อื่นๆ
สรุปหนังสือขายดี "วิธีขโมยความสำเร็จจากอนาคต" (กฎข้อที่ 1-9)
“ชีวิตที่เหมือนกุญแจที่ต้องไขด้วยรหัส
หน้าที่ของคุณคือ ค้นหาตัวเลขที่ใช่
และหมุนไปในตำแหน่งที่ถูกต้อง
คุณจึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”
-ไบรอัน เทรซี่-
.
“คุณจ้างให้คนอื่นวิดพื้นแทนคุณไม่ได้
ถ้าคุณอยากได้ประโยชน์จากมัน
คุณจะต้องทำด้วยตัวเอง”
.
“อย่าเชื่อในสิ่งใด ไม่ว่าจะอ่านจากที่ไหนหรือใครเป็นผู้พูด
แม้กระทั่งเราพูดออกมาเอง
เว้นเสียแต่ว่ามันสอดคล้องกับเหตุผลและสามัญสำนึกที่มีอยู่”
-พระพุทธเจ้า-
===================================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay
กฎข้อที่ 1
“คุณต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง
คุณไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์
ฤดูกาล หรือลมฟ้าอากาศ
แต่คุณสามารถเปลี่ยนตัวเองได้”
-จิม รอห์น-
.
“99% ของความผิดพลาดทั้งหมด
มาจากผู้คนที่ชอบแก้ตัวจนเป็นนิสัย”
Advertisement
Advertisement
-จอร์จ วอชิงตัน คาร์เวอร์-
.
“สิ่งที่หยุดยั้งคุณไม่ใช่เงื่อนไขและสถานการณ์ภายนอก
แต่เป็นตัวคุณเอง!”
.
“ทุกอย่างที่คุณเจอในวันนี้ คือ
ผลลัพธ์ของสิ่งที่คุณเลือกทำในอดีต
คุณแค่ต้องควบคุม 3 สิ่งในชีวิตของคุณให้ได้
นั่นคือ ความคิดต่างๆ ที่คุณมี
ภาพในใจที่คุณเห็น
และสิ่งที่คุณกระทำ ”
.
“ถ้าคุณยังคงทำแต่สิ่งที่คุณทำอยู่เสมอ
คุณจะได้รับแต่สิ่งที่คุณได้รับเสมอเช่นกัน”
.
“วันที่คุณเปลี่ยนการตอบสนองของคุณ
คือ วันที่ชีวิตของคุณจะเริ่มดีขึ้น!”
.
“การกล่าวโทษรังแต่จะทำให้เสียเวลา
ไม่ว่าคุณจะหาข้อผิดพลาดของคนคนหนึ่งได้มากเท่าไหร่
และไม่ว่าคุณจะกล่าวโทษเขาคนนั้นมากเพียงใด
มันก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงตัวคุณได้”
-เวย์น ไดเออร์-
.
“จงตัดสินใจที่จะเลิกบ่น
เลิกเสียเวลาอยู่กับพวกที่ชอบบ่น
และก้าวไปข้างหน้า เพื่อสร้างชีวิตในแบบที่คุณฝัน”
Advertisement
Advertisement
.
“จงเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนการบ่นให้เป็นการขอร้อง
และลงมือทำในสิ่งที่จะทำให้คุณบรรลุผลลัพธ์ที่คุณปรารถนา
นั่นเป็นสิ่งที่คนประสบความสำเร็จทำกัน”
.
“คุณเท่านั้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง
และทำบางอย่างให้ต่างออกไป
โลกใบนี้ไม่ได้ให้อะไรกับคุณ
คุณต้องมันขึ้นมาเอง”
.
เช่น
แทนที่จะพูดว่า
“ฉันรู้สึกเหมือนตกเป็นเหยื่อ
ฉันรู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้
สำหรับฉันไม่มีอะไรที่ราบรื่นเลยสักอย่าง“
.
ให้เปลี่ยนเป็น
“ฉันรู้สึกเยี่ยมมาก ฉันเป็นฝ่ายควบคุม
ฉันทำในสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง”
.
“คุณเป็นผู้ที่กำลังสร้างชีวิตของคุณในแบบที่มันเป็นอยู่
ชีวิตที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นผลมาจากความคิด
และการกระทำทั้งหมดในอดีตของคุณ
คุณต้องรับผิดชอบต่อความคิดและความรู้สึกของคุณในปัจจุบัน
คุณต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณพูดและทำ
Advertisement
Advertisement
คุณยังต้องรับผิดชอบต่อสิ่งต่างๆ ที่เข้าสู่หัวคุณ
.
ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสารที่คุณอ่าน
ภาพยนตร์และรายการทีวีที่คุณดู
ผู้คนที่คุณคบหาด้วย
.
ทุกการกระทำอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้น”
.
