อื่นๆ

ลองของป่าช้าจีน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ลองของป่าช้าจีน
  • ครั้งหนึ่งในชีวิตวัยรุ่น ต้องมีบางช่วงเวลา ที่จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับภูตผี วิญญาณ เข้ามาในชีวิต บางคนก็ไม่เชื่อ แต่บางคนก็เข้าขั้นงมงาย ผมก็เป็นอีกหนึ่งคน ที่ชอบเรื่องเร้นลับ และเรื่องภูตผีวิญญาณ แต่ก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เลย

ช่วงตกงาน เวลาว่างผมเยอะ วันๆ ไม่รู้จะทำอะไร เที่ยวตะลอนไปบ้านคนนั้นที คนโน้นที บางครั้งก็ไปนั่งเกะกะอยู่ตามสวนสาธารณะ ตกเย็นก็ตั้งวงดื่มกินไปวันๆ เวียนว่ายตายเกิดไปอยู่แบบนี้จนไม่มีที่จะให้ตั้งวงแล้ว นั่งร้านอาหาร ค่าใช้จ่ายก็สูง นั่งบ้านเพื่อนๆ ก็เสียงดังโวยวายจนเพื่อนบ้านรำคาญ นั่งบ้านตัวเองก็น่าเบื่อ จะให้หยุดดื่มหยุดเที่ยว ก็กลัวจะใช้ชีวิตช่วงอิสระไม่คุ้มค่า คิดไปคิดมา จึงชวนกันไปดื่มในที่สาธารณะ การกระทำเช่นนี้ไม่ควรทำเด็ดขาดเพราะอาจจะไปรบกวนคนอื่นๆได้ง่ายมาก

Advertisement

Advertisement

พวกผมตั้งวงนั่งดื่มกินกันข้างชายคลองแห่งหนึ่ง ชายคลองแห่งนี้ สามารถขับรถลงมาจอดได้ถึงริมคลองเลยทีเดียว พวกผมจึงเปิดท้ายปูเสื่อนั่งรับลมชมวิวกันสบายอารมณ์ พอเริ่มตึงๆ แต่ไม่ถึงกับเมา ก็หาเรื่องสนุกเล่นกัน แต่การเล่นสนุกของพวกเรา จะให้ธรรมดาเหมือนคนอื่นได้อย่างไร พวกเราจึงชวนกันไปเล่นซ่อนหากันใน " ป่าช้าจีน " ตอนเที่ยงคืน

เนื่องจากป่าช้าจีนที่พวกผมจะไปเล่นซ่อนหากัน เส้นทางเป็นหลุมเป็นบ่อ รถปิ๊กอัพโหลดเตี้ยติดดินคงไม่สะดวกนัก พวกเราจึงเปลี่ยนไปใช้มอเตอร์ไซค์กันคนละคัน พวกเราสี่คน ก็ใช้มอเตอร์ไซค์สี่คัน ระหว่างทางไปป่าช้าจีน ต่างคนก็พูดลองดีอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนก็เตือนเพื่อนๆว่าอย่าพูดหรือทำอะไรที่โบราณเค้าห้าม ประมาณว่า " ไม่เชื่อต้องลบหลู่ เอ๊ย! ไม่ใช่ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ต่างหาก "

ขับรถกันมาพักใหญ่ ก็เจอที่หมาย ป่าช้าจีนอายุกว่า 200ปี ป่าช้าแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา เนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 50 ไร่เห็นจะได้ ทางเข้าป่าช้าจีน เป็นเสาปูนขนาดใหญ่ มีหลังคาเล็กๆแขวนป้ายไม้เป็นภาษาจีนเอาไว้ ในป่าช้าจีน มีไฟส่องสว่างเพียงดวงเดียวคือตรงศาลากลางป่าช้า และไม่รอช้า เมื่อดูเวลาก็เกือบเที่ยงคืนพอดี พวกเราจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้คนละจุด รถมอเตอร์ไซค์ที่เราจอดอยู่ห่างกันคันละประมาณ 20 เมตร แต่คันของผม จอดไกลที่สุด เพราะผมมาถึงก่อนคนอื่นเขา เมื่อจอดรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย พวกเราก็พากันเดินขึ้นไปบนศาลาที่อยู่กลางป่าช้า ลมเย็นๆ บรรยากาศเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่เสียงของแมลง ไม่มีแสงไฟจากบ้านผู้คน ก็ใช่นะสิ! ใครจะมาปลูกบ้านใกล้ป่าช้าอยู่กัน

Advertisement

Advertisement

เมื่อเดินมาถึงศาลากลางป่าช้า เราก็เริ่มจับไม้สั้นไม้ยาว กติกาคือ หากใครได้ไม้สั้นต้องเป็นคนหาเป็นคนแรก และผู้ถูกหาเจอคนแรก ต้องเป็นคนหาในเกมต่อๆไป เกมจะจบ เมื่อถึงเวลา ตีสี่ ใครเป็นคนโดนหาเจอคนแรกเยอะที่สุด ต้องเลี้ยงข้าวมื้อเที่ยง 1 อาทิตย์ กฎนี้เล่นเอากระเป๋าแห้งได้ง่ายๆ เกมส์แรกเพื่อนของผมเป็นคนที่ต้องหาคนแรก พวกเราตกลงกันว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ให้ตะโกนเรียกเพื่อนๆแล้วมารวมตัวกันที่ศาลากลางป่าช้า และห้ามออกจากบริเวณป่าช้าเด็ดขาด " พื้นที่ 50 ไร่ ใครวิ่งไปซ่อนได้จนสุดเขต ก่อนที่คนหาจะนับ 1 ถึง 100 เสร็จนี่ก็เก่งละ "

