึ่งผมมานั่งคิดกับตัวเองว่าเราทำอะไรผิดผ่านมา จนกระทั่งวันหนึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งมานั่งเล่นที่บ้านมันบอกผมว่า เฮ้ยเดี๋ยวอีกอาทิตย์หนึ่งมันจะบวชนะ มันถามผมว่าเอ็งไม่สบายใจอยู่แบบนี้ไปบวชพร้อมกันไหมจะได้บวชเป็นเพื่อนกัน ผมตอบอย่างไม่คิดเลยว่า เออดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อนนับว่าเป็นการตัดสินใจเร็วมากที่ผมจะบวชต้องหลังจากนั้นก็โทรไปปรึกษาพ่อกับแม่ว่าผมจะบวช หลังจากวันนั้นถัดมา1 อาทิตย์ผมบวชเป็นพระภิกษุครั้งแรกตั้งใจจะบวชประมาณ 15 วันเพื่อให้คลายความเครียดให้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผมบวชได้ประมาณ 10 วันหลายๆสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปพูดง่ายๆ ว่าธรรมะสอนอะไรหลายอย่าง ครั้งแรกตั้งใจจะบวช 15 วันจนผมบวชอยู่ครบ 15 วันแม่ก็โทรมาถามว่าจะสึกวันไหนผมไม่แน่ใจว่าทำไมตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ผมเลยบอกแกว่าขออยู่ต่อให้ครบเดือนแกก็ว่าตัดสินใจแล้วใช่ไหมผมตอบว่าครับ โอเคก็อยู่มาเรื่อยๆซึมซับมาเรื่อยๆจนครบ 1 เดือนอีกไม่กี่วันจะเข้าพรรษาแล้วถ้าจะสึกต้องรีบสึก แม่ก็โทรมาถามอีกว่าจะสึกวันไหน ผมบอกแม่ไปว่าผมจะอยู่ต่อเข้าพรรษายังไงก็บวชแล้วให้ได้ 1 พรรษา จนเข้าพรรษาจนล่วงเลยมา 3 พรรษาผมบวชไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบนักธรรมชั้นเอก ผมตัดสินใจสึกออกมาไม่อยู่ต่อพรรษาที่ 4 หลังจากสึกออกมาชีวิตผมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยจากที่เป็นคนคิดมาคิดเล็กคิดน้อย อารมณ์ร้อน โกรธง่าย ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนไปหมด กลายเป็นคนใจเย็นไม่คิดมากปล่อยว่างกับสิ่งต่างๆ ยอมรับได้กับสิ่งที่มันจะเกิดต่อไป ตั้งใจทำงานหนักเอาเบาสู้
Advertisement
Advertisement
สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิต เจอปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิตจงยิ้มสู้กับมันและยอมรับมันให้ได้ ไม่มีใครหรอกครับที่ชีวิตจะแย่เสมอไป ดวงอาทิตย์ขึ้นใหม่ในทุกๆวันครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
เครดิตภาพถ่ายทั้งหมด.... k_siwasan
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น