จงถามตัวคุณเองว่า
“ฉันเป็นคนสร้างสิ่งนี้ขึ้นหรือปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”
“อะไรบ้างที่ฉันทำอยู่แล้วได้ผลและฉันต้องทำให้มากขึ้น”
“อะไรบ้างที่ฉันทำอยู่แต่ใช้ไม่ได้”
“อะไรบ้างที่ฉันควรทำให้น้อยลง”
“อะไรบ้างที่ฉันยังไม่ได้ทำ
ซึ่งฉันต้องลองทำว่ามันใช้ได้หรือไม่?”
.
“คนอื่นไม่อาจทำสิ่งนี้ให้กับคุณได้
มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะทำได้”
.
“ทำในสิ่งที่ได้ผลให้มากขึ้น
ทำในสิ่งที่ไม่ได้ผลให้น้อยลง”
.
“ให้ความใส่ใจกับผลลัพธ์ต่างๆ ที่คุณกำลังสร้างอยู่ตอนนี้
คุณต้องเลิกแก้ตัว เลิกหาเหตุผลมาอ้าง
และยอมรับผลลัพธ์ที่คุณสร้างขึ้น”
.
‘อย่าหลอกตัวเอง ซื่อสัตย์กับตัวเองให้มากที่สุด
จงใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์”
=====================================================
กฎข้อที่ 2
“จงเรียนรู้ที่จะสัมผัสกับความเงียบภายในตัวคุณ
และรับรู้ว่าทุกสิ่งในชีวิตล้วนมีจุดมุ่งหมาย”
-แพทย์หญิงเอลิซาเบธ คูเบลอร์-รอสส์-
.
“การเดินไปตามจุดมุ่งหมาย หมายถึง
คุณกำลังทำในสิ่งที่คุณรักที่จะทำ
ทำในสิ่งที่คุณทำได้ดี
และทำสิ่งที่สำคัญต่อคุณให้สำเร็จ
.
เพราะเมื่อคุณทำในสิ่งที่สอดคล้องกับ
จุดมุ่งหมายที่แท้จริงในชีวิต
การกระทำทุกอย่างของคุณจะสนับสนุนผู้อื่นไปโดยอัตโนมัติ”
.
“ตัดสินใจเลือกจุดมุ่งหมายที่สำคัญในชีวิตของคุณออกมา
และจัดกิจกรรมทั้งหมดของคุณให้สอดคล้องกับมัน”
-ไบรอัน เทรซี่-
.
“ทุกสิ่งที่คุณทำควรเป็นการแสดงออกถึงจุดมุ่งหมายของคุณ
ถ้ามีกิจกรรมใดก็ตามที่ไม่สอดคล้อง
คุณก็ไม่ควรทำอีกต่อไป”
.
“สุดยอดความลับของความสำเร็จ คือ
ต้องค้นให้เจอว่าคุณรักที่จะทำอะไร
ตั้งแต่อายุยังน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
จากนั้นค่อยจัดแจงชีวิตของคุณให้สอดคล้องกัน
โดยคิดให้ตกว่าจะหาเลี้ยงตัวเอง
ด้วยการทำสิ่งนั้นได้อย่างไร?”
.
“เมื่อคุณรู้ชัดเจนว่าอะไรนำความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดมาให้
คุณจะมีความเข้าใจในจุดมุ่งหมายของคุณอย่างถ่องแท้”
.
แบบฝึกหัดจุดมุ่งหมายในชีวิต
1. เขียนคุณลักษณะส่วนตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณมา 2 ข้อ
2. เขียน 1-2 วิธีที่คุณสนุกกับการแสดงออกถึงคุณลักษณะเหล่านั้นต่อผู้คน
3. สมมุติว่าโลกนี้สมบูรณ์แบบ โลกใบนี้จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
ทุกคนจะแสดงออกต่อกันอย่างไร คุณรู้สึกอย่างไร
เขียนออกมาให้อยู่ในรูปปัจจุบันกาล
.
“จงจำไว้ว่า โลกอันสมบูรณ์แบบเป็นสถานที่
ที่เราจะมีความสุขกับการใช้ชีวิต
===================================================
กฎข้อที่ 3
“ขั้นตอนแรกซึ่งขาดไม่ได้ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต
คือ ตัดสินใจให้ได้ว่าคุณต้องการอะไร”
-เบน สไตน์-
.
“1 ในเหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ คือ
พวกเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าต้องการอะไร
พวกเขายังไม่ได้กำหนดความปรารถนาของตน
ให้มีรายละเอียดที่ชัดเจนและดึงดูดใจพอ”
.
“อย่าใช้ชีวิตตามความฝันของคนอื่น”
.
“ให้เกียรติสิ่งที่คุณชอบในทุกๆ สถานการณ์
ไม่ว่าจะสถานการณ์ใหญ่หรือเล็ก
อย่าคิดว่าเรื่องขี้ปะติ๋ว
เพราะมันอาจไม่มีผลอะไรกับใคร
แต่มันมีผลกับคุณ!”
.