ไม่ทันขาดคำ เพื่อนของผมก็เอามือปิดตาแล้วหันหน้าเข้าหาเสาของศาลา และเริ่มนับโดยไม่ทันให้พวกเราตั้งตัว อยู่ทำไมละครับ ไม่อยากเสียเงินค่าข้าว 1 อาทิตย์ ก็ต้องไปไกลหน่อยละ ผมกับเพื่อนๆที่เหลือต่างคนต่างวิ่งไปหาที่หลบซ่อนกันคนละทิศละทาง ณ ตอนนั้น ไม่มีเรื่องผีเข้ามาในสมองเลยครับ กลัวเสียค่าข้าวมื้อเที่ยงมากกว่า ผมวิ่งซิกแซ็กหลบสุสานไปเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงเพื่อนผมนับถึง 90 ผมจึงหยุดและหลบเข้าหลังสุสานเก่าๆที่มีหญ้าขึ้นเล็กน้อยรอบๆ เพื่อนผมคนที่รับหน้าที่หาเป็นคนแรกตะโกนว่า " จะเริ่มหาละนะ " ผมจึงขยับตัวหาช่องว่างเพื่อมองว่า เพื่อนคนที่หาเขาเดินไปทางไหน คนหาจะสามารถใช้ไฟฉายได้ แต่เป็นไฟฉายพวงกุญแจเล็กๆ มีหลอดไฟดวงเล็กๆแค่ดวงเดียว ผมขยับมองตามแสงไฟฉายเป็นหลัก เพราะมองเห็นง่ายที่สุด กะไว้ว่าถ้าเพื่อนมันมาทางผม ผมจะได้ขยับหนีไปเรื่อยๆทัน

Advertisement

Advertisement

มันมาแล้ว เพื่อนคนที่เป็นคนหา เดินตรงมาทางผม เขาคงตามรอยหญ้า ที่เป็นรอยเหยียบมา เดินใกล้เข้ามาทางผม " ไม่ทันแล้ว " ผมนึกในใจ ตอนนี้ถ้าขยับออกไปมันต้องหาเจอแน่นอน แต่แล้วโชคก็ช่วย " นั้นแน่ จับได้แล้วนะ " เพื่อนผมอีกคนมันหลบข้างหน้าผม ทำให้โดนจับได้คนแรก เมื่อจับเพื่อนได้คนแรก คนหาก็หันหลังกลับไปทางอื่น " รอดแล้วเรา " ผมโล่งใจ กฎข้อต่อไปคือ หากเราวิ่งไปแตะไหล่คนที่หาได้ คนที่เป็นคนหา ต้องหาต่ออีกเกม คนหาจึงระวังตัวเป็นพิเศษ ผมพยายามอ้อมไปทางด้านหลังของคนหา เพื่อที่จะเข้าไปแตะไหล่คนหาให้ได้ แต่ระยะมันไกลมาก จึงต้องค่อยๆหลบไปตามสุสานนั้นทีโน้นทีเรื่อยๆ " เจอละ ออกมาเลย นอนสบายเลยนะเอ็ง " เสียงคนหาจับเพื่อนผมได้อีกคน สิ้นเสียงคนหา เพื่อนผมคนที่แอบอยู่อีกคนก็พุ่งพรวดมาเพื่อจะแตะไหล่คนหา แต่ช้าไป คนที่หาดันไหวตัวทันและจับเพื่อนทั้งสาม?ได้ในที่สุด

" ใครโดนคนแรกวะ เป็นคนหาต่อเลย " เพื่อนผมคนที่หาคนแรกพูดขึ้นมา ผมแปลกใจ มันยังหาผมไม่เจอเลย แล้วจะเริ่มเกมใหม่ได้ยังไง ผมชักใจไม่ดี หันซ้ายหันขวา แล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นตะโกนว่า " เฮ้ย! หายังไม่ครบ จะเริ่มเกมใหม่ได้ยังไง " สี่คนที่ยืนอยู่ที่ศาลา หันมองมาที่ผมเป็นสายตาเดียวกัน

พวกเรามากัน 4 คน รถ 4 คัน เพื่อนผมคนที่หา 1 คน พวกผมซ่อนกัน 3 คน แต่ตอนนี้ทำไมมี 5 คน ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วในศาลานั้นใคร ซักพักไฟกลางศาลาก็ดับ เพื่อนผมที่อยู่ในศาลาต่างคนต่างวิ่งลงจากเนินเขา เพื่อไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ ผมก็วิ่งตามลงไปแบบล้มลุกคลุกคลาน เมื่อลงไปถึง กลับพบมอเตอร์ไซค์ของผมแค่คันเดียว ของเพื่อนๆอีก 3 คันหายไปไหน ผมไม่สนใจ ผมรีบวิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์ของผมทันที เมื่อไปถึงที่มอเตอร์ไซค์ผมทำท่าจะสตาร์ทเครื่อง ก็มีสายเรียกเข้า ดังจากโทรศัพท์มือถือ ผมรีบรับสาย ปลายสายพูดว่า " เอ็งหายไปไหนวะ ไหนว่าจะไปเล่นซ่อนหากันที่ป่าช้าจีน พวกเรา 3 คนรอเอ็งอยู่ที่ริมคลองนานแล้วนะ ขาดแต่เอ็งคนเดียว " ผมงงมาก ในหัวมีคำถามว่า แล้วที่ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ตามกันมามันคืออะไร? แล้วที่ผมคุยและเล่นซ่อนหาละ พวกนั้นคือใคร? แล้วตอนนี้ พวกนั้นหายไปไหน?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์