“จงทำตัวให้เหมือนกับว่า
คุณมีสิ่งที่ชอบมากกว่าอยู่แล้ว”
.
“คุณสมควรได้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
อย่างที่คุณต้องการจริงๆ”
“เขียนสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการทำ 30 อย่าง
สิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการมี 30 อย่าง
และสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องการจะเป็นก่อนตายอีก 30 อย่าง”
.
“เขียนสิ่งต่างๆ ที่คุณรักสัก 20 อย่าง
และให้คิดถึงวิธีต่างๆ ที่คุณสามารถหาเลี้ยงชีพ
จากการทำสิ่งเหล่านั้น”
.
“ทำวิสัยทัศน์ของชีวิตในอุดมคติให้ชัดเจน
คุณอยู่ที่ไหน และคุณต้องการจะไปยังที่ใด”
.
วิสัยทัศน์ของคุณจำเป็นต้องประกอบด้วย 7 ด้าน ดังต่อไปนี้
- อาชีพการงาน
- การเงิน
- การพักผ่อนหย่อนใจและเวลาว่าง
- สุขภาพ
- ความสัมพันธ์
- เป้าหมายส่วนตัว
- การบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม
- .
“ถ้าคุณมองเห็นอย่างชัดเจนว่ามันคืออะไร
วิธีการจะตามมาเอง”
.
“ตัดสินใจว่าคุณต้องการไปที่ไหน
ด้วยการทำวิสัยทัศน์ของคุณให้ชัดเจน
กำหนดจุดหมายปลายทางด้วยการตั้งเป้าหมาย
การกล่าวคำพูดยืนยัน และการนึกภาพ
แล้วเริ่มเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
.
“เมื่อคุณทำให้วิสัยทัศน์ของคุณชัดเจน
และจดจ่ออยู่กับมัน
ขั้นตอนต่างๆ ที่แน่ชัดจะปรากฏขึ้นตลอดเส้นทาง”
.
“สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับพวกเราส่วนใหญ่
ไม่ใช่การที่เราหวังสูงจนเกินไปแล้วไปไม่ถึง
แต่เป็นการที่เราหวังต่ำเกินไปจนเราไปได้ถึงต่างหาก”
-ไมเคิล แองเจโล-
.
“อย่าจำกัดวิสัยทัศน์ของตัวเอง
จงปล่อยให้มันขยายออกไปให้ใหญ่อย่างที่มันเป็น”
.
“จงฝันให้ยิ่งใหญ่ไว้เสมอ
ความฝันจะยิ่งดึงดูดผู้คนที่ยิ่งใหญ่เข้ามา”
.
“การสร้างฝันใหญ่ๆ ไม่ได้ใช้พลังมากไปกว่า
การสร้างฝันเล็กๆ เลย”
.
“ถ้าคุณจำกัดทางเลือกของคุณอยู่กับสิ่งที่เป็นไปได้หรือสมเหตุสมผล
คุณได้ตัดขาดตัวเองจากสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
และสิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือความไม่ดีพอเท่านั้น”
-โรเบิร์ต ฟริตซ์-
.
“อย่าปล่อยให้คนอื่นเกลี้ยกล่อม
ให้คุณหันเหออกจากวิสัยทัศน์”
.
“สร้างอนาคตของคุณจากอนาคต
ไม่ใช่จากอดีต”
-เวอร์เนอร์ เออร์ฮาร์ด-
===================================================
กฎข้อที่ 4
“ปัญหาอันดับ 1 ที่ฉุดรั้งคนอเมริกันไม่ให้ประสบความสำเร็จ
ในทุกวันนี้คือการขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง”
-อาร์เธอร์ แอล. วิลเลียมส์-
.
“สมองเป็นเครื่องมืออันทรงพลัง
มันสามารถมอบเกือบทุกสิ่งที่คุณต้องการได้
แต่คุณต้องเชื่อว่า สิ่งที่คุณต้องการนั้นเป็นไปได้”
.
“คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการจะเป็น
เพียงแค่คุณมีความเชื่อมั่นมากพอ และลงมือทำตามศรัทธาของคุณ
สิ่งใดก็ตามที่สมองเข้าใจและเชื่อได้
จะสามารถทำให้สำเร็จได้”
-นโปเลียน ฮิลล์-
.
“เชื่อมั่นในตัวคุณเอง
และไล่ตามความฝัน”
.
“ไม่ช้าก็เร็ว ผู้ที่จะชนะ
คือ ผู้ที่คิดว่าตัวเองสามารถทำได้”
-ริชาร์ด บาค-
.
“ที่ผู้คนส่วนใหญ่ล้มเหลวไม่ใช่
เพราะพวกเขาขาดทักษะหรือความสามารถ
ที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย
แต่เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าตัวเอง
จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ต่างหาก”
.
สิ่งที่คุณต้องพูดกับตัวเอง คือ
“ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน
ไม่ว่าจะเลวร้ายเพียงใด
ฉันจะทำมันให้สำเร็จ!”
.
“ฉันไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันจะต้องทำให้ได้!”
.
เมื่อคุณฝืนบอกกับตัวเองว่าคุณกำลังจะทำอะไร
ไม่ว่าฝันของคุณจะเป็นอะไร
จงมองตัวเองในกระจกและประกาศออกมาว่า
“ฉันจะทำมันให้สำเร็จ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!!!”
======================================================
กฎข้อที่ 5
“มันเป็นความรับผิดชอบของคุณ
ที่จะกำหนดความเชื่อและมุมมองที่คุณมีต่อตัวเอง
คุณต้องเลือกที่จะเชื่อว่าคุณสามารถทำอะไรก็ตามอย่างที่คุณตั้งใจไว้”
.
“ไม่ว่าใครก็ตามสามารถเรียนรู้ได้เกือบทุกเรื่อง
ผ่านการพูดกับตัวเองในเชิงบวกและนึกภาพในเชิงบวก
ผสมผสานไปกับการอบรม การฝึกสอน และการฝึกปฏิบัติที่มากพอ”
.
ในบบรรดาคนประสบความสำเร็จนับร้อยๆคน มักบอกว่า
“เขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถหรือมีพรสวรรค์มากที่สุดในสาขาอาชีพของเขา
แต่เขาเลือกที่จะเชื่อว่าทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้
เขาทั้งศึกษา ฝึกฝน และทำงานหนักกว่าคนอื่นๆ
และนั่นเป็นวิธีที่ทำให้เขามายืนอยู่ในจุดนี้ได้”
.
“คุณเองก็สามารถประสบความสำเร็จในเรื่องใดๆ ก็ตาม
ถ้าคุณเพียงแต่เชื่อว่ามันเป็นไปได้”
.
“สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่ว่าชีวิตหยิบยื่นอะไรให้กับคุณ
แต่อยู่ที่ว่าคุณจะตอบสนองต่อทั้งทางความคิด
และร่างกายอย่างไรต่างหาก”
.
“คำพูดว่า ฉันทำไม่ได้ เป็นพลังด้านลบ
ซึ่งทรงพลังที่สุดในจิตใจมนุษย์”
-พอล อาร์. ชีล-
.
“ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จ
คุณต้องเลิกพูดคำว่า ฉันทำไม่ได้”
.
“คำว่า ฉันทำไม่ได้ จะดูดพลังในตัวคุณออกไป
มันทำให้คุณอ่อนแอลงเรื่อยๆ”
.
“สมองของคุณถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหา
และไปให้ถึงยังเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้
ถ้อยคำต่างๆ ที่คุณคิดและพูดออกมา
ส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณอย่างแท้จริง”
.
“คุณต้องมีความรับผิดชอบในการกำจัดคำว่า ฉันทำไม่ได้
ทิ้งไปจากพจนานุกรมของคุณ”
.
“อย่าให้ชีวิตเสียเปล่าไปกับการเชื่อว่าคุณทำไม่ได้”
.
“อย่ารอจนคุณอายุ 60 กว่าจะตัดสินใจได้ว่า
คุณสามารถทำอะไรก็ตามที่คุณต้องการ
อย่าให้แต่ละปีในชีวิตของคุณผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
จงตัดสินใจว่าคุณสามารถทำสิ่งใดก็ตามที่คุณต้องการ
และเริ่มเดินหน้าเข้าหามันตอนนี้เลย”
.
“ความเชื่อมั่นในตัวเองสำคัญกว่าความรู้
การฝึกอบรม หรือการศึกษาเล่าเรียน”
“ในการสร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จให้ตัวเอง
คุณสามารถเริ่มจากจุดไหนก็ได้”
.
“สิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
ไม่ใช่ธุระของคุณ”
.
“คุณต้องเชื่อตัวเองยามที่ไม่ใครเชื่อ
นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณเป็นผู้ชนะ”
-วีนัส วิลเลียมส์-
.
“จงเลิกกังวลถึงสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
และทำตามที่หัวใจของคุณเรียกร้อง”
.
กฎ 18/40/60 ของ ดร.แดนเนียล เอเมน ระบุว่า
“เมื่อคุณอายุ 18 ปี คุณกังวลถึงสิ่งที่คนอื่นคิดกับคุณ
เมื่อคุณอายุ 40 ปี คุณไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับคุณ
เมื่อคุณอายุ 60 ปี คุณจึงรู้ตัวว่าไม่มีใครคิดอะไรกับคุณเลย”
.
“ผู้คนต่างก็คิดถึงตัวเอง ไม่ใช่คุณ!”
.
“คุณควรเอาเวลานั้นมาคิดและทำสิ่งต่างๆ
เพื่อทำเป้าหมายของคุณให้เป็นจริงดีกว่า”
===================================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay
กฎข้อที่ 6
“การประสบความสำเร็จในชีวิตจะง่ายขึ้น
ถ้าคุณคาดหวังว่า โลกใบนี้คอยสนับสนุนและมอบโอกาสให้กับคุณอยู่เสมอ
นั่นคือสิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จทำกัน”
.
“เหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลาย
ล้วนมาพร้อมกับเมล็ดพันธุ์แห่งผลประโยชน์ที่เท่าเทียมหรือเหนือกว่า”
-นโปเลียน ฮิลล์-
.
“เรื่องเลวร้ายใดๆ ก็ตามที่คุณกำลังเผชิญอยู้ในตอนนี้
จะดีขึ้นในอนาคตเสมอ”
.
“ยิ่งคุณเริ่มมองหาสิ่งดีๆ มากเท่าไหร่
คุณก็จะได้พบมันเร็วขึ้นและบ่อยขึ้นมากเท่านั้น”
.
“ถ้าคุณคิดเสมอว่าสิ่งดีๆ กำลังจะเข้ามา
คุณจะลดความหงุดหงิดและความท้อแท้ให้น้อยลง
ขณะเฝ้ารอให้มันเกิดขึ้น”
.
คุณอาจต้องเริ่มต้นวันแต่ละวันด้วยการพูดย้ำประโยคที่ว่า
“ฉันเชื่อว่าโลกกำลังวางแผนจะมอบสิ่งดีๆ ให้ฉัน
ฉันแทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะเห็นว่ามันคืออะไร”
แล้วจงมองหาโอกาสและปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
========================================================
กฎข้อที่ 7
“ถ้าคุณต้องการมีความสุข จงตั้งเป้าหมายที่จะสั่งการความคิดของคุณ
ปลดปล่อยพลังของคุณ และจุดประกายให้คุณมีความหวังขึ้นมา”
-แอนดรูว์ คาร์เนกี-
.
“สมองเป็นกลไกหนึ่งของการเสาะหาเป้าหมาย
ไม่ว่าคุณจะกำหนดเป้าหมายใดให้กับจิตใต้สำนึกของคุณ
สมองจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อทำเป้าหมายนั้นให้เป็นจริง”
.
“จงระบุเป้าหมายทุกด้านของคุณให้เฉพาะเจาะจงมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในทุกๆด้าน
ไม่ว่าจะเป็นแบบ รุ่น สี ปีที่ผลิต และคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ อย่างขนาด น้ำหนัก รูปร่าง
และรูปแบบ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ”
.
“จงจำไว้ว่า เป้าหมายที่คลุมเครือจะให้ผลลัพธ์ที่คลุมเครือเช่นกัน”
.
“ถ้าคุณมีแบบ้านในฝันที่คุณอยากเป็นเจ้าของ
จงเชียนลักษณะเฉพาะลงไปจนถึงรายละเอียดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นทำเล ที่ตั้ง ภูมิทัศน์ เฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ เครื่องเสียง
และแผนผังภายในบ้าน ถ้าสามารถหาภาพของบ้านหลังนั้นได้ ก็ให้หามาเก็บไว้”
.
“เมื่อคุณเขียนทั้งหมดออกมาแล้ว จิตใตสำนึกของคุณจะรู้เองว่าต้องทำอะไรบ้าง
มันจะรู้ว่าควรให้ความสนใจไปที่โอกาสใดในการช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ”
.
“คุณจำเป็นต้องมีเป้าหมาย
ที่ดึงศักยภาพของตัวเองออกมา”
.
“เมื่อคุณกำหนดเป้าหมาย จงทำให้แน่ใจว่าได้เขียนเป้าหมายยากๆไว้ด้วย
ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะดึงศักยภาพของคุณออกมา
เป้าหมายที่บีบให้คุณต้องเติบโตขึ้น เพื่อบรรลุผลสำเร็จนั้นมีประโยชน์
การมีเป้าหมายที่ทำให้รู้สึกอึดอัดบ้างเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นเรื่องดี”
.
“เป้าหมายสูงสุดยังทำให้คุณเป็นผู้ช่ำชองในด้านการใช้ชีวิตด้วย
การที่จะทำได้เช่นนั้นจะต้องอาศัยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
การขยายมุมมองเพื่อให้เห็นความเป็นไปได้ต่างๆ
การสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และการเรียนรู้ที่จะเอาชนะความกลัว
ความลังเล และอุปสรรคของคุณ”
.
“การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเพียงเป้าหมายเดียว
จะเปลี่ยนทุกสิ่งไปอย่างสิ้นเชิง”
.
“อ่านทวนเป้าหมายของคุณ วันละ 3 ครั้ง
ด้วยเสียงดังฟังชัดเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
และความกระตือรือร้น ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ที่เหมาะสม
หลับตาและนึกภาพแต่ละเป้าหมายราวกับว่ามันสำเร็จแล้วจริงๆ”
.
“การอ่านและนึกภาพเป้าหมายของคุณซ้ำๆ
ราวกับว่ามันสำเร็จแล้ว เป็นการเพิ่มความตึงเครียดเชิงโครงสร้าง
ซึ่งจะไปเพิ่มแรงจูงใจของคุณ ปลุกเร้าความคิดสร้างสรรค์ขของคุณ
และยกระดับความตระหนักรู้ถึงทรัพยากรต่างๆ
ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้”
.
“อย่าดูถูกพลังของการตั้งเป้าหมาย
จงทบทวนเป้าหมายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ”
.
“จัดทำสมุดเป้าหมายขึ้นมา 1 เล่ม
จงทบทวนเป้าหมายต่างๆ ในแต่ละหน้าของสมุดเป้าหมายทุกวัน”
.
“พกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของคุณ
ไว้ในกระเป๋าสตางค์”
.
“ถ้าคุณเบื่อหน่ายกับชีวิต
ถ้าคุณไม่ได้ตื่นนอนทุกเช้ามาพร้อมกับ
ความปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยมที่จะทำสิ่งต่างๆ
นั่นหมายความว่าจำนวนเป้าหมายของคุณยังไม่มากพอ”
-ลู โฮล์ทซ์-
.
“คุณควรเขียนเป้าหมายทั้งหมดในชีวิต
ที่คุณต้องการทำให้เป็นจริงออกมา”
.
“จงแบ่งเวลาให้กับการระบุเป้าหมาย 101 ข้อ
ที่คุณต้องการทำให้สำเร็จลุล่วงในชีวิตคุณ
ให้เขียนอย่างละเอียดและชัดเจน
โดยระบุว่าที่ไหน เมื่อไหร่ เท่าไหร่
รูปแบบไหน ขนาดเท่าไหร่ ฯลฯ
.
เขียนลงในกระดาษขนาด 3x5 นิ้ว
หรือไม่ก็ในหน้าสมุดเป้าหมาย
.
ทุกครั้งที่คุณบรรลุเป้าหมาย 1 ข้อ
ก็ให้ทำเครื่องหมายไว้และเขียนคำว่า
ชัยชนะลงไป”
.
“สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำความเข้าใจทันทีที่ตั้งเป้าหมายขึ้นมาก็คือ
จะมี 3 สิ่งปรากฏขึ้นมาหยุดยั้งคนส่วนใหญ่เอาไว้ แต่ไม่ใช่คุณ!
นั่นก็คือ ความกังวล ความกลัว และสิ่งกีดขวาง
เมื่อรู้เช่นนี้แล้วคุณก็สามารถปฏิบัติกับมันอย่างที่มันเป็น
โดยมองว่าเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ แทนที่จะปล่อยให้มันมาหยุดยั้งคุณ”
.
“ทั้ง 3 สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้น เพราะถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้
นั่นหมายความว่าคุณยังตั้งเป้าหมายไม่ใหญ่มากพอ
ที่จะดึงศักยภาพของคุณออกมาและทำให้คุณเติบโตขึ้น
หมายถึงยังไม่ใช่การพัฒนาตัวเองอย่างแท้จริง”
.
“การที่จะบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้นั้น
คุณจะต้องกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ขึ้นด้วย
คุณต้องพัฒนาทักษะ ทัศนคติ และความสามารถใหม่ๆ
คุณจะต้องพัฒนาศักยภาพของตัวเอง
และเมื่อทำเช่นนี้แล้ว ศักยภาพของคุณจะสูงขึ้นตลอดเวลา”
.
“คุณอาจสูญเสียวัตถุสิ่งของต่างๆ
แต่คุณจะไม่มีทางสูญเสียความชำนาญ
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเรียนรู้ในระหว่างการเดินทางไปสู่เป้าหมาย”
.
“จงใช้เวลาในการระบุเป้าหมายต่างๆ ที่คุณต้องการไปให้ถึงออกมา
คุณต้องแน่ใจว่าเป้าหมายในทุกด้านของวิสัยทัศน์จะต้องวัดผลได้
แล้วให้ตัดสินใจเลือกเป้าหมายแบบก้าวกระโดด
เขียนมันลงไปในกระดาษ และพกมันไว้ในกระเป๋าสตางค์ของคุณ
แล้วเขียนเป้าหมาย 101 ข้อที่คุณต้องการทำให้สำเร็จก่อนตาย!”
.
“เขียนขั้นตอนการปฏิบัติการในแต่ละวันอย่างเฉพาะเจาะจง
เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายต่างๆ
แล้วทำให้แน่ใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามนั้น”
.
“จงตัดสินใจให้ได้ว่าคุณต้องการอะไร
เขียนมันออกมา อ่านทบทวนอบ่างสม่ำเสมอ
และในแต่ละวัน จงทำบางสิ่งที่จะพาคุณไปถึงยังเป้าหมายเหล่านั้นที่คุณหวังไว้”
========================================================
กฎข้อที่ 8
“ความลับบของการก้าวไปข้างหน้าคือการเริ่มต้น
ความลับของการเริ่มต้นคือการแบ่งงานซับซ้อนที่มีอยู่ล้นมือ
ให้เป็นงานเล็กๆ ที่สามารถจัดการได้
จากนั้นจึงเริ่มทำงานชิ้นแรก”
-มาร์ก ทเวน-
.
“การแบ่งเป้าหมายขนาดใหญ่ให้เป็นงานที่เล็กลงมา
และทำให้สำเร็จไปทีละชิ้นๆนั้น
เป็นวิธีที่สามารถทำให้เป้าหมายใหญ่ๆ
กลายเป็นความจริงขึ้นมาได้”
.
“คุณแค่หลับตาลงและจินตนาการว่า
ตอนนี้เป็นอนาคตซึ่งคุณบรรลุเป้าหมายแล้ว
จากนั้นค่อยๆ มองย้อนกลับมายังสิ่งที่คุณต้องทำ
เพื่อให้มาถึงจุดที่คุณอยู่ในปัจจุบัน
.
อะไรคือสิ่งที่คุณทำล่าสุด
และสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
และสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีก
ไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณไปถึงสิ่งแรก
ที่คุณต้องทำเพื่อเริ่มต้น”
.
“จงค้นคว้าและตั้งคำถามจนกระทั่ง
คุณสามารถสร้างแผนการปฏิบัติที่สมจริง
ซึ่งจะพาคุณก้าวจากจุดที่คุณอยู่ข้ามไปสู่จุดที่คุณต้องการได้”
.
“คุณจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง?”
“คุณต้องออมเงินหรือหาเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่?”
“คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ อะไรบ้าง?”
“คุณจำเป็นต้องรวบรวมทรัพยากรอะไร?”
“คุณต้องการให้ใครเข้ามามีส่วนร่วมในวิสัยทัศน์ของคุณ?”
“ใครบ้างที่คุณจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ?”
“คุณจำเป็นต้องสร้างวินัยหรือนิสัยใหม่ๆ อะไรบ้างในชีวิต?”
.
“เมื่อเขียนเป้าหมายเสร็จแล้ว ให้เขียนสิ่งที่จำเป็นต้องทำในแต่ละวัน
โดยเขียนวันกำหนดเสร็จเป็นลายลักษณ์อักษร
จัดเรียงตามลำดับความเหมาะสมบนปฏิทินของคุณ
และพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เสร็จทันกำหนดการที่วางไว้”
.
“ระบุ 1 -5 สิ่งที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 วัน
จากนั้นจึงทำในสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน”
“เมื่อคุณทำงานที่ยากที่สุดเสร็จตั้งแต่เนิ่นๆ
มันจะสร้างความรู้สึกดีให้กับเวลาที่เหลือของวัน
ก่อให้เกิดแรงกระตุ้นและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณ
ซึ่งทั้งสองอย่างช่วยขับเคลื่อนให้คุณไปสู่เป้าหมายได้ไกลขึ้นและเร็วขึ้น”
.
“วางแผนแต่ละวันของคุณในคืนก่อนหน้า”
“คุณต้องการให้วันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร?
จิตใต้สำนึกของคุณจะทำงานตลอดทั้งคืน
เพื่อคิดหาวิธีสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา
เอาชนะอุปสรรค และทำให้คุณบรรลุเป้าหมายตามที่ปรารถนา”
.
“การเขียนในสิ่งที่ต้องทำในคืนก่อนหน้า
ทำให้คุณสามารถลงมือทำได้เลยในเช้าวันรุ่งขึ้น
เพราะคุณรู้แน่ชัดแล้วว่าต้องทำสิ่งใดก่อนบ้างตามลำดับ
และคุณได้รวบรวมทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้ไว้แล้ว”
======================================================
กฎข้อที่ 9
“การมีชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ดี่ที่สุด
เพราะมีใครบางคนได้ทำแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการจะทำไปหมดแล้ว
พวกเขาเหล่านั้นทิ้งร่องรอยไว้ให้คุณทั้งในรูปแบบของหนังสือ
คู่มือ รายการทางวิทยุและโทรทัศน์
การบรรยายในมหาวิทยาลัย หลักสูตรออนไลน์
การฝึกอบรม และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ”
.
“หน้าที่ของคุณ คือ แค่หาให้เจอว่ามีใครบ้างที่ได้ทำ
ในสิ่งที่คุณต้องการจะทำสำเร็จไปแล้ว”
“เมื่อคุณนำข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์
คุณจะพบว่าชีวิตก็เหมือนเกมลากเส้นต่อจุดเท่านั้น
และจุดทุกจุดได้มีผู้อื่นนลากสำเร็จมาก่อนแล้ว
สิ่งที่คุณต้องทำ คือ เดินตามพิมพ์เขียว
ใช้ระบบหรือโปรแกรมที่พวกเขาให้มา”
=====================================================
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 9 กฎสู่ความสำเร็จจากทั้งหมด 25 กฎที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้
ที่มีชื่อว่า “วิธีขโมยความสำเร็จจากอนาคต The Success Principles”
ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนถึงกฎ 25 ข้อสู่ความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก
.
“ทำไมต้องรอถึง 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี
ในเมื่อคุณเร่งความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้!”
.
เขียนโดย : JACK CANFIELD
หมวด : จิตวิทยา
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น
จำนวน : 365 หน้า
ราคาปก : 250 บาท
====================================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Neemmy BK
===================================================
แอดต้องขอขอบคุณคุณปลามากๆเลยนะคะ
ที่ส่งหนังสือดีๆเล่มนี้ “วิธีขโมยความสำเร็จจากอนาคต”
และเล่มก่อนหน้านี้ที่แอดเคยรีวิวลงเพจรีวิวหนังสือดีดี
“อยากทำก็ทำ! อย่าให้คำพูดคนฆ่าคุณ”
.
ทั้งสองเล่มเนื้อหาพรีเมี่ยม ดีสุดไปเลยล่ะค่ะ ใครไม่ได้อาจ
แอดถือว่าพลาดมากๆเลยนะคะ จัดได้ว่าเป็นหนังสือที่มีความหนากำลังดี
.
“วิธีขโมยความสำเร็จจากอนาคต” เล่มนี้ก็เหมาะสมกับกฎ 25 สู่ความสำเร็จ
ที่ได้เปิดเผยความลับของผู้ที่ประสบความสำเร็จเขาใช้กัน
ภายในเล่มอย่างละเอียดยิบ บอกถึงวิธีการขั้นตอนการคิด และลงมือทำ
มีแบบฝึกหัดแทรกเข้ามาในบางกฎ
อ่านจบแต่ละกฎคุณสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองได้ในทันที
.
โดยเนื้อหา 9 กฎแรก ที่ได้สรุปให้นั้น
จะพาคุณมาค้นหาคำตอบ เป้าหมายชีวิตตัวเองก่อนว่า
คุณอยากทำอะไร คุณมีเป้าหมายอะไรบ้างที่อยากทำให้สำเร็จ
เหมือนช่วยค้นหาความฝัน และเป้าหมายของตัวคุณเองให้เจอก่อน
พร้อมกับค่อยๆปรับทัศนคติในเชิงบวกให้ดีมากยิ่งขึ้น
.
ส่วนเนื้อหากลางเล่มถึงท้ายเล่ม ตั้งแต่กฎข้อที่ 10 – 25
จะเผยความลับการเร่งสปีดความสำเร็จให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยที่คุณอาจไม่ต้องรอนานถึง 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี อีกต่อไป
============================================
[ข้อความจากปกหนังสือด้านหลัง]
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
นั่นคือคติพจน์ประจำใจของผู้คนมากมาย
พวกเขาทุ่มเททำปัจจุบันให้ดีที่สุด
แล้วรอให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่หวังไว้สักวัน
ไม่ว่าจะรวยขึ้น เก่งขึ้น หรือประสบความสำเร็จมากขึ้น
.
ปัญหาคือบางคนต้องรอถึง 10 ปี 20 ปี 30 ปี
หรือที่แย่กว่านั้นคือต้องรอไปตลอดทั้งชีวิต!
.
แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสามารถเร่งความสำเร็จจากอนาคต
ให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้เลย
.
หนังสือเล่มนี้จะเผยกฎแห่งความสำเร็จ 25 ข้อ
ที่เรียบง่าย ใช้ได้ผลจริง และช่วยเปลี่ยนชีวิตคนมาแล้วนับล้านๆ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความสำเร็จอันดับ 1 ของโลก
.
ไม่ว่าสิ่งที่คุณวาดฝันไว้จะเป็นอะไร แค่นำกฎเหล่านี้ไปใช้
คุณก็จะเห็นตัวเองประสบความสำเร็จเร็วขึ้นได้
ราวกับกำลังนั่งไทม์แมชชีนไปในอนาคตเลยทีเดียว!
========================================================
บทความนี้ยาวมากแล้ว แอดจะมาสรุปให้ต่อในบทความหน้านะคะ
เพื่อให้ทุกคนนำไปปรับใช้ เร่งชีวิตตัวเองให้ประสบความสำเร็จเร็วมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้ความลับของกฎ 25 ข้อสู่ความสำเร็จทั้งหมดนี้ไวๆ
.
สามารถสั่งซื้อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยนะคะ ^-^
FB: https://www.facebook.com/Palibrary.official/
IG: https://www.instagram.com/palibrary.official/
======================================================
ช่องทางการติดตามอื่นๆ
Website : https://bookslovercommunity.home.blog/
IG : https://www.instagram.com/bookslover_community/
Blockdit : https://www.blockdit.com/neemmy.bk
Page FB : https://www.facebook.com/Bookslovercommunity/
======================================================
ความคิดเห็น